22 พฤศจิกายน 2550 10:26 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
โลกนี้หลากมากสีที่ตาเห็น
บางครั้งเป็นสดขจีด้วยสีเขียว
แต่บางทีที่เห็นเป็นซีดเซียว
เพราะโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าสุดใจ
จึงอาจเห็นโลกนี้เป็นสีโศก
บางวันโลกกลับมีสีสดใส
แท้จริงโลกเรานี้สีอะไร
แล้วเหตุใดจึงมีสีต่างกัน
โลกนี้สีชมพูของคู่รัก
ด้วยประจักษ์ตัวตนคนร่วมฝัน
มีเพื่อนร่วมเส้นทางระหว่างวัน
ร่วมสร้างสรรค์เส้นสีหลายลีลา
โลกสีทองของผู้อยู่อย่างหวัง
มีพลังสร้างบุญสุนทรค่า
โลกจึงผุดผ่องแผ้วในแววตา
แก้ปัญหาเห็นทางทุกอย่างไป
อีกมุมโลกจักมีสีหมองหม่น
โลกของชนทนทุกข์ไม่สุกใส
โลกปั่นป่วนล้วนปัญหาค้างคาใจ
โลกสลดแล้งไร้ในแววตา
แท้จริงโลกใบนี้คงสีรุ้ง
ตามใจมุ่งแม้นมาตรปรารถนา
จึงเห็นโลกต่างสีหลายลีลา
พึงค้นหา..ว่าโลกนี้...สีอะไร
7 พฤศจิกายน 2550 17:20 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
จะประเมินเพื่ออะไรทำไมหนา
ข้าก็อยู่ของข้ามาแต่ไหน
ทำหน้าที่ให้เห็นและเป็นไป
ทำเพื่อใคร? ก็เพื่อหลวงเพื่อปวงชน
จะประเมินเพื่ออันใด
ขอเรียนเชิญประเมินได้ข้าไม่สน
อนุญาตเพราะเป็นเรื่องของเบื้องบน
ขอท้าชนแบบว่า "บ้าพอปัว"
วันเดือนปีมีแต่ขอ..เอาข้อมูล
ส่งไปพูนกองไว้ให้ท่วมหัว
นั่งหน้าจอรอท่าตามืดมัว
ต้องเตรียมตัวรับส่งลงโปรแกรม
งบประมาณต้องขานรับกับแบบใหม่
จะเวอร์ชั่นอันใดไวรัสแถม
คอมพิวเตอร์รุ่นนี้มันกี่Ram
รุ่นยายแย้มยกไปอันใหม่มา
โอ้อดสูครูไทยในดงลึก
ให้รู้สึกสงสารการศึกษา
เคยสอนอ่านงานเขียนเรียนกอกา
วันเวลาผ่านไปให้เปลี่ยนแปลง
เน้นข้อมูลศูนย์ใหญ่เขาให้ส่ง
ครูแดนดงอยู่ไกลอย่าให้แหว่ง
เรื่องข้อมูลทั้งผองต้องแสดง
คือเรื่องแจ้ง...ศึกษาไทย...ไกลกว่าเดิมเด้อ
สิบอกให่
บ้าพอปัว หมายถึง สติเฟื่อง สติแตก พอที่จะรักษาให้หายได้ ปัว เป็นภาษาลาว แปลว่า รักษาอาการป่วยทั้งทางกายและทางจิต
4 พฤศจิกายน 2550 20:42 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ฟ้าครามยามเช้า.....
รวงข้าวเบางดงามยามรุ่งสาง
หอมใบข้าวหนาวลมห่มหมอกจาง
คือระหว่างฝนลาหนาวมาเยือน
เปลี่ยนเป็นพรมสีทองทั่วท้องถิ่น
หอมไอดินกลิ่นนาหาใดเหมือน
ธรรมชาติสดสวยช่วยย้ำเตือน
ให้ผองเพื่อนปกปักษ์รักษ์โลกเรา
ได้พึ่งพาธรรมชาติฉ่ำหยาดฝน
เลี้ยงดอกผลช่อใบไม่เหี่ยวเฉา
ได้มีอยู่มีกินทั่วถิ่นเนา
ทุกหย่อมเหย้าเรามีเพื่อนพี่น้อง
เมืองไทยใหญ่อุดมคำคมกล่าว
คืออู่ข้าวแหล่งใหญ่ไทยทั้งผอง
มีสมญารุ่งเรืองเป็นเมืองทอง
ไทครอบครองท้องถิ่นดินอุดม
น้ำมีปลานามีข้าว.....
คือเรื่องราวถิ่นนี้มีเหมาะสม
พึงปกปักรักษาไว้ได้ชื่นชม
นึกนิยมคมคำจำขึ้นใจ
ฟ้าครามยามเช้า.....
ที่โอบเงาโขดเขินเนินไศล
สายหมอกจางพร่างพรมห่มดอกใบ
หาที่ใดไหนปานถิ่นบ้านเรา