28 มกราคม 2547 13:37 น.

คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต

คีตะ

เวลา  06.59  น.
ฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่าง... 
หลายวันแล้วซิ่นะที่ไม่ได้พบเขา ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงพูด  คิดถึงเหลือเกิน...
เขา.....ผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาทักทายหัวใจฉันเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว
เขา....ผู้ชายที่ฉันคิดไว้แล้วว่า เขาจะเป็นคนสุดท้ายของชีวิต

เวลา 07.59 น.
ฉันเดินไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คเมลล์ว่ามีมาถึงฉันบ้างหรือเปล่า
กล่องข้อความยังว่างเปล่า ไม่มีข้อความถึงฉันเลย....
ทั้งๆที่ปกติจะมีคนคนหนึ่งส่งมาเกือบทุกวัน

เวลา 08.30 น.
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์เขาลงไป  ตื้ด ตื้ด ตื้ด...
ฉันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ไม่มีคนรับสาย
ทำไมนะ ทั้งที่ฉันคิดถึงเขา อยากได้ยินเสียงเขา
แต่ทำไมฉันถึงกลัวว่าจะได้พูดกับเขา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
สิ่งที่ฉันรู้ในตอนนี้ก็คือ ฉันไม่อยากให้ใจของฉันถลำลึกลงไปมากกว่านี้
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว  ฉันไม่อยากเป็นคนไม่ดีในสายตาใคร

เวลา 09.00 น.
ฉันตัดสินใจโทรอีกครั้ง ขอเพียงได้ยินเสียงเขาสักครั้ง  ครั้งเดียวจริงๆ
ให้เขาได้รู้ว่าฉันเองก็คิดถึงเขาไม่แพ้กัน
ตื้ด ตื้ด .. มีคนรับสาย  " สวัสดีค่ะ" ฉันเงียบ
เสียงผู้หญิง "  ต้องการพูดสายกับใครคะ"  เงียบ
ทำไมเป็นเสียงผู้หญิงล่ะ ปกติเค้าต้องเป้นคนรับทุกทีนี่นา
ต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ  ฉันวางสาย

เวลา 09.29 น.
ฉันโทรอีกครั้ง ตื้ด ตื้ด " สวัสดีค่ะ " อีกแล้ว  ทำไมไม่เป็นเขา
"ใครโทรมาเหรอ  "เสียงเขานี่นา  ฉันจำได้
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่พูดเลย"
"ผมพูดเองดีกว่า    "  เขารับสายแล้ว
"คุณรินน้ำให้ผมหน่อย  ผมหิวน้ำ " เสียงเขาบอกผู้หญิงคนนั้น
"ฮัลโหล  นั่นคุณใช่มั๊ย "  เงียบ  เขารู้ว่าต้องเป็นฉัน
"ทำไมไม่พูดล่ะ "  เงียบ
ฉันไม่อยากพูด  ไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้  ขอแค่เพียงได้ยินเสียงเขาก้อพอ  
"คุณอยู่ที่ไหน อยู่บ้านใช่มั๊ย  "เงียบ
ไม่มีใครพูดอะไร  เหมือนกับว่าเราสองคนกำลังกำลังสื่อสารด้วยลมหายใจ
"คิดถึงนะ " ฉันหลุดปากออกไป
"เหมือนกัน  ............อยู่บ้านใช่มั๊ย  เดี๋ยวผมไปหานะ  "เขาพูด
"ไม่ต้องหรอกค่ะ"  ฉันรีบพูด เหมือนกลัวว่าเขาจะมาจริงๆ
"ทำไมล่ะคุณคิดถึงผมไม่ใช่เหรอ ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกันนะ"
"อย่าเลยค่ะ อย่าให้มันมากไปกว่านี้เลย  เท่านี้ก็มากพอแล้วล่ะ"
ฉันรีบวางสาย กลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงสะอื้น

