30 เมษายน 2552 12:22 น.
ครูพิม
ตะวันทอทาบทาฟ้าวันรุ่ง
น้ำค้างฟุ้งพุ่งลาเพื่อมาใหม่
หัวอกพ่อและแม่แท้ห่วงใย
เจ้าดวงใจคนดีที่เฝ้ารอ
สองมือพ่อก่องานเพื่อนสานฝัน
มือแม่ปั้นหมั่นสู้อยู่ไม่ท้อ
ยอมทิ้งร้างห่างเชยเคยพะนอ
เพื่อมาต่อก่อฝันขวัญลูกยา
พ่อเรียนน้อยด้อยรู้อยู่ลำบาก
แม่จนยากหากแรงแห่งแขนขา
ยังพอมีที่จะวัดแห่งศรัทธา
เพื่อแก้วตาพ้นยากลำบากนาน
เสื้อชุดใหม่ได้รัฐช่วยจัดหา
อีกตำราหาให้ได้ประสาน
อีกช่วยค่ากิจกรรมนำพบพาน
แต่อีกบานต้องหามาต่อเติม
อยู่เมืองใหญ่ไหนเลยจะเคยสุข
แบกแต่ทุกข์คลุกงานมาสานเพิ่ม
ห่วงแสนห่วงนวลนางเหมือนอย่างเดิม
หางานเสริมเพิ่มเงินจนเกินแรง
ขอดวงใจใฝ่เพียรเรียนหนังสือ
หมั่นฝึกปรือดั่งคำย้ำแถลง
ให้ทบทวนครวญคิดจิตแจกแจง
ให้รู้แจ้งรู้จริงทุกสิ่งอัน
ขอเจ้าเป็นเด็กดีที่เรียนรู้
ขอเจ้าสู้อยู่เพียงพอลออขวัญ
ขอเจ้าจงแกร่งกล้าดุจตาวัน
รู้สร้างสรรค์ปั้นแต่ดี...เท่านี้พอ...
สงสารเอยพ่อแม่
ลำบากแท้แต่สู้ได้ไม่หวั่นหนอ
ขอเพียงลูกได้อยู่ดีไม่รีรอ
ลำบากบ่.ได้หวั่น...สักวันเลย...
๓๐ เมษายน ๒๕๕๒
มรดกพ่อแม่
จาก..http://www.fwdder.com/topic/89841
28 เมษายน 2552 10:47 น.
ครูพิม
เพียงเพราะหวังยังสวยด้วยความหวัง
ใจจึงยังสั่งสู้อยู่ไม่ถอย
ที่ผ่านมาล้าช้ำน้ำตาปรอย
ทุกข์ไม่น้อยหนอใจให้อดทน
เพียงเพราะรักประจักษ์มั่นจึงหมั่นถาม
คอยติดตามถามไถ่ไปทุกหน
แม้เคยทำย้ำหลอกยอกกมล
แต่ใจคนคนนี้มิผันแปร
เพียงเพราะรอขอใจให้ยึดมั่น
บนทางฝันบั่นทอนสั่นคลอนแท้
หนทางขวางห่างไกลไม่ผันแปร
เพียงดูแลแม้ไกลใช่หวั่นกลัว
เพียงเพราะเราเข้าใจเยื่อใยรัก
ที่ทอถักปักทรวงห่วงทูนหัว
ด้วยหน้าที่มีอยู่เรารู้ตัว
ใครยิ้มยั่วพัวพันนั้นไม่มี..
เพียงเพราะใจใฝ่ปองจึงตรองย้ำ
ให้จดจำคำหวานผ่านวิถี
ด้วยลำนำคำอ้อนกลอนวลี
จากใจที่รักล้นจนท้นทรวง
เพียงเพราะโลกสวยงามด้วยความรัก
จึงประจักษ์สลักแน่นดุจแดนสรวง
คีตกานต์บรรเลงเพลงกล่อมดวง
ให้ลาล่วงบ่วงเหงา..หายเศร้าตรม..
๒๘ เมษายน ๒๕๕๒
26 เมษายน 2552 20:31 น.
