10 ธันวาคม 2549 21:58 น.
ครูพิม
คิดถึง รีรี ข้าวสาร
มอญซ่อนผ้า เบิกบาน อยู่ข้างหลัง
แม่งูเอ๋ย ไปกินน้ำ ให้ระวัง
จะขี่หลัง เจ้าม้าใหญ่ ไปส่งเมือง
คิดถึง จ้ำจี้ มะเขือเปาะ
จะกะเทาะ ข้างหลัง ให้ลือเลื่อง
จะขย่ม เต็มที่นะ อย่าได้เคือง
เป็นม้าเชื่อง อย่าได้ซน คนจะตี
คิดถึง เดินกะลา ขาโถกเถก
คุณตาเสก เป่าไว้ พร้อมป้ายสี
หลานละเลง สีขาว ราวจำปี
ตาบอกดี ช่วยกัน มาสรรค์งาน
คิดถึง ม้าก้านกล้วย วิ่งกั้บกั้บ
เด็กเด็กรับ จากมือยาย ไปข้างบ้าน
ตายายยิ้ม อิ่มใจ ให้เบิกบาน
เห็นลูกหลาน เล่นร่วมกัน รักมั่นคง
การละเล่น เด็กไทย สมัยนั้น
ล้วนสร้างสรรค์ สามัคคี ไม่มีหลง
แต่วันนี้ เด็กไทย ให้ทะนง
เข้าสู่ดง ไอที ที่กว้างไกล
เพราะวันนี้ เด็กเด็กเขา เฝ้าแต่แชท
และเฝ้าแอด เกมต่อสู้ ไม่ไปไหน
นั่งหน้าจอ ร้อลุ้นกัน ทุกวันไป
แสนเศร้าใจ อนาคต คงหมดงาม....
ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย...นำไอทีเข้ามาแล้ว...หาวิธีการป้องกันและดุแลลูกหลานอนาคตของชาติด้วยนะคะ.....
9 ธันวาคม 2549 23:17 น.
ครูพิม
เสื้อมอมแมม แก้มช้ำ น้ำตาตก
เจ้าช้ำอก หมองหม่น จนเรื่องไหน
คุณครูขา พ่อแม่หนู เขาอยู่ไกล
ไม่ใส่ใจ ห่วงหนู ดูเขาทำ
สิบหกปี เติบใหญ่ ในวันนี้
เพราะหนูมี คุณยาย ผู้ขามขำ
พ่อแม่หนู ดูเขา ช่างใจดำ
ข้าวทุกคำ จากมือยาย ไม่อิ่มเลย
สายตาที่ เหว่หว้า อาทรนัก
โหยหารัก แต่เขา กลับนิ่งเฉย
อ้อมอกที่ อบอุ่น เพื่อนคุ้นเคย
โอ้อกเอ๋ย อยากสัมผัส นั้นสักครา
กอดหนูไว้ ในวันนี้ มีคำตอบ
แบบทดสอบ เจ้าแข็งแกร่ง ดุจหินผา
มีแต่ยาย เจ้าก็งาม ตามตำรา
พร้อมคุณค่า ความเป็นคน จนเต็มตัว
อย่าได้ร้อง โหยหา คว้าความรัก
เพราะประจักษ์ แน่แล้ว แก้วทูนหัว
ยายและครู อยู่ใกล้ใกล้ ไม่ต้องกลัว
สิ่งหมองมัว สลัดไป ให้ไกลตน
กอดตัวเอง เอาไว้ อย่าให้หนาว
ทุกข์หลายคราว ผ่านไป หลายหน้าฝน
สร้างฝันสวย ด้วยมือเรา นะอดทน
อย่ากังวล เรื่องใด ให้หมองมัว
ฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ ที่ปลายฟ้า
รอเจ้ามา เก็บเกี่ยวไป นะทูนหัว
กำลังใจ สร้างได้ จากใจตัว
ฟ้าสลัว คงสลาย ในเร็ววัน
ที่ผ่านมา เจ้าก็แกร่ง ด้วยแรงรัก
ยายฟูมฟัก อบรม บ่มสร้างฝัน
อ้อมกอดยาย อ่อนน้อม พร้อมป้องกัน
ให้ฝ่าฟัน สู่ฟ้ากว้าง อย่างอดทน
จงตั้งใจ พากเพียร เรียนหนังสือ
เป็นเครื่องมือ สร้างฝัน นั้นอีกหน
ยึดความดี คิดดีไว้ หายกังวล
จะเป็นคน เต็มคนได้ ในเร็ววัน...