เวลา 10.00 น.
ฉันเดินไปที่คอมพิวเตอร์ เปิดดู อีเมลล์  นึกแล้ว  มีข้อความมาหาฉันจริงๆ
ฉันเปิดออกอ่าน " ทำไมยังไม่เลิกติดต่อกับเขาอีก โทรมาหาเขาอีกทำไม ฉันขอร้องแล้วไม่ใช่เหรอ จะต้องให้ฉันทำยังไง 
คุณถึงจะเลิกยุ่งกับเราสองคนเสียที  คุณรู้มั๊ย  ฉันกำลังจะมีลูกกับเขานะ" 
น้ำตาค่อยๆ ไหลรินมาเป็นสาย  ......

เวลา 10.30 น.
ฉันบอกกับตัวเองว่า พอเสียทีกับความรักครั้งนี้ 
หลายต่อหลายครั้งที่ฉันพยายามยึดเหนี่ยวเขาเอาไว้
แต่ครั้งนี้ ฉันจะขอยอมแพ้ ยอมแพ้จริงๆ



******ขอบคุณหนังสือเล่มหนึ่ง  ที่เป็นพล็อตเรื่องนำมาให้ฉันพิมพ์เรื่องนี้*****				
24 มกราคม 2547 16:03 น.

ผู้หญิงอย่างฉัน กับฝันที่ยิ่งใหญ่

คีตะ

ฉัน ..ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงช่างฝัน
ความฝัน ร้อยแปดพันเก้า มักวิ่งวนเวียนอยู่ในหัวของฉันเสมอ
แต่ฉันรู้ดีว่า ไม่มีสิ่งไหนที่ฉันรักมากที่สุด 
เท่ากับ การได้ร้องเพลง
ฉันมักจะมีความสุขเสมอเวลาที่ได้ร้องเพลง
ทุกครั้งที่ได้ยืนอยู่บนเวทีประกวด ฉันรู้สึกว่ามันใช่เลย
แม้จะไม่ได้รับรางวัลใดใดเลยก็ตาม
เพราะเหตุนี้ฉันจึงมักชอบฟังเพลง เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า
ทำไมฉันจึงได้มี CD เทปเพลงมากมาย

มีอยู่ครั้งนึงเคยไปเทสต์ แต่ไม่ผ่าน ....
วูบแรก คิดเลยว่า ต่อไปนี้จะไม่ร้องเพลงอีกแล้ว
แต่ฉันก้อทำไม่ได้ ยอมแพ้ เหมือนกับว่ามันซึมเข้าไป
อยู่ในจิตใต้สำนึกของฉันเสียแล้ว
ฉันก็ยังพยายามเรื่อยๆ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังพยายามอยู่
และจะพยายามต่อไป...
ไฟมันยังไม่หมดไปจากตัวฉันแน่นอน

!!!!  ขออย่ายอมแพ้ อ่อนแอแม้จะร้องไห้ 
จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกล เกินจริง !!!!



เมื่อไม่นานมานี้ฉันก็เพิ่งค้นพบตัวเองอีกอย่างนึงว่า
ฉันรักการแต่งกลอน เขียนบทความ 
บทกลอนของฉันอาจไม่เพราะมากมายขนาดเอาไปลงหนังสือได้
แต่ฉันก็คิดว่ามันเพราะในความรู้สึกของฉันล่ะ
ฉันจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้มาโพสต์กลอนลงใน POEM 
มันเหมือนได้บันทึกสิ่งที่ตัวเองรัก มันเป็นผลงานของเรา
ที่มาจากสมองและสองมือ
เพียงแค่มีคนเข้ามาอ่านกลอนของฉัน แค่นั้นมันก็ทำให้ฉันดีใจ
และจะยิ่งดีใจไปใหญ่ ถ้ามีคนโพสต์ข้อความตอบ

พิมพ์ถึงตอนนี้ อยากบอกกับทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาโพสต์
กลอน กับ บทความของฉันว่า ขอบคุณ ขอบใจจริงๆ
ที่เข้ามาทำให้ความฝันของคนคนหนึ่ง สดใสขึ้นมา

