7 มีนาคม 2551 09:57 น.
คอนพูทน
เพลินภิรมย์พรมรินหอมกลิ่นกรุ่น
โอ้อบอุ่นอวลอิงเสียจริงหนอ
ริมทางดาวพราวอร่ามงามลออ
อยากเคลียคลอเคล้าเคียงร่วมเรียงรัก
เพียงทอดย่างก้าวย่ำก็ฉ่ำชุ่ม
เร่าร้อนรุ่มระเริงรินยินประจักษ์
เลยตามหลงอนงค์นวลรัญจวนนัก
พิษช่างหนักปักหน่วงสุดทรวงใน
ใครหนอสร้างทางรักไว้พักรื่น
ช่างแช่มชื่นชิดชมภิรมย์ใส
อวบอิ่มเอิบโอบอาบอุ่นอกไอ
สุราลัยลั่นเลื่อนมิเลือนลา
สุกสกาววาววาม..ยามพริ้งพรอด
พลางกกกอดยอดยวงดวงยิหวา
หอมนวลเนียนนุ่มนักลักขณา
โชยลมพาพริบพริ้มฉิมพลีพราว
บนทางรุ่มชุ่มรื่นหยิบยื่นรส
คงความสดจรดรินกลิ่นสาบสาว
ระยิบยับวับวามงามแวววาว
สุดทางดาวดื่มด่ำฉ่ำแดดวง
จะคลอรินยินยลจนฟ้าสาง
ชิดเคียงนางแนบแน่นนักแหนหวง
หลงในรูปจูบรักเพ็ญพักตร์พวง
หยดหยาดยวงรวงโปรยโรยสุดทาง
......................................
29 กุมภาพันธ์ 2551 10:30 น.
คอนพูทน
สูงเสียดฟ้าท้าชนมายลโฉม
ดั่งแสงโสมส่องสานตระการสม
ประดับดอยคอยเคียงคงความคม
รับสายลมหนาวลิ่วทิ้งทิวไม้
แดดอุ่นอุ่นกรุ่นอวลรัญจวนจิต
วาดชีวิตชิดวางบนทางใส
ปล่อยเวลาลินเลื่อนเยือนแนวไพร
อาบอุ่นไอเกินอิ่มริมภูเพลิน
ผีเสื้อว่อนร่อนบินบนหินหัก
แสงทองทักท่องถามลามโขดเขิน
สำเริงรินบินเรียงเคียงดำเนิน
ดอกไม้ช่อล่อเชิญเดินชมชิด
กลีบเกสรสลอนหลอกแมลงเหล่า
มาหลงเข้าเชยเคียงเพียงตอมติด
ดูดดื่มหวานปานล้ำน้ำอมฤต
งามวิจิตรบรรจงดอยดงแดน
ภิรมณ์รื่นชื่นรินยินนกร้อง
ขับรับก้องเกรียวกราวเฝ้าหวงแหน
พนาลัยไกลเลื่องห่างเมืองแมน
ช่างสุดแสนโสภาเมื่อมาเชย๚:๛
.....................................
20 กุมภาพันธ์ 2551 10:15 น.
คอนพูทน
แจ่มกระจ่างกลางจันทร์อันทอนวล
ไร้หมู่มวลเมฆาท้องฟ้าใส
คืนเนียนนุ่มชุ่มเย็นโลกเป็นใจ
ลานไสวเหลืองสว่างบนทางธรรม
เพ็ญเดือนสามกาลสมัยในอดีต
รอยจารีตประณีตน้อมพร้อมเรียนร่ำ
จาตุรงคสันนิบาตพิลาศล้ำ
ต้องจดจำมหัศจรรย์ลือลั่นแล้ว
ภิกษุสงฆ์หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบ
ยลระยิบละลิบเลื่อนเคลื่อนทิวแถว
มิได้นัดแนะนำทำนองแนว
ทุกใจแพร้วพร้อมพามาพบพาน
กรุงราชคฤห์เมืองมคธจดจารึก
น้อมนำนึกรำลึกนั่นเวฬุวันวิหาร
ล้วนอรหันต์บรรลุชอบวิชาชาญ
เข้าสักการพระสัมมาสัมพุทธองค์
เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา
คือพระศาสดาบวชไซร้ให้ทุกสงฆ์
มาฆะฤกษ์เบิกทางปล่อยวางปลง
เจตจำนงจงจำแนกแตกแสดง
โอวาทะปาฏิโมกข์คู่โลกหล้า
ทรงคุณค่ามากมายหลายแขนง
กล่าวประกาศศาสนาธรรมนำแจกแจง
กระจ่างแจ้งแถลงจับประทับจินต์
เต็มดวงแสงเดือนสวยด้วยคืนเพ็ญ
เงาจันทร์เห็นระลึกหวลชวนถวิล
ขอกุศลผลบุญพาครายลยิน
ไทยทั่วถิ่นเถอะเวียนเทียนทักษิณาวรรต๚:๛
..................................
