27 พฤศจิกายน 2550 19:34 น.
ครูพิม
อร่ามเหลืองเรืองรองมองท้องทุ่ง
ตะวันรุ่งทอแสงทองส่องสู่หล้า
สว่างแล้วแวววับจับนัยน์ตา
ความโสภาทุ่งทองของชาวไทย
มือถือเคี่ยวเกี่ยวข้าวเว้ากันม่วน
เสียงเสสรวลเฮฮาแว่วมาใกล้
ญาติพี่น้องในบ้านสำราญใจ
ท้องทุ่งใหญ่พร้อมหน้ามาเดินเรียง
นั่นลุงมาป้าแมวน้าแววด้วย
ลุงสำรวยพี่มั่นและจันทร์เขียง
สาวบัวแววแซวทักหนุ่มสำเนียง
ที่ส่งเสียงจีบกันวันรวมพล
น้ามะลิตำหมากหุ่งกลางทุ่งใหญ่
น้าลำไยแกงผักอีกสักหน
น้าสำลีรี่ด้วยช่วยอีกคน
น้าอุบลปอกแตงโมโชว์ฝีมือ
ตะวันเที่ยงเสียงร้องบอกให้พัก
เสียงร้องทักเก็บเคียวเดี๋ยวช่วยถือ
ญาติพี่น้องทานข้าวฟังข่าวลือ
เพราะเราคือครอบครัวใหญ่ในตำบล
..............................................................
ตะวันบ่ายคล้อยคล้อยค่อยกลับบ้าน
วันนี้งานสำเร็จเสร็จอีกหน
ขอบคุณญาติพี่น้องคล้องกมล
แม้นยากจนก็ไม่ไร้....น้ำใจมี
แหงนมองฟ้าฟ้ากระจ่างกลางเวหน
ท่ามความจนแต่น้ำใจเต็มไหลปรี่
ไกลปื่นเที่ยงแต่น้ำใจนั้นมากมี
เราน้องพี่เหมือนพี่น้องคล้องสายใย....
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
24 พฤศจิกายน 2550 16:03 น.
ครูพิม
ชีวิตคนชีวิตใครตามใจอยาก
คงลำบากหากตามใจไปทุกเรื่อง
เสียเวลามากมายคล้ายเปล่าเปลือง
กับบางเรื่องเลวร้ายที่กรายมา
แม้นทุกข์ทนทนท้อต่อไปหน่อย
อย่าได้ปล่อยให้ใจร่ำไห้หา
ข่มใจหักยิ้มฝืนแล้วตื่นตา
พิจารณาอาจมองเห็นความเป็นไป
ถอยหลังก่อนเพียงหนึ่งซึ่งถนัด
อาจเห็นชัดถนัดแน่รีบแก้ไข
ช่วยตนก่อนเถิดหนาอย่ารอใคร
ตะวันใหม่ของวันนั้นจักเยือน
ปลอบใจตนอย่าท้อต่อใจล้า
ปลอบใจว่าอย่าปล่อยให้ใครเฉือดเฉือน
ปลอบใจนี้นอนพักบนตักเรือน
ปลอบใจเหมือนแม่ปลอบมอบอุ่นไอ
ชีวิตคนชีวิตใครใยเกี่ยวข้อง
ชีวิตหมองชีวิตเฉาเศร้าใจไหม
ชีวิตเราสร้างดีอยู่ที่ใจ
ชีวิตใคร...อย่าหมายข้อง...จนหมองเลย..
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
22 พฤศจิกายน 2550 10:27 น.
ครูพิม
เป็นเพียงเทียนส่องไกลกลางไพรกว้าง
เป็นเรือจ้างลำน้อยคอยส่งท่า
เป็นคนปั้นเติมแต่งแห่งปัญญา
ส่งคุณค่าเพียงน้อยคอยห่วงใย
หวังให้เจ้างดงามตามทางฝัน
รู้ฝ่าฟันอดทนจนสดใส
อนาคตงดงามตามตั้งใจ
เมื่อเติบใหญ่เป็นคนดีศรีสังคม
ขอขอบคุณอัลมิตราอีกคราหนึ่ง
ยังซาบซึ้งน้ำใจได้สุขสม
ช่วยต่อเติมฝันงามตามคารม
เด็กชื่นชมได้เบ่งบานบนลานกลอน
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
20 พฤศจิกายน 2550 19:14 น.
ครูพิม
ระริกกายไหวสั่น
ค่ำคืนนี้ยาวนานกว่าวารไหน
คิดถึงคนที่หวงยังห่วงใย
รอดวงใจนี้กลับรับคืนเรือน
อยู่บนดอยหนาวไหมหนอ
คนข้างล่างก็หนาวพอพ้อเสมือน
รอคอยรับคำคิดถึงซึ่งเคยเยือน
พจีพี่อย่าลาเลือนเหมือนเวลา
กอดคำรักและห่วงใย
ที่ฝากไว้ให้กันเสกสรรหา
หน้าที่มีดึงฝันนั้นไกลตา
แต่ทว่าหัวใจใคร่แนบเนาว์
ถ้อยคำหนึ่งซึ้งใจนัก
“คุณที่รักอย่าท้อต่อความเหงา”
เก็บห่วงใยแนบชิดติดใจเรา
จะไม่เศร้าและท้อ...ต่อการรอ
กำลังใจจากฉัน
พอเสกสรรกำลังใจได้ไหมหนอ
ความห่วงถึงจากเราเฝ้าพนอ
คอยเคลียคลอกอดฝัน...ทุกวันคืน....
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
19 พฤศจิกายน 2550 06:40 น.
ครูพิม
เจ้าจะหลงวังวนจนท้อแท้...
ถ้ามัวแต่สงสารคำหวานเขา
ปล่อยให้คำออดอ้อนต้อนใจเรา
สู่มุมเหงาของหัวใจใยอ่อนแอ
หลงคำพ้อต่อว่าจนว้าวุ่น
หลงคำเอื้อเจือละมุนอุ่นกระแส
หลงเติมรักตักเติมเพิ่มดวงแด
หลงจนแพ้แท้หลงพะวงวน
จะให้ทำอย่างไรหนอใจเอ๋ย
จะละเลยกลัวผวาพาสับสน
จะรับรักหนักแน่แพ้กมล
จะอดทนใจก็ร่ำแต่คำรัก
เสียงทุ้มทุ้มกุมใจเจ้าไปหมด
เสียงหวานหยดรดใจให้ประจักษ์
เสียงท้วงติงจากใครใคร่จะทัก
เสียงก็จักเบาไปไม่ได้ยิน
ตัดใจเจ็บเพียงครั้งยังอยู่ได้
ตัดความใคร่ลุ่มหลงพะวงสิ้น
ตัดใจจากก่อนจะช้ำน้ำตาริน
ตัดให้สิ้นสู่สงบ....พบความจริง...
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๐