19 พฤศจิกายน 2549 17:33 น.
คีตศิลป์
สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
ผ่องประภัศร์พลอยหาวพราวเวหา
พริ้งไพเราะเสนาะกรรณวัณณนา
สมสมญาแห่งสวรรค์ชั้นกวี ฯ
อิ่มอารมณ์ชมสถานวิมานมาศ
อันโอภาศแผ่ผายพรายรังสี
รัศมีมีเสียงเพียงดนตรี
ประทีปทีฆรัสสะจังหวะโยน
รเมียรไม้ใบโบกสุโนกเกาะ
สุดเสนาะเสียงนกซึ่งผกโผน
โผต้นนั้นผันตนไปต้นโน้น
จังหวะโจนส่งจับรับกันไป
เสียงนกร้องคล้องคำลำนำขับ
ดุริยศัพท์สำนึกเมื่อพฤกษ์ไหว
โปรยประทิ่นกลิ่นผกาสุราลัย
เป็นคลื่นในเวหาศหยาดยินดี ฯ
บังคมคัลอัญชลีกวีเทพ
ซึ่งสุขเสพย์สำราณมาณศรี
ณ ภพโน้นในสวรรค์ชั้นกวี
แลภพนี้ในถ้อยที่ร้อยกรอง
ไม่มีเวลาวายในภายน่า
เนาในฟ้าในดินทั้งถิ่นสอง
เชิญสดับรับรศบทลบอง
ซึ่งข้าปองสดุดีกวีเอย ฯ
19 พฤศจิกายน 2549 17:19 น.
คีตศิลป์
เสียงบรรเลงจากสวรรค์ชั้นดุสิต
ให้หวนคิดถึงความรักในความหลัง
ยังยินเสียงโสตเสนาะในภวังค์
ที่ยังฝังอยู่ท่ามกลางทางหัวใจ
ทิพย์คนธรรพ์จากจาตุมบรรเลงแว่ว
ว่าเรื่องรักผ่านแล้วอย่าอ่อนไหว
ดั่งเสียงซอแสร้งกรีดลงกลางใจ
จะรู้ไหมว่าตอกย้ำน้ำใจคน
ดาวดึงส์บรรเลงขู่เสียงครื้นครื้น
แล้วระรื่นคลายร้อนกับสายฝน
อิจฉาฟ้ายังได้ปลอบจากเบื้องบน
เราทุกข์ทนไร้คนรักมากเคียงกาย
ปรนิมมิตวัสสวัสตี
ท่านจะมีบทเพลงรักจากแห่งไหน
ขอเป็นเพลงที่มาปลอบที่หัวใจ
ให้แผลหายคลายช้ำนี้สักที
ไม่ทันไรยามามาทำแกล้ง
มัวมาแสร้งทำให้ใจจะหน่ายหนี
บทเพลงรักที่กรีดลงดวงฤดี
ไม่แสนดีอย่างที่รักเลยสักครา
แว่วๆเสียงปลอบโยนอยู่ใกล้ๆ
สบายใจค่อยคลายโศกลงหนักหนา
อยากขอบคุณสวรรค์ชั้นนิมมาฯ
ที่พัดพาความสุขใจมาให้ยล
เลยได้รู้ความรักนั้นค้นยาก
แม้จะฝากรักแท้ให้ใครสน
เพียงแค่หนึ่งรักแท้ใครสักคน
แล้วนำรักที่มีล้นฝากเขาไป
ขอสวรรค์ทั้งหกชั้นอันเพริศแพร้ว
บรรเลงเพลงหวานแหววสดับให้
แล้วส่งย้ำความสุขทุกหัวใจ
ให้โลกได้ซึ้งในรักประจักษ์พร
7 พฤศจิกายน 2549 18:51 น.
คีตศิลป์
กังวาลก้องเสียงระฆังดังเหง่งหง่าง
สู่หนทางแสนไกลไปสวรรค์
สีเหลืองทองผ้าทิพย์เลื่อมเรืองพรรณ
ดุจแสงทองจากตะวันอันฟ้าไกล
เสียงระฆังดังแว่วแต่เช้าตรู่
ต้อนรับสู่วันใหม่อันสดใส
หมู่พระสงฆ์ปฏิบัติตามพระวินัย
ออกเที่ยวไปรับบาตรจากญาติโยม
เหล่าชาวพุทธสุดปลื้มกันหนักหนา
ได้เวลาตักบาตรแสนสุขสม
เตรียมกับข้าวคาวหวานน่าดูชม
รสชาติขมหวานเปรี้ยวน่าเคี้ยวจริง
นิมนต์พระด้วยวาจาอันอ่อนหวาน
ถวายทานกันครบถ้วนทุกชายหญิง
ใจนึกปลื้มศาสนาให้พึ่งพิง
ยังได้สุขอันสูงยิ่งมาไว้ครอง
นั้นคือบุญจากการให้ให้ได้สุข
สิ่งทนทุกข์เคยให้ใจมัวหมอง
หากชาวพุทธปฏิบัติธรรมตามครรลอง
จักได้ครองสุขยิ่งใหญ่จากใจตน
รักษาไว้สิ่งเหนี่ยวใจอันสูงค่า
คือศาสนาอันมีค่าทุกแห่งหน
ทางสายกลางแก้ปัญหาให้ทุกคน
หมั่นฝึกตนให้รู้รักในความดี
ผ้าสีเหลืองแห่งพระแท้มีค่านัก
ย่อมประจักษ์พุทธบุตรมีศักดิ์ศรี
หากวันใดภาพนี้หายจากธานี
ทั้งความสุขและความดีเกิดอย่างไร...?