16 พฤษภาคม 2550 11:00 น.
ครูพิม
วันสถาปณา โรงเรียน เวียนมาถึง
รวมดวงใจ เป็นหนึ่ง จึงสร้างสรรค์
เร่งจัดงาน ทำบุญ วุ่นทั้งวัน
แบ่งงานกัน ดูงดงาม ตามประเพณี
หิ้วมะพร้าว ใบตอง ของต้องใช้
พร้อมทั้งไม้ กลัดใบตอง กองไว้นี่
ช่วยกันขูด มะพร้าว แรงเรามี
น้องคนดี ฉีกใบตอง ลองห่อกัน
ข้าวนาโค ข้าวต้มมัด จัดสรรแล้ว
เหล่าศิษย์แก้ว มองคุณตา มาช่วยนั่น
ตาบอกสูตร ทำขนม ที่สำคัญ
ว่าต้องมัน และหวานหวาน นั้นพองาม
หลายคนช่วย ลงแรง อย่างแข็งขัน
หนูผมสั้น สนใจ ใคร่ขอถาม
คุณตาขา ใส่แป้งแล้ว กะทิตาม
คนสักสาม ชั่วโมง คงต้องพอ
คุณตาบอก คนไว้ ไปเรื่อยเรื่อย
แต่ถ้าเมื่อย ก็เปลี่ยนกัน นั่นแหละหนอ
ตาจะช่วย สอนให้ ไม่ต้องรอ
เพียงแต่ขอ ตั้งใจทำ ตามขั้นตอน
โรงเรียนเรา ดูวุ่นวาย ในวันนี้
ศิษย์รู้ดี คุณธรรม ตามครูสอน
เย็นวันนี้ ฟังธรรมพร้อม น้อมสังวร
แล้วพักผ่อน เตรียมข้าวของ ต้องเตรียมการ
เจ็ดโมงเช้า เราพร้อมกัน นั้นอีกครั้ง
เจ้าจงตั้ง ใจพร้อม น้อมประสาน
เริ่มต้นเทอม ทำบุญ และทำทาน
จิตเบิกบาน แจ่มใส ไร้เคราะห์กรรม
ภาพการบายศรีสู่ขวัญนักเรียน ม.๑ และ ม.๔ เมื่อปีกลาย
14 พฤษภาคม 2550 15:10 น.
ครูพิม
เสียงวุ่นวาย โหวกเหวก เล่นเขกหัว
เสียงระรัว หัวเราะกัน สนั่นไหว
อาคารห้า แทบพัง ลงบรรลัย
วิ่งหยอกไล่ กันสนุก ทุกผู้คน
หนูมอหนึ่ง ชุดใหม่ หน้าใสกิ๊ก
วิ่งไล่หยิก หยอกกัน มันเหลือล้น
แสนสนุก เพลินใจ ในกมล
สู้ดั้นด้น มาเรียน เขียนอ่านกัน
น้องมอสอง ผ่องใส ได้เห็นหน้า
เปิดเทอมมา คุยจ้อ พ้อเสียงสั่น
ปิดสองเดือน เพื่อนไป เที่ยวไหนกัน
คุยกันมัน สนุกแท้ แหมเพลิดเพลิน
พี่มอสาม ถามข่าว ถึงสาวน้อย
พวงแก้มย้อย ยามมอง ต้องขวยเขิน
พี่พี่แซว ตรงสามแยก แปลกเหลือเกิน
เริ่มสะเทิ้น ขวยอาย อ้ายหลายคน
พี่มอสี่ หลายหน้า มาแปลกแปลก
ปลายผมแตก เพราะรีดเรียบ เสียหลายหน
ผ.อ.ท่าน สั่งตัดสั้น หั่นเสียจน
น้ำตาหล่น แสนเสียดาย ทั้งอายคน
พี่มอห้า มาแล้ว น้องแก้วเอ๋ย
ด้วยไม่เคย ทำหน้าที่ นี่สักหน
เป็นประธาน นักเรียน ต้องเวียนวน
พบผู้คน หน้าเสาธง เจาะจงทำ
พี่มอหก หน้าก็ย่น คนขยัน
ต้องเร่งกัน ศึกษา นะงามขำ
จำต้องสอบ เอเน็ต โอเน็ตนำ
ทุกคืนค่ำต้องทบทวนชวนกันเรียน
จะมอไหน ก็ขวัญใจ ครูทั้งนั้น
เราพบกัน เพื่อศึกษา พาอ่านเขียน
กิจกรรม หลากหลาย ให้พากเพียร
เนิ่นจำเนียร เรียนรู้กัน ทุกวันเอย
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๐
11 พฤษภาคม 2550 11:14 น.