9 ธันวาคม 2549 21:24 น.
ครูพิม
เจ็บมากหรือ ล้มลง ที่ตรงนี้
ตรงที่ทุกข์ ทับถม ตรมมากไหม
ตรงที่คน หลายคน ไม่เข้าใจ
ตรงที่ ความอ่อนไหว ในใจมี
ท่าน ผ.อ. จะเอางาน ที่เลิศหรู
และเพื่อนครู ก็วิ่งชน จนต้องหนี
เมื่อมีความ ขัดแย้ง แย่งทำดี
คนที่มี กิเลศ เหมือนเปรตชิง
มาทะเลาะ เพราะต้องการ งานเอาหน้า
สร้างคุณค่า ลมลม ชมกันยิ่ง
งานที่โรย ด้วยผักชี ช่างดีจริง
ทุกทุกสิ่ง แม้เหยียบย่ำ ทำกันเอง
มัวแต่เลีย จนลิ้นบ้าง ช่างน่าขัน
น้ำลายนั่น พ่นเข้าไป ใช้ข่มเหง
เบื่อแสนเบื่อ เมื่อเห็น เป็นนักเลง
เข่ไม่เกรง บาปกรรม ที่ทำเลย
วงการอื่น จะมีเป็น เช่นนี้ไหม
หรือเกลื่อนไป ช่วยตอบ หน่อยเพื่อนเอ๋ย
อย่ามัวนิ่ง หรือจะเป็น เหมือนเช่นเคย
มาเถิดเหวย บอกกล่าว เล่าสูกัน....ฟังแหน่...
25 พฤศจิกายน 2549 11:09 น.
ครูพิม
รักคือความ คิดถึง คนึงหา
หรือรักคือ น้ำตา คราผิดหวัง
หรือรักคือ แหล่งเติม เพิ่มพลัง
หรือรักยั้ง ความชั่วได้ ไม่หลงทาง
รักคือ เอื้ออาทร ใช่อ่อนจิต
รักคือมิตร ถึงห่างไกล ไม่หมองหมาง
รักคือเพื่อน ช่วยพยุง คราอับปาง
ช่วยถากทาง อุปสรรค เพราะรักกัน
รักคือความ หวังดี ที่มีให้
รักคือความ จริงใจ ไม่แปรผัน
รักคือความ ดีงาม สานสัมพันธ์
รักคงมั่น ด้วยใจซื่อ ถือความจริง
รักอาจก่อ เกิดได้ ในทุกหน
รักเกิดได้ กับทุกคน ทั้งชายหญิง
จงถนอม รักไว้ ด้วยใจจริง
อย่ากลอกกลิ้ง หลอกล่อ ลงบ่อตรม....
24 พฤศจิกายน 2549 20:54 น.
ครูพิม
สายลมหนาว พัดมา อีกคราแล้ว
เสียงหวีดแว่ว มาไกล ใจคิดถึง
คนที่เคย ฝากรักไว้ ให้คำนึง
คำเคยซึ้ง ก่อนลา น้ำตาริน
คำสัญญา จากใจ ให้ไว้ว่า
แม้ห่างตา ใจอยู่ คู่ถวิล
คิดถึงเธอ ห่วงหา เป็นอาจินต์
คราได้ยิน อุ่นนัก รักของเรา
ขอให้เรา ไว้ใจ แม้กายห่าง
จะอ้างว้าง เปลี่ยวใจ ก้ไม่เหงา
เพราะกายพี่ มีกายน้อง ครองเป็นเงา
รักของเรา คงมั่น นิรันดร
ลืมแล้วหนอ คำสัญญา ที่ว่าไว้
เขาจึงไม่ จดจำ กลับไถ่ถอน
ลืมความรัก บอกไว้ ก่อนจะนอน
เราอาวรณ์ เหว่ว้า น้ำตาริน
กอดสัญญา เก่าเก่า เฝ้าคิดถึง
ถ้อยคำซึ้ง เขาไม่จำ ช่างใจหิน
จำก็เจ็บ ลืมไม่ได้ อายฟ้าดิน
ได้แต่ผิน หน้าเมิน...เกินห้ามใจ..