12 มิถุนายน 2546 21:18 น.
คะน้า
ฉันเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นได้ดี และก็เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนฉันที่ไม่สามารถลืมใครบางคนที่เคยมีความสำคัญลงไปได้ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ใหน เมื่อถูกขีดเส้นให้มาพบกันอีกครั้งความผูกพันเก่าๆที่เคยถูกทิ้งร้างก็กลับฟื้นคืนขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มันอาจทบทวีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ลืมเรื่องที่ทำให้หมางใจ ลืมว่าเคยพยายามหาเหตุเพื่อเกลียดชังเขา เพียงเพราะคำว่า "รัก" ที่ยังคงอยู่รักมันบังคับใจให้ลืมเรื่องร้าย ลืมเรื่องไม่ดีต่อให้เค้าจะเคยทำผิดมากแค่ใหน ก็ยังคงอภัยให้ได้เสมอ
รักมันจึงมีบทบาทมากในชีวิต ช่วงเวลาที่ขาดรักจากใครสักคน บางทีเราอาจรู้สึกเดียวดาย...เปลี่ยวเหงามีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ไม่ว่าจะมีใครใหม่ผ่านเข้ามาก็ได้แค่กระตุ้นความรู้สึกให้มีชิวิตชีวาเพียงชั่วครู่แต่ลึกๆแล้วมันไม่ถาวร...สุดท้ายก็กลับมาหวนคิดถึงสิ่งที่ฝังลึกและใครบางคนที่จมอยู่ในก้นบึ้ง
ของหัวใจอีกเช่นเดิม
การเดินกลับมาอีกครั้งของคนรักคนเดิมมันจึงเพิ่มสีสันมากมายให้กับชีวิต เติมคำตอบของคำถามที่เคยเป็นปริศนาคาใจ...ว่าเหตุใดเขาถึงเดินจากไปและช่วงเวลาที่หายไปมีใครมาแทนที่ แต่ฉันคิดว่าด้วยอิทธิพลของรักที่ยังคงอยู่มันมีผลให้ไม่อยากรับฟังถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องแยกจากกัน รับรู้แต่เพียงว่า
ณ. วินาทีนี้คนที่เคยเฝ้ารอการกลับมาอยู่ตลอดเวลาได้มายืนอยู่ตรงหน้า แค่นั้นก็เพียงพอที่จะไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา มีเพียงสายตาเท่านั้นที่พอจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งมวลออกมาได้
เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับความรักครั้งใหม่ที่ฟื้นตัวมาจากคนรักคนเก่า คู่รักคู่เก่า แต่ฉันก็หวังไว้ว่าบทเรียนที่ผ่านมาในอดีต คงเพียงพอที่จะทำให้เพื่อนฉัหวนนึกถึงความเจ็บปวดที่เคยได้สัมผัสมาก่อนหน้านั้น และคงจำมันได้ดี ซึ่งถึงแมเธอจะยืนยันว่าไม่มีทางฉันไม่มีทางเจ็บอีกเป็นครั้งที่สอง
แต่เธออย่าลืมถ้าเธอไม่รักใคร...เธอก็จะไม่รู้จักความเจ็บปวด นอกเสียจากว่าครั้งนี้เธอไม่หลงเหลือความรักให้กับใครคนนั้นอีกแล้ว.......ซึ่งมันอาจไม่ใช่!!!
ไม่มีใครสามารถคาดการณ์อนาคตได้ แต่หนทางสำหรับรักครั้งใหม่มันอาจทำให้เธอเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น...ถนอมวันเวลาเหล่านั้นไว้ให้ได้มากที่สุด.......เพราะไม่มีเคยมีใครจมอยู่ในความทุกข์ได้เนิ่นนาน.......และไม่มีใครอิ่มเอมอยู่กับความสุขได้ตลอดไป
To handle yourself,use your head;To handle others,use your heart
ด้วยรัก....จากเพื่อน
18 ธันวาคม 2545 00:28 น.
