24 มิถุนายน 2552 22:28 น.
ครูพิม
สงสารภัคินีเจ้าพี่เอ๋ย
เป็นคู่เชยเคียงชิดพิศมัย
ถึงรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจ
จะหาไหนได้เหมือนเจ้าเยาวมาลย์
ตั้งแต่นี้มีแต่จะแลลับ
จนดับสิ้นกาลาปาวสาน
จนม้วยดินสิ้นฟ้าแลบาดาล
มิได้พานพบสมรเหมือนก่อนมา
พี่แบ่งบุญบรรพชิตอุทิศให้
เจ้าจงไปสู่สวรรค์ให้หรรษา
อันชาตินี้มีกรรมจำนิรา
เมื่อชาติหน้าขอให้พบประสบกัน
เป็นมนุษย์ครุฑาเทวาธิราช
อย่ารู้ขาดเสนหาจนอาสัญ
ให้สมวงศ์พงศ์ประยูรตระกูลกัน
อย่าต่างพันธุ์ผิดเพื่อนเหมือนเช่นนี้
สุนทรภู่:พระอภัยมณี
สงสารเอย..สงสารผีเสื้อยักษ์
อัปลักษณ์ร่างกายน่าหน่ายหนี
อยู่เอกาหาใครก็ไม่มี
จะเมตตาปราณีผีเสื้อทราม
ครั้นพบองค์พระอภัยให้เกิดรัก
เกินจะหักข่มใจใช่หยาบหยาม
เพราะร้างคนเคียงไกล้ในทุกยาม
รักแรกลามตามติดประชิดใจ
จึงคิดชั่วกลัวองค์พระทรงศักดิ์
จะไม่รักเมตตาพาอ่อนไหว
ร่ายเวทมนต์แปลงร่างนางทันใด
ให้ไฉไลโสภาจนน่าชม
แนบสนิทชิดใกล้ในท้องถ้ำ
ทุกคืนค่ำสุขใจได้สุขสม
จนมีลูกปลูกเลี้ยงไว้เชยชม
รื่นภิรมย์นักหนา...ยักษาเอย
แต่พระองค์ทรงศักดิ์จักไม่โปรด
จึงให้โทษ..ลาร้างห่างเขนย
เพราะต่างพงศ์ปลงใจมิได้เลย
โอ้อกเอ๋ย...เลยเศร้า....สุดร้าวทรวง...
หรือนางไม่เจียมตนจนตาบอด
ว่าตลอดทางรักที่จักหวง
แท้จริงแล้วาภพหวานกลับพาลลวง
จึงตกบ่วง...ลวงช้ำ..เกินทำใจ
สงสารเอย..สงสาร..ผีเสื้อสมุทร
ครารักคุดหยุดรักก็หาไม่
เที่ยวดั้นด้นค้นหาพระอภัย
จนตักษัย..กลางชลา...มหานที
20 มิถุนายน 2552 15:24 น.
ครูพิม
หอมอันใดไหนเล่าเท่าหอมรัก
ที่ถอถักทักทายคล้ายมนต์ขลัง
ดุจเวทมนต์ดลใจให้จังงัง
เป็นพลังแห่งฝันทุกวันวาร
เมื่อใจเผยเอ่ยทักว่ารักแล้ว
ใจติดแร้วเสน่ห์เล่คำหวาน
แบ่งใจเผื่อเพื่อชังระวังการ
หากพบพานผิดหวังคราพลั้งใจ
ยอมจำนนคำหวานบรรสานส่ง
ค่อยผจงร้อยเรียงมาเคียงใกล้
มธุรสจดปักสลักนัย
ดวงหทัยสองดวงด้วยบ่วงรัก
ทุกวลีมีมาว่าคิดถึง
หัวใจตรึงซึ้งใจให้ประจักษ์
มิอาจทานหวานคำฉ่ำใจนัก
ใจจึงรักตักเติมเสริมให้พอ
ถนอมใจให้กันอย่าหันเห
อย่ามีเล่ห์เฉไฉใจร้องขอ
เพราะรักนี้ที่ให้เต็มใจรอ
ทุกห้องหอของใจให้พี่ชาย
หอมอันใดไหนเล่าเท่าหอมรัก
หอมยิ่งนักหอมใจไม่จางหาย
หอมกลิ่นหวังจำเรียงอยู่เคียงกาย
หอมมิวาย..หอมรัก..คอยตักเติม...
ครูพิม
๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๒
14 มิถุนายน 2552 21:15 น.