มีใครหลายหลายคนบอกว่าฉันเป็นพวกเพ้อฝัน
บางทีก็น้ำเน่า แต่ฉันกลับนึกขำในใจว่า
ขณะที่พวกเขาพากันหัวเราะฉัน  คนพวกนั้นกลับไม่มีความฝัน
เป็นของตัวเองที่ตัวเองอยากจะทำเลย
บางคนปล่อยตัวเลื่อยลอย อยู่ไปวันๆ
ถึงมีความสุขก็แค่ชั่วครู่ชั่วคราว

ช่างเขา ฉันบอกได้แค่นั้น......
ขอแค่ตอนนี้ฉันได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อยู่อย่างมีความฝันก็พอ

มีกลอนอีกหลายบทกลอนที่ถูกเก็บไว้ในไดอารี ใส่กุญแจอย่างดี
ฉันไม่สามารถเอามาลงในนี้ได้ ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลายๆอย่าง

ความสุขของฉันก็ได้แค่ นั่งฟังเพลงเบาๆ หยิบปากกา
กับสมุดเล่มโปรดขึ้นมาเขียนกลอน  บางทีก็แต่งเพลง
มันมีความสุขจริงๆนะ ลองดูสิ่ง

แล้วคุณๆคนที่ช่างฝันทั้งหลาย เป็นแบบนี้หรือเปล่า
ค้นพบตัวเองเจอหรือยัง............				
23 มกราคม 2547 13:07 น.

คำแก้ตัวโง่โง่ กับ น้ำหน้าของผู้ชาย

คีตะ

เธออาจมี 100 เหตุผลที่เธอจะไป..
แต่ฉันมีเพียงเหตุผลเดียวจะให้เธออยู่
ฟังเสียงหัวใจของฉันแล้วเธออาจจะรู้
เหตุผลเดียวมีอยู้ก็คือรักเธอ....

ใช่สินะ  คนเราเมื่อถึงเวลาที่ไม่ต้องการกันแล้ว
เหตุผลไม่รู้กี่ร้อยต่อกี่ร้อยข้อก็สามารถสรรหามาอ้างได้
....คุณดีเกินไปบ้างล่ะ...   .... ผมดีไม่พอบ้างล่ะ...
แล้วก็มีคำพูดปลอบใจตามหลังมาว่า ...สักวันคุณต้องเจอใครที่ดีกว่าผม..
...น้ำเน่าสิ้นดี

...เค้าขอโทษ  เค้าผิดเอง.....
   ....เค้าคิดว่าเค้ารักผู้หญิงคนนั้น   เค้าจะเป็นคนดีแล้ว..
มีผู้ชายคนนึงเคยพูดประโยคนี้กับเรา แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินจากไป
ทำไมล่ะ แล้วถ้าเกิดเค้าอยู่กับเราเค้าเป็นคนดีไม่ได้เหรอ
เราทำให้เค้าเป็นคนดีไม่ได้เลยหรือไง!!!!!!!!

......เราไม่เคยจะรักกัน มีแต่วันที่อ่อนไหว 
ผ่านเลยไปและไม่เคยจะกลับมา
 เป็นแค่ความประทับใจที่ยังคงแน่นหนา
มีแต่ฝนแต่ฟ้าที่เข้าใจ .......

........................แต่รากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในใจ  มีความหมายที่มากมายตลอดมา				
23 มกราคม 2547 12:02 น.

