๏ “นักเลงกลอน” นอนเปล่าจักเศร้าจิต เมื่อชีวิตห่างวรรคไป่ฉลักศิลป์ มืดบอดเรียกเพรียกก้องยินก้องยิน แล้วเทรินเบียดรุก..เหงาบุกพะนอ ๏ ภาษากร่อยร้อยคัดเลือกจัดหลง ค่อยค่อยประจงรายเจิมแต่งเสริมต่อ แค่หนึ่งบทรสชาติขมบาดคอ อักษรทอเขียนทา..พร่ำสาธยาย ๏ ปัญญาบางร้างกลิ่นแต่อยากกล่อม ต่อมยั่วกลั้วหยิบกลึงรำพึงฉงาย แลติดขัดกลัดถ้อยเหมือนลอยชาย ก้าวย่างส่ายย่ำซวน..ผิดกระบวนพจน์ ๏ ลำนำทื่อสื่อนัยยังไกลหวาน สำนวนกานท์จางกรุ่นหยาดละมุนหยด อ่อนเกลือบอกออกปากไม่อยากซด น้ำยาหมดเหลือหม่น..ร้าวระคนเรียง ๏ จึ่งลับคมน้ำคำรำเพลงเร่า ฟ้อนเบาเบาโฉบบินเสกประทิ่นเสียง ชงช่อชื่นชุ่มฉ่ำนุ่มสำเนียง วันทาประดียงฉัตรดาว..เปล่งพราวครั้น ๏ ขาดบำเทิงเริงความขาดงามเหมือน ทำนองเฝื่อนขื่นฟังแว่วยังประหวั่น กล่อมโลกพรายกรายเพลงบรรเลงนั้น เหลาคมพลางวางขานบนลานบรรณ บันทึกฝันเวี่ยฟ้า..เพียงอุราเพลิน๚ะ๛ คอนพูธน®
๏ บทเพลงรุ้งเลื่อมราย พ ลิ้ ว ส า ย ห ม อ ก ลำคลองกระฉอกล้นฉ่ารินบ่าไหล สายลมไกวล่องกวัดโบกพัดไกว ป ลิ ว ใ บ ไ ม้ เ บิ ก ม่ า น..แลตระการตา ๏ ช่อมาลีคลี่บานลานเวหน บ ร ร เ จิ ด ย ล เพลินยังเหมือนดังกระหว่า คลื่นสาดหาดกล่อมเห่นัยเวลา งามนางฟ้าร่ายฟ้อน..พลางฉะอ้อนนั้น ๏ หยดหนาวลูบจูบทรวงเอยพวงกลิ่น อินทร์พรหมกล่อมน้อมขวัญพลอยประโลมขวัญ ผีเสื้อลายกรายมาอาบตาวัน ต า ก ปี ก ค รั้ น อุ่นเคียง..พราวระเรียงเพลง ๏ ห มู่ ปั ก ษิ น บินเริงหอมเวิ้งหอม สายแดดตะล่อมดอกเหล่าตูมเย้าเต่ง ไผ่สีกอพ้อครวญชวนบรรเลง รำพันเหวงแผ่วหวาน..พรายพิมานเพียง ๏ ผ่ อ ง ห ย า ด ส ร ว ง ควงดาวชื่นคราวชุ่ม บรรจงนุ่มหวามนิ่มตรงริมเฉลียง สังคีตกล่อมพร้อมขานลำนำเคียง แว่วรำพึงถึงเนียง..พ ร่ า ง พิ ล า ส นั ก ๏ กอดพลอดอูมกรุ่นอวลในสวนฝัน กิ่งใบสั่นแต้มสีทอพจีถัก ค่อยค่อยจรดรอยจินต์วาดปิ่นวรรค “ คิ ด ถึ ง ” สั ก ม น ต์ เ ส ก..รุจิเรขคลอ๚ะ๛ คอนพูธน®
๏ ลมดึกพัดลัดฟ้าเทียวมาท่อง นกเค้าร้องครวญเรียกเสียงเพรียกสนาน สายลมโบกช่อใบดอกไม้บาน หนาวแหวกม่านคลอเมียง..ริมระเบียงนา ๏ มุงจากกระท่อมรูทั่วคอยยั่วฝน พลอยจำนนเพลินนั่นแดนสวรรค์ป่า หลายร้อนหนาวที่นี้ยังปรีดา อยู่ตามประสาอดสู.. “ผู้ เ ฒ่ า ช้ อ ย” ๏ นอนไม่หลับดึกล่วงร้าวทรวงรุ่ม น้ำค้างจุมพิตจินต์ฟ้อนระรินฝอย หลังคารั่วหยดเรียงฉ่ำเคียงพลอย แสงดาวชม้อยลอดมา..