16 มกราคม 2549 20:23 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
เสียงไม้เรียวฟาดลงที่ตรงขา
พร้อมน้ำตารันทดศิษย์หยดไหล
ครูยืนสั่นเข่าอ่อนสะท้อนใจ
คิดไปไกลกลัวศิษย์จะคิดชัง
เป็นครั้งแรกในชีวิตนะศิษย์รัก
ที่ตีนักเรียนได้ด้วยใจหวัง
"อนาคตศิษย์สดใส" ใช่อยากดัง
จึงไม่อาจยับยั้งหรือพลั้งไป?
ฟังครูสักนิดศิษย์ที่รัก
โลกกว้างนักไม่อาจเป็นเช่นคิดได้
หลายคนหลายชีวิตหลายจิตใจ
ชนะใครฤาเท่าชนะเราเอง
เมื่อเธออยู่ร่วมกันเช่นวันนี้
ก็อาจมีมากล้นคนข่มเหง
ชอบอวดอ้างดังเด่นเป็นนักเลง
ไม่ยำเกรงผู้ใดใช้กำลัง
ครูไม่อยากจะเห็นภาพเช่นนั้น
และใฝ่ฝันให้ศิษย์ดีอย่างที่หวัง
เข้าใจครูสักนิดอย่าคิดชัง
และคราวหลังอย่าเป็นเช่นคราวนี้
จงรู้จักอภัยให้กันบ้าง
เดินสายกลางระหว่างรักกับศักดิ์ศรี
แก้ปัญหาร่วมกันสันติวิธี
โลกจักมีสันติภาพ....ตราบนิรันดร์
15 มกราคม 2549 23:12 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ด้วยสายตาเย้ยหยันในวันนี้
กับวจีข่มขวัญในวันก่อน
เขาข่มขู่มาดร้ายหลายบทตอน
มันสะท้อนเห็นทั่วถึงตัวตน
เขาอวดอ้างตัวเองว่าเก่งกาจ
ชาญฉลาดกว่าใครไปทุกหน
เสียสละช่วยเหลือเพื่อมวลชน
เขาเป็นคนเด่นดังในสังคม
ภารกิจวันว่างเขาสร้างภาพ
แจ้งให้ทราบหว่านคำเพราะดูเหมาะสม
ปลุกกระแสศรัทธาค่านิยม
รับคำชมซร้องว่าน่าเคารพ
ท่ามกลางกลุ่มมวลชนเขาคนเด่น
ล้วนลูกเล่นลวดลายไม่รู้จบ
สร้างความประทับใจผู้ได้พบ
โดยระบบเขาเป็นคนเด่นดัง
เสียแรงที่ศรัทธามาช่วงหนึ่ง
เพียงขอพึ่งเขาบ้างอย่างมีหวัง
แต่ถูกเขาถากถางเข้าอย่างจัง
พอฝันพังเราช้ำทนลำเค็ญ
ศักดิ์ศรีความเป็นเราเขาหยามเหยียด
ขอกู้เกียรติของครูผู้ยากเข็ญ
ขออยู่อย่างวันนี้...อย่างที่เป็น
"บ่อยากเห็นดอกหน้าเจ้า...เว้าบ่จริง"
14 ธันวาคม 2548 19:00 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
มวลมิตร......
เราใช้สิทธิ์ในนามคนตามฝัน
ยินหลากถ้อยร้อยคำเขาจำนรรจ์
ที-ซึ่ง-อัน จริงใจไม่มีเลย
ฤาเราเพียงธุลีดินดูสิ้นค่า
ให้พฤกษายืนกร่างอย่างผ่าเผย
คนชื่นชมใบดอกที่งอกเงย
มีใครเคยเอ่ยว่า "ค่าของดิน"
ดินจึงถูกเอาเปรียบเขาเหยียบย่ำ
ร้องครวญคร่ำร่ำไห้ไม่รู้สิ้น
มีไหมใครสักคนเขายลยิน
น้ำตารินดินร่ำไร้ทำนอง
แม้ดอกหญ้ากระจิริดคือมิตรรัก
ก็ไม่ทักทายเราคราเศร้าหมอง
อวดช่อดอกเด่นทำท่าลำพอง
ตอบสนองพสุธา(ที่)ให้หญ้าบาน
การเดินทางของดินดูสิ้นหวัง
หมดพลังอ่อนล้าน่าสงสาร
ขอพักพิงอิงหญ้า...อย่ารำคาญ
นี่คือการเดินทางอย่างสามัญ
มวลมิตร........