คะน้า
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหมดเปลืองเวลาไปกับความคิดถึงคุณ จนไม่รู้ตัว
เลยว่านึกรักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่รู้แต่เพียงมันทบทวีขึ้นทุกครั้ง ที่ได้พูดคุย ทุกครั้ง
ที่ได้พบกัน และเมื่อนึกย้อนไปทีไร น้ำใสๆมันก็รื้นขึ้นที่ปลายตาทุกครั้ง ว่า
ทั้งหมดที่เคยคิด เป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆ ของฉันฝ่ายเดียว ไม่ได้มีค่าอะไร
เลย พยายามรวบรวมทุกอารมณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคุณ ทั้งรัก คิดถึง หวง ห่วง
โกรธ เกลียด ถวิลหา ทุกความรู้สึกมันอัดแน่น เหมือนรอคอยเวลาระเบิด
เพื่อนๆ เตือนฉันแล้วว่าอย่าทำ อย่าทดสอบคุณให้ใจต้องเจ็บ เพราะมันหมาย
ถึงผลลัพธ์ที่ได้ ฉันจะเตรียมใจยอมรับสภาพของคำว่าหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ ได้รึ
เปล่า แต่ท้ายที่สุดฉันทำ เพียงเพราะใจที่มันค้านอย่างขัดแย้งในตัวเอง
ว่าเค้าคงไม่เหมือนใครๆ แท้ที่จริงแล้วใจคนเรามันก็พลิกผันได้ทุก
สถานการณ์ ทุกช่วงอารมณ์ของความเป็นไปที่ได้ติดต่อหรือ สัมผัสกับคนใหนๆ
ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรจีรัง
เราพบกันวันหนึ่งเพื่อร่วมกันผลิตช่วงเวลาแห่งความสุข หล่อเลี้ยง
ให้ชีวิตดูมีความหมาย เพื่อให้กลายเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างกัน ไม่เคยคิด
ว่าอายุของความรักมันจะสั้นนัก ไม่เคยลืมทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา วินาที
แรกที่ได้สัมผัสคุณ อาการเสียวที่ใจกลางฝ่ามือข้างซ้าย รอยจูบที่ยังฝังแน่น
อยู่ในใจ ฉันไม่อาจลืมมันได้เลย สำหรับฉันแล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะลืม
เพราะความรักมันไม่ได้เข้ามาทักทายฉันบ่อยนัก มีมากคนที่ผ่านเข้ามาให้
ฉันรู้จัก แต่มีน้อยคนที่ฉันอยากจะรัก ฉันไม่รู้ว่าสำหรับคุณมันจะมีความหมาย
อะไรแค่ใหนกับเรื่องระหว่างเรา
เราอาจเหมือนดาวเคราะห์สองดวงที่โคจรเข้าหากัน ด้วยแรงดึงดูด
ซึ่งกันและกัน แต่พอหมุนเข้าใกล้กันมากขึ้นถึงได้เรียนรู้ว่าในส่วนที่เหลืออยู่
มันดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือน
เป็นคนพิเศษ ขอบคุณสำหรับคำพูดดีดีที่เคยทำให้ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าน
ขอบคุณที่ยังบอกลา ด้วยคำว่ารัก เหมือนจะตอกย้ำว่าทั้งหมดที่ผ่านมาคุณรู้สึก
แบบนั้นจริงๆ
10 กรกฎาคม 2545 17:43 น.
คะน้า
เคยเฝ้าถามตัวเองเสมอๆว่า ชีวิตมีความสุขดีพอแล้วใช่ใหม มีพร้อมทุกอย่างดีแล้วใช่ใหม แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคงเป็นคำตอบที่ยังหาจุดสิ้นสุดไม่ได้สักที เพราะสิ่งที่พวกเราหลายคนพึงมีด้วยกันแทบทั้งนั้น ก็คือความพอใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด หรือความไม่รู้จักพอ เรายังคงไขว่คว้าหาสิ่งมาปรุงแต่งชีวิต
อยู่ตลอดเวลา พอในวันหนึ่งหยุดใจมองสิ่งต่างๆรอบตัว ก็ค้นพบความสุขเล็กๆน้อยๆที่เคยมองข้ามไป ความสงบ ความสวยงามของธรรมชาติที่มันเห็นอยู่เจนตาแทบทุกวัน แต่ในวันที่เราเร่งรีบกลับไม่เคยเห็นทุกสิ่งทุกอย่างสวยงาม
แต่เมื่อวันใหนสั่งใจให้หยุด และพิจารณากับมันกลับเห็นบางสิ่งบางอย่างดูเป็นพิเศษขึ้น เจ้านกน้อยตัวนั้นอาจบินมาทักทายฉันทุกวันก็เป็นได้ แต่ฉันคงไม่ทันสังเกตุเห็น สายลมคงพัดพากลิ่นหอมของหญ้าสีเขียวขึ้นมาส่งฉันที่ริมหน้าต่าง
ทุกวัน หากแต่ฉันไม่เคยเปิดต้อนรับ แดดอุ่นๆก็สาดแสงลงมาปลุกฉันทุกวันเช่นกัน แต่ฉันกลับปิดกั้นแสงแดดนั้นด้วยผ้าม่านสีทึบ
คงเหมือนกับหัวใจทุกๆดวงที่จะเปิดรับอณูแห่งความสุขได้มากน้อยเพียงใด เราได้ให้อะไรมาขวางกั้น มาห่อหุ้มความรู้สึกอันบริสุทธิ์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
หากทลายกำแพง เหล่านั้นลงซะ เราก็จะได้รู้ว่าในทุกๆที่มีความสุข มีความอบอุ่น
แทรกตัวอยู่ ห้อมล้อมรอบๆตัวเราเสมอๆ ในทุกมุมของธรรมชาติ ของโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้