ควานหาไฟ ๏ แล้วจุดตะเกียงเอียงพิงนั่งอิงเสา ลมโชยเย้าเหมือนหยอกอีกระลอกใหญ่ จิบน้ำแค่ชุ่มคอรออำไพ หยิบใบไม้แก้มัด..พลางจัดระเรียง ๏ เพลงแสงแขผ่องคราวพราวลมแผ่ว แ ว่ ว ก อ ไ ผ่ ยินพ้อสีประนอเสียง อ้อออดนิ่มครวญนุ่มชุ่มสำเนียง กัญชาเขียงมีดคอย..หั่นประดอยคัด ๏ บ้องไม้ไผ่แวมพร่างที่ข้างฝา ได้เวลาไฟลามเผาความสงัด ด้วยแรงอยากปากสั่นควันโชยลัด สามบ้องซัดหายสั่น..ควันโชยลม ๏ ปล่อยลอยคว้างกลางฟ้ากลิ่นครากรุ่น ร้าวทรวงมุ่นคลายหมางสุขกระจ่างสม นวลแสงแรกแทรกฉายเวี่ยปรายพรม เพียงเสพฉมกัญชา..เ พ ลิ น สุ ข า ว ดี ๏ เหมือนอิ่มเปรมเอมหวามรื่นชื่นหวาม ยากจักปรามยิ้มเปล่งเฒ่าละเลงถี่ เดินหลงขวากติดควันจั่นอเวจี กัญชาโชยโปรยคลี่..นรกภูมิครวญ๚ะ๛ คอนพูธน®
๏ อัสดงคงลาคราเลื่อน เคลื่อนล่องท่องสรวงวาดสี ชุบมืดคืนมาราตรี ฟ้าคลี่ฟ้อนคราว..ดาวราย ๏ ค่ำโปรยลมปลิวพลิ้วไหว ยอดไม้กิ่งโมกโยกส่าย มืดเปล่งเพลงแว่วแล้วกลาย จันทร์ฉายเพลินชม..พรมฟ้า ๏ หรีดหริ่งเรไรเริงรื่น ชื่นราวพราวสรรหรรษา สีคลอซอครวญชวนครา ยิ้มร่าเต้นรำ..ฉ่ำทรวง ๏ เลยดึกเพลงดาวหนาวสาน โชยหอมกล่อมลานจันทร์ล่วง เหลือเคียงเพียงดาวบางดวง กล่อมห้วงก่อนเห..เร่จร ๏ กอไผ่ดีดพิณยินโสต ก้องพงดงโขดแดนขอน เสียงออดกล่าวอ้างพลางวอน คราอ้อนลมเอย..เชยพัด ๏ เสกมืดให้มีชีวิต จุมพิตกอดเพียงสัมผัส เหมือนหยิกแกมหยอกบอกชัด หนาวกวัดนุ่มไกว..นัยยาม ๚ะ๛ คอนพูทน
อุปัฎฐิตาฉันท์ ๑๑ ๏ เพ็ญเดือนระดะดาว นภพราวกระจ่างพราย สรวงเชิญสุรฉาย ฤดิชุ่มอร่ามชม ๏ นวลแสงระวิศรี ปฐพีไสวพรม รอยศาสน์รุจิสม ชุติเสกพิมลสรร ๏ ยามฤกษ์มฆะริน วรจินต์เสวยจันทร์ เจิมฟ้าสิริขวัญ จิตะขวัญแสดงความ ๏ สงฆ์มาจรเมือง พิธิเรืองสว่างราม มากหลายคณะหลาม ปิยลักษณ์ประชุมลาน ๏ เพ็ญหอมอรหันต์ อศจรรย์ฉลักจาร ธรรมขานจตุขาน มหค่าอสงไขย ๏ เชิญธรรมนิธิธรรม อภิธรรมอมรไท ผ่องสวยพจิใส ปริสุทธิคุณทรวง ๏ เลอบุญปฏิบัติ ระพิพัฒน์กุศลพวง คำสอนประลุสรวง ฐิติศักดิ์ประจงศรี ๏ งามพุทธสุติผล ศิระดลกระทำดี วันมาฆ์บุรณ์มี ปรมัตถ์พระสัมมา ๏ เถิดน้อมมนนำ ศิลธรรมชโลมทา พรเคียงอุรครา สติครองเจริญคราว ๏ เพ็ญคืนศศิคม ปิติพรมแชล่มพราว มวลชนพุทชาว ปริฉัตรสวัสดิ์เทอญ๚ะ๛ คอนพูทน