13 กุมภาพันธ์ 2551 17:37 น.
คอนพูทน
ดอกไม้ได้มีนี้ได้มา
จากสวนพฤกษา สุราลัย
บรรจงจัดแจงออกจากใจ
มอบท่านเพื่อนไทย ถ้วนทั่วกัน
เรียงสีรินสานร่วมรังสรรค์
หลายหลากมากพันธุ์ คงพอเพียง
มอบรักมาร้อยจรุงเรียง
ขอค่าคงเคียง แค่ข้างคุณ
กรุ่นอวลกลิ่นไอละไมละมุน
เกี่ยวเนื่องกาลหนุน เดือนงามนาม
บริสุทธิ์สดใสมากในความ
รักยิ่งเรืองยาม สุขเยี่ยมเยือน
อย่าละลาลดและลางเลือน
อื่นใดไหนเหมือน รักไม่มี
ขอประสิทธิ์ประสบสวัสดี
เพิ่มศักดิ์เกษมศรี เปรมปรีดา
สำเร็จเสร็จหวังดังถวิลหา
เคียงหวานชีวา สวรรค์ไสว๚:๛
......................................
6 กุมภาพันธ์ 2551 10:34 น.
คอนพูทน
รักเธอประเทศไทย ทำไมวุ่นมิวายวาง
หลายหลากแลเลือนลาง เร่าร้อนรุ่มระรานราว
หรือฝนจะท่วมฟ้า ปูปลาดั่งจะกินดาว
ถึงขั้นคงถึงคราว แยกยับย่อยยิ่งยุ่งเหยิง
พานพบพาพร้อมพรัก ไสผลักพลันมิเพลินเพลิง
ลามรินเริ่มลามเริง บรรเลงลงคงบรรลัย
จะมาแม้ไม่มี จะเกิดที่ประเทศไทย
หิมะจากแดนไกล จะพราวพร่างบนทางเดิน
สอนผิดคิดเป็นถูก บอกลูกหลานด้านดำเนิน
เสือสางยกสรรเสริญ คิดชั่วช้าเข้าเชิดชู
คุณธรรมจะพ้นทาง เมื่อมารกร่างมาเกรียวกรู
ข้าวกล้าแม้หมาหมู จะพาแพงมิพอเพียง
ทำดีแค่ได้ดี ทำชั่วมีสิทธิ์มากเสียง
เงินทองงานรองเรียง อีกอำนาจอำนวยนำ
สละชาติแล้วเพื่อชีพ สิ้นประทีปแสงศีลธรรม
นักรบคบครอบงำ เงินมาง้างจึงหมดเงา
ครองเมืองทุนสามานย์ รัฐประหารหย่อนยานเยา
ซับทรวงซึมซบเซา ดูเถอะเกิดได้ทั่วกัน
ผู้นำยังมินึก จดจารึกจำโจษจัน
เรียงสานยกรังสรรค์ เตรียมตัวตนตามตรึกตรอง
อนาคตประเทศไทย เหมือนรำไรมิเรืองรอง
ฝนหนักขี้หมูนอง อะไรนั่นพบกันหนอ๚:๛
..............................