ครูพิม
แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง
ไยหม่นหมอง นองน้ำตา หมดราศี
ใครกันหนอ ใครกัน มันย่ำยี
ปฐพี เคยร่มเย็น กลับเป็นไฟ
ใครหนอใคร ใจร้ายนัก
ทหารหาญ ปกปักษ์ รักษ์รู้ไหม
คนอยู่หลัง หลับสบาย ทั้งกายใจ
ก็แล้วไย ถูกล่า เข่นฆ่าฟัน
เคยร่มเย็น เห็นธรรม
ไยก่อกรรม สร้างทุกข์เข็ญ เห็นกระสัน
หยุดผลาญพล่า ฆ่ารบ จบแย่งกัน
แล้วร่วมสรรค์ สร้างชาติไทย ให้เจริญ..
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐
หลับเถิดทหารกล้า...ชาวประชาขอขอบคุณ..
9 พฤษภาคม 2550 15:38 น.
ครูพิม
เป็นชาวนา ทำนา ประสายาก
ทนลำบาก ทำนาไร่ ได้ข้าวขาย
พอเลี้ยงตน มีความสุข แสนสบาย
ลูกหญิงชาย ได้เงินเรียน พากเพียรกัน
เป็นชาวสวน ทำสวน ล้วนยากแค้น
หมดเงินแสน ราคาขาย ใยแปรผัน
มังคุดงาม ราคาด้อย คอยใครกัน
มาแบ่งปัน ช่วยเหลือ เพื่อกู้ทุน
เป็นชาวประมง หาปลา ชลากว้าง
ใจเวิ้งว้าง อดสู รอผู้หนุน
รอสาวสวย รวยน้ำใจ ได้เจือจุน
มอบไออุ่น ยามเข้าฝั่ง ให้ฝังกาย
เป็นเกษตรกร อ่อนใจ ใครช่วยเหลือ
ลงหยาดเหงื่อ ลงแรงใจ ด้วยใจหมาย
หวังเก็บผล กำไร ได้มากมาย
แต่สุดท้าย ความหวังล่ม ลงจมดิน
ราคาขาย ด้อยค่า หาใครช่วย
รัฐอำนวย มาดูแล พอแก้ไข
รัฐอย่าเมิน โปรดมองดู รู้เห็นใจ
ช่วยแก้ไข ปัญหาใหญ่ ให้เกษตรกร
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐
วันที่ ๑๐ พฤษภาคม เป็นวันพืชมงคล
ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้อง
เกษตรกรทุกท่าน..
ท่านคือผู้ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ
อิ่มท้อง...
8 พฤษภาคม 2550 14:08 น.
ครูพิม
เป็นครูดอย บ้านนา กลางป่ากว้าง
เป็นนักสร้าง ตัวเล็กเล็ก ของเด็กน้อย
เป็นพ่อแม่ คราลูกศิษย์ คิดเฝ้าคอย
เป็นหิ่งห้อย กลางป่าเขา ลำเนาไพร
เป็นคุณหมอ คราไข้ พอได้ผ่อน
เป็นผู้สอน สานฝัน อันยิ่งใหญ่
เป็นนักปั้น เด็กบ้านนา กลางป่าไพร
เป็นผู้ให้ คราเจ้าหิว ไส้กิ่วกัน
เป็นภารโรง ตอนเช้า เฝ้าปัดกวาด
เป็นคนวาด จินตนาการ สานสู่ฝัน
เป็นผู้ส่ง เข้าประกวด อวดงานกัน
เป็นคนกั้น กางเจ้า พ้นเศร้าตรม
เป็นพี่สาว คราวท้อ ทุกข์หมองหม่น
เป็นเพื่อนทน รับฟัง คราขื่นขม
เป็นคนแก้ ปัญหา คราระทม
เป็นคนบ่ม เพาะเจ้างาม ได้ตามกาล
เป็นคนคอย รับฟัง เรื่องทั้งหลาย
เป็นผู้ให้ แนวทาง อย่างสร้างสรรค์
เป็นผู้ให้ เอื้อเฟื้อ เพื่อแบ่งปัน
เป็นศิษย์ฉัน นั้นคือลูก จึงผูกพัน
สอนนักเรียน เขียนอ่าน ผ่านหลายรุ่น
ใจยังกรุ่น อุดมการณ์ สร้างงานนั่น
ศิษย์หลายคน งดงาม ตามต้องการ
เป็นผลงาน ภาคภูมิใจ...ยิ่งใหญ่เอย...
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