ครูพิม
หลังฝนรินดินนุ่มชุ่มสดใส
มวลพฤกษ์ไพรเริงร่าคราต้องฝน
ผลิช่อใบให้อาหารทั่วธารดล
เหล่าผู้คนอาศัยได้ดื่มกิน
พริกมะเขือตะไคร้ได้ตื่นฟื้น
หลังจากยืนฝืนต้นจนเฉาสิ้น
หยาดพิรุณหล่นพรมห่มผืนดิน
ให้ทั่วถิ่นสดเขียวด้วยเรียวใบ
ข่าหลายก่อหน่อแทงได้แกงต้ม
อีกผักขมแตกยอดทอดไสว
เก็บเกี่ยวกินจินต์ชื่นตื้นตันใจ
อาหารไทยชาวบ้านตระการงาม
คิดถึงพี่คนไกลเจียนใจขาด
จำนิราศขาดสัมพันธ์คนหยันหยาม
เดือนหกย่างห่างกันฉันติดตาม
ทุกข์คอยลามตามติดประชิดกัน
ฝนเริ่มมานามีน้ำร่ำร้องขอ
ว่ายังรอพี่กลับมารับขวัญ
นายังรอพี่กลับนับเดือนวัน
มาก่อฝันหว่านข้าวกับสาวนา
หลังฝนรินดินนุ่มชุ่มทั่วถิ่น
พลิกพื้นดินสินทรัพย์มากนับค่า
รอคอยพี่นี้คืนปลูกผืนนา
ให้โสภาตระการเขียวด้วยเรียวรวง…
๒๖ เมษายน ๒๕๕๒
23 เมษายน 2552 20:34 น.
ครูพิม
มองอะไรให้มองทั้งสองด้าน
อย่ามองผ่านด้านเดียวให้เหลียวหลัง
อาจมีสิ่งจริงซ่อนซ้อนกำบัง
อยู่อีกฝั่งยังเร้นให้เป็นไป
มองรูปงามนามเพราะเสนาะหู
งามเริศหรูดูดีสีสดใส
อาจซ่อนคมบ่มพิษในจิตใจ
ซ่อนปมนัยให้ชมแล้วตรมตรอม
แม้นรูปชั่วตัวดำทำดีบ้าง
ในเส้นทางสร้างงามทุกยามหอม
ดุจขนุนหนามไหน่ไม่น่าดอม
แต่หวานล้อมหอมล้ำฉ่ำหัวใจ
มองกระจกด้านหน้าว่างามหรู
แต่หากดูอีกด้านที่ม่านไหว
อาจไม่งามตามเห็นหรือเป็นไป
ทุกสิ่งไซร้ซ่อนเงื่อนเหมือนผูกปม
หากพิเคราะห์ดูผลจนรู้ชัด
แล้วค่อยจัดลำดับไว้ให้เหมาะสม
ผิดหรือถูกผูกประเด็นคนเห็นชม
มวยอย่าล้มต้มคนดูผู้ลำเค็ญ
มองอะไรให้มองทั้งสองด้าน
อยามองผ่านม่านตาเราเท่าที่เห็น
มองทะลวงล้วงหลายหมายประเด็น
ด้วยเยือกเย็นเห็นธรรมอย่าลำเอียง
๒๓ เมษายน ๒๕๕๒
21 เมษายน 2552 20:47 น.
ครูพิม
อ่านเรียงความพิมญดาคนน่ารัก
อยากเป็นนักแม่ค้าคนหน้าใส
หรือจะเป็นนางบาน(พยาบาล)งานงามใจ
นางสาวไทยนั่นยากก็อยากเป็น
อยากจะเป็นโคโยตี้ที่น่ารัก
ดั้งไม่หักเหมือนครูผู้ยากเข็ญ...(ก้าก)
นางแบบสวยหุ่นงามยามเดือนเพ็ญ
ความสวยเด่นเลิศหรูหนูพอมี
อยากเป็นหมอรักษาไข้ให้คนยาก
อยากเป็นมากตำรวจไล่คนร้ายหนี
อยากเป็นนายก อบต.คงจะดี
ตอบอีกทีครูขาดารางาม
อยากเป็นโน่นเป็นนี่นั้นดีนัก
แต่เรื่องรักงดก่อนคนจะหยาม
รักวัยเรียนลำบากหากรักตาม
หลอกหลอนยามรักชังนั่งปวดใจ
เรียนให้จบมีงานสานความรัก
ค่อยทอถักอนาคตคงสดใส
รักวัยเรียนเวียนหัวอยู่รำไป
นะทรามวัยเชื่อครูผู้หวังดี..
แม้นไม่ฟังยืนตรงจงกอดอก
อาจจะตกช้ำชั้นนั่นละนี่
ส่งฟ้องศาลฐานซนคนอวดดี
จะต้องตี...ก้นลาย...ให้หลาบจำ...(อิอิอิ)
๒๑ เมษายน ๒๕๕๒