ครูพิม
เมื่อความรักคลี่สยายห่มใจฉัน
ความผูกพันนั้นก่อถักทอสาน
เป็นความหวงห่วงใยได้พบพาน
มอบรักผ่านกานท์กลอนออดอ้อนใจ
ว่าอกเอ๋ยเผยใจออกให้เห็น
ความฉ่ำเย็นเป็นกำนัลผ่านคำไข
จึงหวานหอมออมอุ่นละมุนละไม
จากคนไกลไขขานผ่านวจี
ใครคนหนึ่งซึ่งใจมอบให้นั้น
ผ่านเดือนวันคงเห็นเป็นสักขี
หวานคำกลอนอ่อนโยนโชนฤดี
กลั่นวลีหวานล้ำมากำนัล
ว่าห่วงหวงคนดีสุดที่รัก
ว่าใจภักดิ์เพียงเจ้าและเฝ้าฝัน
ว่าทุกห้วงแห่งกาลผ่านเดือนวัน
ว่าเรานั้นรักกันมิผันแปร
ว่ายอมรับกับใจอยากให้รู้
ว่าใจอยู่เพื่อรอมิท้อแท้
ว่าวาดหวังรออยู่เพื่อดูแล
ว่าดวงแดแขเห็นเป็นพยาน
เป็นภาระของใจให้คิดถึง
ทุกคำนึงจึงบรรเลงเพลงขับขาน
ฝากผ่านจันทร์กล่อมใจไปชั่วกาล
รักเนานานแนบใน..สองใจเรา..
๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒
8 มิถุนายน 2552 21:09 น.
ครูพิม
ทุกชีวิตเกิดมาในหล้าโลก
ล้วนทุกข์โศกโชคดีมีสุขสม
แล้วแต่กรรมทำไว้ให้โลกชม
ที่เพาะบ่มตามกาลผ่านเวลา
โอ้นาวาชีวิตลิขิตสร้าง
ทุกเส้นทางสู้ทนเที่ยวค้นหา
สู่จุดหมายปลายทางแห่งมรรคา
และค้นคว้าหาฝันอันงดงาม
ปรารนาสิ่งใดตั้งใจมั่น
แล้วฝ่าฟันสู่จุดหมายอย่าได้ขาม
อุปสรรคมากมายคล้ายติดตาม
อย่าครั่นคร้ามแก้ไขใช้ปัญญา
ผ่านความรักความชังที่หวังไว้
ผ่านยามไข้ยามร้อนอาทรหา
ผ่านขมขืนชื่นตรมจมน้ำตา
ผ่านเหว่ว้าอาวรณ์บทสอนตน
เป็นบทเรียนเวียนวนระคนเคล้า
ต้องวางเป้าเอาไว้ได้ฝึกฝน
กอรปกรรมดีเป็นเกราะทองป้องกมล
คงจะพ้นหม่นหมองผ่องชีวี
โลกยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนทุกเมื่อ
รู้แผ่เผื่อเพื่อนพ้องดั่งน้องพี่
จะเลือกเดินทางใดเลือกให้ดี
เลือกวิถีงามงด..หมดทุกข์เอย..
๘ มิถุนายน ๒๕๕๒
7 มิถุนายน 2552 15:24 น.
ครูพิม
ที่ทุกข์ร้อนอ่อนไหวในวันนี้
อย่าได้มีอ่อนไหวไปกว่าเก่า
รักแล้วร้างสร้างแผลแก่ใจเรา
ลบรอยเศร้าให้หมดแล้วจดจำ
ถึงคราวแยกแยกทางไปต่างฝัน
ลืมคืนวันฝันร้ายนะงามขำ
ที่ผ่านมาคราก่อนสะท้อนคำ
ล้วนตอกย้ำให้เห็นเป็นบทเรียน
ชีวิตเราที่เห็นเป็นเช่นนี้
เมื่อวิถีเปลี่ยนไปสั่งใจเขียน
เนื้อหาใหม่เพิ่มค้นอย่าวนเวียน
สั่งใจเพียรเรียนรู้สู้อดทน
อย่าสิ้นหวังอ่อนแอแพ้คำเขา
ให้ยึดเอาเป็นแรงกล้ามาฝึกฝน
ข้ามสะพานสายรุ้งมุ่งกมล
ก้าวให้พ้นวนวังความชังชิง
เมื่อรักหมดความหมายอย่าได้ยื้อ
ทุกข์สุขคืออนิจจังทั้งชายหญิง
มองเถิดมองตรองดูรู้ความจริง
ว่าทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนหมุนเวียนไป
ลุกเถิดหนาเพื่อนฉันในวันนี้
ฟ้ายังมีหลังฝนที่สดใส
เช็ดน้ำตาลาช้ำระกำใจ
แล้วก้าวไป..เถิดหนา..อย่ากังวล(อย่าอ่อนแอ..)นะ