31 กรกฎาคม 2558 23:31 น.
คีตากะ
ขอได้ไหม...ความฝันอันเธอหวัง
ที่คงยังว่างเปล่าจะเฝ้าสาน
ช่วยต่อเติมเสริมแต่งแบ่งเจือจาน
ร่วมแผ้วพานอุปสรรคทอถักมัน
ขอได้ไหม...สิ่งหวังเธอตั้งจิต
ที่ขัดติดหนทางจะสร้างสรรค์
จะร่วมแรงแบ่งเบาเอาแบ่งปัน
ร่วมฝ่าฟันสู่หวังเคยตั้งใจ
ขอได้ไหม...ความเหงาเธอเฝ้าเก็บ
ที่หนาวเหน็บนานมาพาหวั่นไหว
จะบรรเทาเบาบางอย่างเต็มใจ
ช่วยเติมให้เต็มห้วงดวงฤดี
ขอได้ไหม...ความรักสักส่วนเสี้ยว
ที่เธอเกี่ยวกอดไว้ไม่ผลามผลี
จะเอาปลูกรดน้ำทำอย่างดี
ให้รักมีกิ่งก้านไพศาลตา
ขอได้ไหม...หัวใจช้ำเธอทำหล่น
ที่เคยป่นใครทำช้ำหนักหนา
จะล้างลบรอยแผลแก้เยียวยา
ช่วยรักษาหัวใจให้หายดี...
12 เมษายน 2556 22:12 น.
คีตากะ
บนเส้นด้ายแห่งชีวิตน้อยนิดนั้น
ดวงตะวันส่องแสงสำแดงฉาย
มิเลือกคนชนชั้นอันหญิงชาย
ทั้งดีชั่วหลากหลายพร่างพรายมา
เอื้อประโยชน์น้อยใหญ่ในสรรพสิ่ง
ล้วนละทิ้งตัวตนบนเวหา
จึ่งเท่าเทียมเปี่ยมรักแห่งมรรคา
ดาวดาษดามากมายพรายเปรมปรีดิ์
ยามอาทิตย์อัสดงทิวงคต
วันวารหมดสิ้นไปในวิถี
ทิวาพรากจากลาฟ้าราตรี
ยังคงมีหมู่ดาวพราวกมล
เดือนและดาวอาจด้อยน้อยแสงสี
แต่ราตรีมืดหมองครองเวหน
ย่อมขับเน้นสีแสงแห่งสากล
ให้แลยลระยับงามจับตา
เปรียบสังคมป่วยหนักรักห่างหาย
ความมืดพรายครอบงำดำหนักหนา
เพียงหนึ่งมิ่งมิตรแท้แผ่รักมา
อาจดีกว่าหมื่นล้านชนจนน้ำใจ...
31 กรกฎาคม 2558 23:38 น.
คีตากะ
จะลิขิตถ้อยคำเพียงพร่ำเพ้อ
แม้อาจไม่เลิศเลอล้ำอักษร
ร้อยเรียงความตามจินต์ศิลป์สุนทร
ด้วยอาวรณ์ก่อนลาน้ำตาริน
จะจดจารคำรักสลักสาส์น
สู่ห้วงมานทุกดวงด้วยเสียงศิลป์
สั่นสะเทือนทุกห้วงแห่งดวงจินต์
ก่อนชีวินล่วงลับดับมลาย
จะเรียงร้อยอักษราภาษาศาสตร์
เพียงกระดาษสุดสิ้นขาดวิ่นหาย
สีหมึกจางรางเลือนเคลื่อนละลาย
จุดประกายความฝันก่อนวันลา
จะเอื้อนเอ่ยชูเชิดเทิดความรัก
มาตรแม้นจักทนทุกข์รุกสังขาร์
ท่ามเปลวเพลิงแห่งรักหนักอุรา
พลีกายาส่องสว่างนำทางชน...
13 สิงหาคม 2558 22:55 น.
คีตากะ
อยากกลายร่างเป็นเช่นพระนารายณ์
มีเรือนกายมายมากยากนับไหว
จะแบ่งปันคอยเฝ้าเจ้าทรามวัย
คอยเอาใจจอมขวัญหมั่นดูแล
อยากจะเป็นเช่นรามาอวตาร
แผลงศรต้านพาลภัยให้ดวงแข
ส่งรี้พลมายมากฝากดูแล
ยามโฉมแม่เดียวดายหายหวาดกลัว
อยากจะเป็นเช่นพรหมบรมเทพ
ผู้คอยเก็บเดือนดาวพราวฟ้าทั่ว
นำมามอบให้ยุพินสิ้นหมองมัว
เลิกพันพัวความเศร้านานเท่านาน
อยากจะเป็นเช่นพระศิวะเจ้า
คอยปัดเป่าความทุกข์สร้างสุขศานต์
ยังจิตอรอิ่มเอมเกษมสำราญ
ทุกวันวารร่าเริงบันเทิงทรวง
แต่ความจริงเป็นชนบุคคลหนึ่ง
ผู้ที่ซึ่งเดินดินใช่ถิ่นสรวง
เพียงต่ำต้อยด้อยนักศักดิ์ทั้งปวง
เฝ้ารักห่วงคนดีนานปีมา...
12 เมษายน 2556 22:14 น.
คีตากะ
เหมือนนภาคราใสไร้เมฆหม่น
แล้วบัดดลสายฟ้าปรากฏสาย
ทิ้งรอยทาบแลเด่นเป็นประกาย
ยังใจหายด้วยแสงแห่งวิชชุดา
ราวห้วงธารกว้างใหญ่ใสสะอาด
พลันดาดาษเกลียวคลื่นกระเพื่อมถา
สร้างรอยเลือนเหมือนภาพฉาบฝุ่นทา
ล่อลวงตาเบือนบิดแผกผิดไป
ดั่งพสุธากว้างขวางวางสงบ
แต่ประสบพิรุณโถมโหมหลั่งไหล
ก่อสุ้มเสียงสนั่นแทบบรรลัย
ธารน้อยใหญ่รวยรินสุดสิ้นตา
เปรียบป่าใหญ่ชอุ่มแสนชุ่มชื่น
ต้องแตกตื่นด้วยเพลิงเริงโถมถา
สัตว์น้อยใหญ่วุ่นวายมากมายตา
เศร้าวิญญาณ์ยิ่งนักเกินหักใจ
เฉกความรักพิสุทธิ์ดุจน้ำทิพย์
เพียงชั่วพริบตานั้นพลันเฉไฉ
ด้วยตัณหาพาเพี้ยนแปรเปลี่ยนไป
รักสุกใสกลายทุกข์ท้นทวี....