คำขอบคุณ......ของคนที่ถูกทิ้ง

คีตะ

หากสามารถย้อนเวลากลับไปได้...
วันนั้นที่เค้าบอกลา  ฉันจะไม่เสียน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียว

นึกนึกแล้วก็มานั่งขำตัวเอง  ว่าทำไมต้องฟูมฟายขนาดนั้น
ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่า ผู้ชายคนนั้นไม่มีความสำคัญ
ใช่ เค้าสำคัญมาก สำคัญมากขนาดที่ถ้าหากวันใดวันนึงเค้าย้อนกลับมา
ฉันก็ยินดี ที่จะอ้าแขนรับเค้ากลับมา ด้วยความเต็มใจ

แต่ในขณะนี้ วินาทีนี้...
ฉันก้อไม่ปฏิเสธอีกเหมือนกันว่าฉันมีความสุขมากกว่าตอนที่ได้อยู่กับเขา
ฉันไม่จำเป็นต้องมาคอยนั่งพะวงว่า เค้าจะไป ชอบใคร จีบใคร
ไม่ต้องมานั่งกลุ้มว่า เมื่อไรเค้าถึงจะเบื่อฉัน  
อาจเป็นเพราะความห่างไกลก็เป็นได้ ที่ทำให้ฉันคิดแบบนี้ 
เพราะความห่างไกล มักมีอิทธิพลกับ คู่รักแทบทุกคู่อยู่เสมอ

ณ ปัจจุบันที่ฉันอยู่เวลานี้  ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป
สิ่งที่เหลืออยู่ในเวลานี้ มีเพียงแต่.....
ความทรงจำดีดีที่เราเคยมี และทำให้กัน
ฉันเชื่อนะว่า  มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนหรอก ที่จะยอมเดินออกมาจากชีวิตของผู้ชายคนนึงที่รักที่สุดอย่างเงียบๆ แบบฉัน โดยไม่มีการยื้อยุดให้เขากลับมา

ถ้าจะถามหาเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเป็นแบบนั้น
ฉันก็จะตอบออกมาอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ก็เขาไม่ต้องการเราแล้ว จะไปหน้าทนอยู่ทำไมฉันไม่อยากให้เค้าสงสาร สมเพช
ฉันเพียงต้องการให้เค้ารู้ว่า  ถึงไม่มีเค้าฉันก็อยู่ได้ และก็สามารถอยู่ได้อย่างดี
และมีความสุขเสียด้วย
แต่มีความจริงอยู่ข้อนึงที่ฉันไม่อยากให้เค้ารู้ และเค้าก็คงไม่มีวันรู้
ความจริงข้อนั้นก็คือนับจากนี้ไป จากวันที่คุณบอกลา  ผู้หญิงคนนึงที่คุณ
โยนเธอทิ้งไป และหายไปจากความรู้สึกคุณตามกาลเวลา
ผู้หญิงคนนั้นต้องอยู่กับน้ำตาแทบทุกคืน....

ก็ไม่คิดเหมือนกันว่า....ฉันก็ต้องเป็นผู้หญิงอีกคนนึงที่ถูกทิ้ง
ทิ้งแบบไม่มีเยื่อใยเสียด้วย....

ไม่โกรธ และไม่เคยโกรธ  คุณไม่ใช่คนผิด เรื่องระหว่างเราไม่มีใครผิด
ไม่มีใครถูก มีเพียงแค่คำว่า เหงา และคำว่า รัก เท่านั้น ที่เป็นสาเหตุ โดยความรู้สึกของคุณคงเป็นคำแรก ส่วนฉันเป็นคำหลังมากว่า

ขอบคุณนะ  ที่ครั้งนึงในชีวิต   คุณเคยทำให้ผู้หญิงอย่างฉันมีความสุขที่สุด
ถึงแม้มันอาจไม่นานนัก แต่มันก็ทำให้ฉันประทับใจได้อย่างไม่รู้ลืม

อิจฉานะ อิจฉาผู้หญิงที่คุณรัก

ถึงตอนนี้ ฉันก็ยังคงต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าเก่า
แบบเหงาเหงา ไม่มีใคร  แต่ก็มีความสุข

.....สุดท้าย  แต่คงไม่ท้ายสุด มีคำนึงอยากถามคุณว่า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยรักกันมั่งเลยหรือไง
มีหัวใจบ้างหรือเปล่า...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตะ
Lovings  คีตะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตะ
Lovings  คีตะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตะ
Lovings  คีตะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตะ