12 เมษายน 2556 22:14 น.
คีตากะ
เธอผู้เป็นดั่งศิลปิน...
ผู้ยลยินถ้อยธรรมลำนำขาน
ฟังเสียงฟ้าและดินด้วยวิญญาณ
ร่วมผสานกายและจิตประสิทธิ์พร
เธอผู้รักในศิลปะ...
อันอิสระเสรีชี้คำสอน
เดินตามรอยอริยะอลงกรณ์
มีอาทรสรรพสิ่งมิ่งไมตรี
เธอผู้ชื่นชมดุริยศิลป์...
เรียงร้อยจินตนาการผ่านวิถี
ด้วยดวงมานเปี่ยมล้นเสียงดนตรี
จากสรวงศรีสู่จิตพิศดาร
เธอผู้นิยมศิลปศาสตร์...
ผจงวาดความงามล้ำสืบสาน
ร้อยอักษรด้วยศิลป์จินตนาการ
ร่วมจดจารถ้อยธรรมล้ำโลกา
เธอผู้เปี่ยมด้วยความรัก...
พลีใจภักดิ์ซื่อตรงมั่นคงหนา
เธอย่อมเป็นที่รักปักวิญญาณ์
เปรียบแก้วตาดวงใจไปชั่วกัลป์
12 เมษายน 2556 22:15 น.
คีตากะ
ยินสุรเสียงร่ำไห้อาลัยรัก
ซบซ่อนพักตร์สะอื้นฝืนกันแสง
ด้วยเมตตาส่ำสัตว์ทัศน์สำแดง
ชลเนตรแห่งพุทธาข้าหวั่นทรวง
ฤาแหล่งหล้าถึงกาลอวสานสูญ
เหล่าประยูรพรากจากยากใหญ่หลวง
เข้าสู่ยุคศรีอารย์กาลผ่านล่วง
ให้แดดวงวิตกตระหนกครัน
ยิ่งแลเห็นปักษินสิ้นตักษัย
ล่วงตกในปฐวีชีพอาสัญ
หล่นจากยอดไพรพฤกษ์นึกจาบัลย์
ราวจำนรรจ์บอกลางอ้างทำนาย
สวรรค์ฤารองรับกับวิโยค
ทั่วตรีโลกฤาแจ้งแห่งความหมาย
ต่ำต้อยฤาสูงส่งคงมลาย
ไพร่ฤานายเฉกเช่นเสมอกัน
ฝากสิ่งใดให้โลกเพียงโศกสุข
จะปลอบปลุกเยี่ยงไรในความฝัน
คราละครจบลงคงจากกัน
เวทีนั้นปิดฉากการแสดง....
12 เมษายน 2556 22:16 น.
คีตากะ
ฉันมายืนรอเธอเอ่อความหวัง
เหมือนทุกครั้งผ่านมาเพลาสาย
ตรงทางแยกที่เก่าเฝ้าเดียวดาย
เพียงมุ่งหมายพานพบสบสายตา
ฉันมารอคอยเธอละเมอฝัน
ทุกวารวันนานเนาเฝ้าคอยหา
เคยนัดหมายผูกพันกันนานมา
บนถนนเหว่ว้าแสนล้าอ่อน
ฉันมาคอยอยู่นานกาลผ่านพ้น
พบเพียงคนแปลกหน้ามาสลอน
รถราวิ่งสับสนบนทางจร
สายลมอ่อนพลิ้วมาอุราป่วน
ฉันมาคอยเธอนี้ตรงที่เก่า
บนโลกเหงาเอกาพากำสรวล
หมายพาเธอก้าวข้ามความแปรปรวน
พ้นหมู่มวลมายาพาโศกี
ฉันมารอเธอนั้นอย่างมั่นหมาย
ด้วยความรักมากมายพรายสุขศรี
เหลียวแลหารอบกายนับหลายปี
แต่หามีเงาเธอจึงเพ้อครวญ....
12 เมษายน 2556 22:16 น.
คีตากะ
ขอคารวะความรัก...สักหมื่นครั้ง
ที่คงยังยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมสลาย
ผ่านพิสูจน์ทรหดบทมากมาย
เคี่ยวครำใจหลากหลายจนพรายเพริศ
ขอคารวะความรัก...แทนสักขี
คุณความดีทั่วหล้าพาก่อเกิด
เพราะมีรักจึ่งอภัยไม่ระเมิด
สิ่งประเสริฐทั้งหลายกลายงอกงาม
ขอคารวะความรัก...แม้นมักเศร้า
เพียงเพราะเขลาหลงไปใจหวิวหวาม
เกลาดวงจิตเจิดจ้าสง่างาม
กลับสู่ความรักแท้แม้เดียวดาย
ขอคารวะความรัก...ช่วยสลักเสลา
สู่ว่างเปล่าเบาบางสว่างฉาย
ดั่งจันทร์เพ็ญเด่นฟ้าคืนพร่าพราย
ยามเดือนหงายส่องสว่างกลางราตรี
ขอคารวะความรัก...ผลักดันให้
ก้าวต่อไปเผชิญโลกอันโศกศรี
ทั้งสุขทุกข์ซึมเศร้าเคล้าโลกีย์
น้อมยินดีรับไว้...ด้วยใจสงบ....
17 พฤษภาคม 2556 21:55 น.
คีตากะ
เหมือนว่าเราผูกพันรักกันมาก
ถึงพรากจากกันไกลไม่เคยสน
คล้ายเชื่อมั่นต่อกันมั่นกมล
แม้นต่างคนก้าวไปไม่ระอา
เหมือนเราเคยรักกันคงมั่นนัก
เพียงรู้จักไม่นานพานห่วงหา
ยังลึกซึ้งงดงามยามสบตา
ดั่งคบมานานปีไม่มีจาง
เหมือนความรักนิรันดร์นับกัลป์กัป
วันคืนลับล่วงไปไม่เคยห่าง
มิตรภาพลึกล้ำไม่อำพราง
เราเผยวางหัวใจให้แก่กัน
เหมือนทุกอย่างลงตัวชัวร์ว่าใช่
แต่เราไยบาดหมางต่างโศกศัลย์
มีเพียงรักแรกพบคบผูกพัน
ถ้อยจำนรรจ์ลืมเลือนเหมือนไร้ค่า
ความเป็นจริงเพราะเราไม่เข้าใจ
รักกันไปเท่านั้นมั่นหนักหนา
จึงมองข้ามความต่างหว่างอัตตา
สร้างกำแพงเสียดฟ้ามาขวางใจ
เราละเลยเรียนรู้กันวันปีผ่าน
ยามพบพานจึงห่างต่างสงสัย
เพราะกำแพงอัตตามาบังไว้
เกินกว่าใจปีนข้ามมาพบเจอ...