29 กันยายน 2548 22:26 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
เบื้องหลังความหาญห้าวคือร้าวลึก
ที่ผนึกแน่นเหนียวก้อนเกลียวขื่น
กับสองขาแกว่งกวัดขึ้นหยัดยืน
จึงต้องฝืนทนบ้างในบางวัน
แม้ไม่มีน้ำตาบนหน้าเก่า
หากใจเศร้าเขลาขลาดและหวาดหวั่น
คนรอบข้างเคยมี..ที่ไหนกัน?
เขาเหล่านั้นช่วยอะไรไม่ได้เลย
โพ้นปลายทางร้างไร้ในแววหวัง
แรงพลังอยู่ไหนเล่าใจเอ๋ย
เมื่อไม่มีคนข้างเหมือนอย่างเคย
จึงมาเผยความเศร้ากับเงาจันทร์
เย็นย่ำสู่ราตรี...หนอชีวิต
จึงครุ่นคิดครั่นคร้ามกับความฝัน
อดีตหลอนนอนเพ้อเผลอรำพัน
ความจริงนั้นว่างเปล่าเหงาสิ้นดี
อรุณรุ่งแสงทองทาบท้องฟ้า
บรรเจิดจ้าร้อนแรงหลากแสงสี
เสียงเพลงเริ่มฮึกหาญต้านไพรี
บังเกิดมีแรงกล้าถืออาวุธ
เบื้องหลังความหาญห้าวคือร้าวร่น
เบื้องหลังคนองอาจคือขลาดสุด
เบื้องหลังคนขึงขังคือนั่งทรุด
เบื้องหลังฉุดเบื้องหน้ามา--กล่นกอง
26 กันยายน 2548 23:54 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ไม่อาจเรียกคนดีว่า "ที่รัก"
ฝากความภักดิกับวงล้อมแห่งอ้อมสรวง
เก็บนิยามความหลังสิ่งทั้งปวง
ไว้กับห้วงนภาแห่งราตรี
อุปสรรคกั้นกางอยู่ข้างหน้า
ให้ตระหนักเถิดว่าคือหน้าที่
สู้กับมันอีกหนนะคนดี
เรายังมีกำลังใจมอบให้เธอ
หากคิดถึงกัน.....
ดาวดวงนั้นรับรู้อยู่เสมอ
หริ่งเรไรจำเรียงเหมือนเสียงเพ้อ
เสมือนเกลอกล่อมขวัญทุกวันวาร
ได้ยินไหม.....
ลมลูบไล้เพ้อพร่ำพรอดคำหวาน
มวลไม้ใบเคยเหงานานเท่านาน
ขับผสานรับคำเอ่ยอำลา
พระจันทร์เสี้ยวดึกดื่นของคืนนี้
ดาวกะพริบริบหรี่ที่ตรงหน้า
ก่อนจะไกลจากกันขอสัญญา
จะฟันฝ่าอุปสรรคสู่หลักชัย
พรุ่งนี้....
ด้วยภาระหน้าที่จะพลีให้
เป็นเปลวเทียนส่องสว่างอยู่กลางไพร
อุทิศแสงรำไร..ให้มวลชน
10 กันยายน 2548 00:45 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
เคยสัญญากับใจไว้ครั้งหนึ่ง
และแอบซึ้งซุกซ่อนจนนอนฝัน
มิเอื้อนเอ่ยเผยให้ใครรู้ทัน
แต่ใจมันคอยย้ำซ้ำและทวน
คำสัญญาปลุกให้เติมไฟฝัน
ให้มุ่งมั่นเตือนจิตใจคิดหวล
แม้บางวันอาจไม่มาใคร่ครวญ
แต่คงส่วนสืบให้ใจทะนง
สัญญากับใครเขาเราลืมได้
แต่สัญญาหัวใจไม่ลืมหลง
อาจมีหลายเรื่องอื่นไม่ยืนยง
ใจยังคงยึดมั่นคำสัญญา
ทั้งฝืนกายฝืนใจให้ทนสู้
ใจยังอยู่ขู่กายห้ามขายหน้า
มีผู้หยามเหยียดกายด้วยสายตา
กายอ่อนล้าแต่ใจไม่ลบเลือน
ถึงวันนี้ขออภัยนะใจเอ๋ย
ทั้งที่เคยรักใจหาใครเหมือน
ขอขอบคุณใจซ้ำช่วยย้ำเตือน
ใช่บิดเบือนคำมั่นคำสัญญา
ทรยศหัวใจดับไฟฝัน
ถึงทางตันหยุดดิ้นจนสิ้นท่า
แม้ใจแกร่งกร้าวรุกทุกเวลา
แต่กายล้า..ปลุกไม่ตื่น..ขอคืนคำ
6 กันยายน 2548 22:01 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
เปลวเทียนกับเส้นทางอันว่างเปล่า
พร้อมกับเงาความฝันอันปวดปร่า
ความหวังสีขาวพราวน้ำตา
พร้อมกับปริญญาอีกหนึ่งใบ
ฝันจะเดินบนเวทีแห่งชีวิต
เนรมิตมองเห็นเส้นทางได้
ณ ฟากฟ้าสีขาวยาวไกล
ฉันจะไปเอื้อมดาวสาวตะวัน
พ่อแม่พี่น้องคอง*คอยท่า
ลูกชายจะกลับมาไหมนั่น
แม่ก็ไม่รู้อยู่เช่นกัน
เห็นว่า"สักวันฉันจะมา"
เขาจึงเป็นความหวังคนทั้งบ้าน
เกียรติและงานต้องหรูพอกู้หน้า
ต้องถีบตัวถีบตนพ้นไร่นา
ถูกตีตราคาดหวังจากสังคม
การเป็นบัณฑิตใหม่ในวันนี้
ค่าอยู่ที่นิยามความเหมาะสม
ใครมี้เกียรติมีเงินล้นคนนิยม
เขาอาจจมเพราะถีบตนไม่พ้นนา
เปลวเทียนกับเส้นทางอันว่างเปล่า
พร้อมกับเงาความฝันอันปวดปร่า
ความหวังสีขาวพราวน้ำตา
มาพร้อมปริญญาหนึ่งใบ
* คอง หมายถึง การรอคอยอย่างมีความหวัง