27 มกราคม 2545 15:36 น.
คะน้า
สันหลังโก่งโค้งเรียวเหมือนเคียวข้าว
มือและเท้าหยาบกรานกร้านงานหนัก
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินไม่หยุดพัก
วงจรหลักปักชีวิตของชาวนา คะน้า
ต่างยกย่องว่าสันหลังของแผ่นดิน
แค่จะกินให้อิ่มมากยากนักหนา
แค่ประทังชีวิตไปไม่หวังว่า
โชคชะตาจะเข้าข้างให้มั่งมี ม้าก้านกล้วย
ข้าวทุกเม็ดรดด้วยเหงื่อของพวกเขา
ก้มเกี่ยวเข้าให้เรากินไม่ถอยหนี
ลำแสงแดดแผดเผาไม่ปรานี
คือวิถีชีวีแห่งชาวนา เสี้ยว
ข้าวทุกเม็ดเปรียบเสมือนเหงื่อทุกหยด
ที่รินรดบดคมเคียวเกี่ยวคุณค่า
เหงื่อรินไหลปนแรงใจของชาวนา
บนราคาข้าวตกต่ำย่ำหัวใจ เรวีนิติ
ทำนาปลูกข้าวก้าวเดินหน้า
แม้เหนื่อยล้ายังไงก็ทนไหว
ถึงหยาดเหงื่อไหลหลั่งรินรดไป
ไม่เสียดายขอแค่ข้าวได้ราคา โคลอน
ก็โอดครวญทุกข์มากยากฉนำ
ผลกรรมหรือผลกูรู้เปล่าหนา
ฤดูข้าวจบไปก็ขายนา
ฤดูหาเสียง ส.ส. ก็ขายตัว คนแก่ดูดาว
ชาวนาไทยไฉนไม่ใช่มั่งมี
เหตุโรงสีขี่ขู่เข็ญเป็นเจ้าสัว
ค่าความชื้นขืนขายไปไม่พอครัว
คนซื้อมั่วชั่วโก่งค่าราคากลาง โยนาห์
เหน็ดเหนื่อยนักอ่อนล้าเหงื่อรินรด
อยู่อย่างอดงานทั้งหมดคล้ายเปล่าว่าง
ทุ่มแรงกายแรงใจไม่ปล่อยวาง
แต่สุดท้ายเห็นแต่ทางที่ยากจน ยังแคร์
เป็นผู้ทนบนเมืองที่เขื่องเขต
เป็นสันหลังสยามประเทศตามเหตุผล
แล้วไยข้าวชาวนา-ประชาชน
ท่านผู้แทนแกไม่สนผมข้องใจ ตะวัน
26 มกราคม 2545 18:00 น.
คะน้า
กับสายฝนที่หลงฤดู
วันที่กำลังหดหู่และอ่อนไหว
มองไปนอกหน้าต่างไม่เห็นใคร
มีแต่สายฝนโปรยปรายสาดกระเซ็น
ท่วงทำนองบทเพลงที่แสนเศร้า
แว่วมาอย่างแผ่วเบาแบบซ่อนเร้น
หัวใจยิ่งเดียวดายและเยียบเย็น
ในวันที่มองไม่เห็นใครข้างเคียง
ภูมิอากาศแบบเดียวกับวันนี้
แต่วันที่มีเธอใจกลับไม่มีเสียง
มันอบอุ่นกับบทเพลงที่ร้อยเรียง
แม้แต่เสียงเพลงเศร้าไม่เหงาตาม
คงเพราะความผูกพันที่อ่อนไหว
ความใกล้ไกลทำให้หัวใจช่างไหวหวาม
ความคิดถึงมันรัดรึงจิตใจทุกโมงยาม
โหยหาแต่ความต้องการจะพบคุณ
สัมผัสอุ่นๆเสียงคุ้นๆยังจำได้
เคยมีคุณคอยอยู่ใกล้ให้ไออุ่น
เมื่อหลับตายังฝันว่าได้พบคุณ
กระซิบถ้อยคำที่แสนคุ้นว่า รักกัน....
25 มกราคม 2545 21:36 น.
คะน้า
ไม่เคยปฏิบัติต่อคนพิเศษอย่างไม่พิเศษ
เพราะฉันกั้นเขตความรักต่อเธอไว้อย่างคงมั่น
เธอจึงได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดจากใจฉัน
โดยไม่เคยแบ่งปันเขตของความรักนั้นให้กับใคร
เธอจึงเป็นคนพิเศษของความรัก
ทำให้ฉันได้รู้จักความหมายของการให้
เธอจะไม่เคว้งคว้างหรืออ้างว้างอีกต่อไป
ฉันจะเป็นคนของใจที่คอยห่วงใยอยู่ใกล้เธอ
จึงไม่อยากเห็นแม้แค่แววตาต้องวูบไหว
ฉันอยากเห็นเพียงเธอยิ้มแจ่มใสได้เสมอ
แม้มิอาจกางกั้นทุกข์ร้ายให้ไกลจากเธอ
ก็ไม่ขอเป็นคนที่ทำร้ายเธอได้สักครั้งเดียว
ฉันจึงรักเธอด้วยทั้งหมดของหัวใจที่ฉันมี
โดยไม่คิดที่จะเก็บกักไว้สักส่วนเสี้ยว
หากโลกของฉันคือเธอเสมอเธอคนเดียว
ฉันก็รักทุกวินาทีที่ชีวิตได้ข้องเกี่ยวอยู่กับเธอ....
16 มกราคม 2545 22:33 น.
คะน้า
โลกสอนให้ฉันกล้าแกร่งไม่ใช่แข็งกร้าว
รอยเจ็บจากการปวดร้าวสอนให้ฉันเลิกอ่อนไหว
รอยแผลที่โดนซ้ำๆในหัวใจ
สอนให้ฉันไม่ยอมเจ็บจากใครฟรีๆ
ฉันจึงเป็นเหมือนคนใจร้าย
เพราะหัวใจเคยโดนทำลายมาก่อนหน้านี้
ถึงแม้เธอจะดูเหมือนคนที่ดีแสนดี
ก็ยังไม่เพียงพอที่ฉันจะฝากใจดวงนี้ไว้กับใคร
อย่าทวงถามถึงความมั่นคง
รอให้เห็นความซื่อตรงของเธอก่อนจะดีไหม
เวลาเท่านั้นถึงจะพิสูจน์อะไรๆ
และอย่าลืมว่าหัวใจฉันจะไม่ยอมเจ็บจากใครฟรีๆ
16 มกราคม 2545 19:26 น.
คะน้า
อย่าโทษใครเลยดีกว่า
รักแล้วเสียน้ำตาก็แค่นั้น
จะต้องทำให้เสียความรู้สึกทำไมกัน
ด้วยการโทษว่าความผิดนั้นเป็นของใคร
เพราะความรักเกิดจากเราสองคน
เมื่อต่างก็มีเหตุผลของการผลักไส
อย่างน้อยหากจากกันควรจากด้วยความเข้าใจ
หยุดทำร้ายกันดีไหมเผื่อจะได้เหลือไว้ซึ่งความรู้สึกดีดี
เราคงผิดด้วยกันทั้งคู่
ความรักที่มีอยู่จึงเป็นไปได้แค่นี้
ที่ผ่านมาเราคงหลงระเริงไปกับลมปากที่แสนดี
ที่เพิ่งเข้าใจวันนี้....ว่ามันไม่มีจริง.....