เราใช้สิทธิ์ในนามคนตามฝัน
อาจจะดูแล้งไร้ในบางวัน
ขอแบ่งปัน...รอยยิ้ม....คนริมทาง
28 พฤศจิกายน 2548 13:43 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
.สายลมเหนือพัดมาเมื่อหน้าหนาว
..คงถึงคราวคนมั่งมีอวดสีสัน
...มีหลากสีหลายลายเปลี่ยนรายวัน
....เพราะแฟชั่นยุคใหม่ไร้พรมแดน
.....สงสารคนแก่เฒ่าชาวนาไร่
......ผู้ยากไร้ใครจุนเจือทุกข์เหลือแสน
.......เหล่าคนทุกข์ของชาติผู้ขาดแคลน
........ผิงไฟแทนเสื้อกันหนาวคราวเหมันต์
.........สงสารเด็กบ้านนาเมื่อคราหนาว
........ยืนถือเคียวเกี่ยวข้าวทนหนาวสั่น
.........รอไออุ่นจากฟ้าแสงตาวัน
.........โหดเหมันต์ทำร้ายให้กายตรม
..........หนาวของผู้ยากไร้ใครแลเหลียว
..........หนาวหน้าเกี่ยวเรียวรวงทรวงขื่นขม
..........ราคาข้าวตกต่ำช้ำระทม
..........ขาดทุนจมย่อยยับกับเหมันต์
..........หนาว.......
..........คงถึงคราวคนมั่งมีอวดสีสัน
............เหล่าคนทุกข์ซุกร่าง..พลางรำพัน
...........อยากให้สิ้นเหมันต์..ในวันนี้
16 พฤศจิกายน 2548 12:39 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
.ค่ำคืนลอยกระทง..ในดงลึก
..ซ่อนรู้สึกเงียบเหงาเศร้าว้าเหว่
...ไม่คาดหวังให้ใครช่วยถ่ายเท
....เมื่อรักเพพังพ่ายสลายลง
.......จุดเทียนทองล่องไหลลงสายน้ำ
........อดีตย้ำเตือนให้ไม่ลืมหลง
..........อธิษฐานรวมใจใส่กระทง
............หวังให้คงมิตรภาพตราบนิรันดร์
...............สายหมอกหนาวลอยผ่านเพลงหวานแว่ว
................กี่ปีแล้วลาลับราวกับฝัน
.................หรือลืมสิ้นเส้นใยสายสัมพันธ์
..................ปล่อยให้มันผันผ่านกาลเวลา
....................พระจันทร์เด่นเพ็ญสิบสองของปีนี้
.....................อาจไม่มีอะไรให้ซึ้งค่า
......................เป็นเพียงหนึ่งคืนค่ำธรรมดา
.......................รอปีหน้าปีไหนหรือไม่มี
.........................เธออาจเลือนเดือนเด่นเพ็ญสิบสอง
..........................เธออาจหมองหม่นทุกข์ฤาสุขศรี
...........................ฝากความหลังผ่านฟ้าม่านราตรี
............................อย่าหลงลืมคืนนี้เมื่อปีนั้น
.................................ค่ำคืนลอยกระทง...ในดงลึก
..................................ขอบันทึกเก็บไว้ในห้วงฝัน
...................................ความรู้สึกที่ดีดีปีละวัน
....................................ยังจำมั่นไว้อยู่....ไม่รู้คลาย
ค่ำคืนลอยกระทง...ในดงลึก