17 กรกฎาคม 2550 16:18 น.
ครูพิม
มีเรื่องเล่ากล่าวขานตำนานหนึ่ง
ที่กล่าวถึงสาวงามนามผมหอม
กลิ่นเกศาพาให้เหล่าชายยอม
ใจโน้นน้อมต่อสาวเจ้าผมงาม
หากแต่ใจของสาวมีเจ้าของ
ใครหมายปองไม่อาจหมายให้ใครหยาม
มีรักเดียวใจเดียวเกี่ยวติดตาม
ชายหนุ่มนามเจ้ามั่นนั้นคนเดียว
เจ้าหนุ่มมั่นจากบ้านทำงานไกล
พร้อมสัญญาอย่าให้ใครข้องเกี่ยว
เก็บกายใจไว้รอพี่นี้ผู้เดียว
อย่าและเหลียวชายอื่นให้ขื่นตรม
สาวผมหอมรับคำสัญญามั่น
ก่อนจากกันนางหั่นเข้าตัดผม
แม้นใจพี่เปลี่ยนไปให้น้องตรม
ใจคงตรมขาดแน่ไม่แพ้กัน
เจ้าหนุ่มมั่นจากไกลไปนานแล้ว
ปล่อยให้แก้วรอหายใจเริ่มหวั่น
แว่วข่าวล่ามาไกลบอกเขาแบ่งปัน
ไปร่วมฝันกับสาวงาม...ลืมสัญญา
สาวผมหอมตรอมใจจึงไข้เจ็บ
ใจที่เก็บไว้นานพาลโหยหา
จึงไปนั่งรอคอยเขากลับมา
บนริมผาสูงไกล.....สิ้นใจตรอม...
เก็บสัญญาเก็บใจไว้ให้มั่น
เขาทิ้งกันง่ายง่ายจึงผ่ายผอม
ถนอมเนื้อถนอมใจใคร่อดออม
กลับต้องตรอมเพราะชายคนหลายใจ
ผานางคอยคอยเก้อกันจนวันนี้
ไม่เห็นมีชายใดมีใจมั่น
รักที่มอบไร้ค่าจึงจาบัลย์
จนถึงวันสิ้นใจลา...ผานางคอย..
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๐
16 กรกฎาคม 2550 11:36 น.
ครูพิม
หลายคราที่ดวงใจนี้ไร้หลัก
ไร้ที่พักพึ่งพาจะอาศัย
หลายคราที่โศกาเหว่ว้าใจ
น้ำตาไหลเดียวดายใจอาดูร
เหตุเพราะเราอ่อนแอจึงแพ้พ่าย
เหตุเพราะหน่ายใจคนทนสิ้นสูญ
ไม่รู้ว่าจะหาแรงแต่งเพิ่มพูน
แล้วเกื้อกูลใจดวงนี้ที่ระทม
อ่านบทกลอนมากมายในบ้านนี้
ก็พอมีแรงใจหายขื่นขม
จะสลัดความท้อต่อระทม
ใจก็จมทุกข์หนักเพราะรักลวง
อยากเข้มแข็งแรงกายใจฮึดสู้
พอจะกู้พอจะก้าวร้าวเจ็บหน่วง
เหมือนโลกดับมืดสนิทจิตทั้งดวง
ดั่งตกบ่วงทุกข์ท้อต่อชะตา
หวังว่าวันฟ้าใสใกล้มาถึง
พอจะดึงใจนี้ที่ผวา
ให้เข้มแข็งดั่งขุนเขาจ้าวศิลา
ไม่ผวามีแรงต้าน...ทานแรงลม..
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๐
12 กรกฎาคม 2550 09:31 น.
ครูพิม
ลมหนอลมพัดชื่นระรื่นจิต
ต้องกายนิดก็สดใสไร้ปัญหา
ลมต้องกายคราใดได้พึ่งพา
เพราะถึงคราร้อนก็คลายสบายตัว
ลมคิดถึงลมรักชักหนักจิต
เป็นลมพิษโหยหาพาปวดหัว
แม้นลมรักชักใยใจเริ่มกลัว
ฟ้าสลัวเริ่มหม่นสิ้นหนทาง
ลมอะไรก็ไม่ร้ายเท่าลมปาก
หากลมถากจะเจ็บจิตให้คิดหมาง
กลายเป็นลมริษยามาระวาง
กลายเป็นทางมือมิดคิดไม่ดี
ลมเอ๋ยลม
วานลมห่มใจที่ร้อนผ่อนที่นี่
แม้นว่าใครใจร้อนรุ่มกลุ้มฤดี
ลมช่วยชี้ช่องทางระหว่างใจ
ลมเจ้าขาพาใจฉันในวันนี้
หอบรักที่สานทอก่อได้ไหม
ลมช่วยชักทักทอต่อเส้นใย
แล้วพัดไปบอกข่าวว่าเฝ้ารอ....
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐
10 กรกฎาคม 2550 13:57 น.
ครูพิม
font color=#DC00FF>
มองท้องนาคิดถึงพ่อก็ใจหาย
เมื่อปีกลายพ่อลาลับดับสังขาร
รินน้ำตาอาลัยใจแหลกลาญ
หลายปีผ่านเคยดูแลไม่แชเชือน
ป้อนข้าวพ่อต่อด้วยยารักษาไข้
พอทำได้แทนคุณนี้ไม่มีเหมือน
สองมือพ่อเคยคุ้มภัยภายในเรือน
คอยตักเตือนยามหลงทางอย่างห่วงใย
ส่งให้เรียนเขียนอ่านใกล้บ้านก่อน
เพราะสะท้อนพ่อยากจนทนหม่นไหม้
ให้เรียนครูสมอย่างที่ตั้งใจ
พอจบได้บรรจุงานใกล้บ้านตน
สองมือพ่อสร้างโลกสวยด้วยมือพ่อ
สองมือก่อป้องกางทางหมองหม่น
สองมือพ่อคอยปลอบขวัญวันร้อนรน
ที่สับสนก็จางหายในเร็ววัน
วันพ่อล้มป่วยหนักเฝ้ารักษา
ป้อนข้าวปลายาด้วยช่วยต่อฝัน
แต่พ่อจ๋าก็ลาลับกับตะวัน
จึงเป็นวันโลกล่มจมน้ำตา
ครบหนึ่งปีพ่อลาลับดับสังขาร
แต่ดวงมาลย์พ่อยังใกล้ใจห่วงหา
แม้นพ่ออยู่แดนใดในโลกา
ให้รู้ว่าลูกลูกยังผูกพัน..
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐
5 กรกฎาคม 2550 17:03 น.
ครูพิม
ตะวันรอนอ่อนแสงแรงเริ่มอ่อน
ใจรอนรอนคิดถึงจึงถามหา
คนอยู่ไกลเหงาบ้างไหมใจถามมา
รู้ไหมว่าคนอยู่หลังยังเฝ้าคอย
เหนื่อยไหมหนอท้อบ้างไหมในวันนี้
ขอคนดีอย่าเหงาหรือเศร้าสร้อย
คิดถึงน้องบ้างนะพี่น้องนี้คอย
ใจละห้อยคอยมองทางอย่างตั้งใจ
ยังจดจำคำสั่งเมื่อครั้งจาก
ว่ารักมากรักจริงแท้แต่หวั่นไหว
คิดถึงก็ส่งเสียงมาหาเร็วไว
จำเบอร์ได้ใช่ไหมพี่ที่เคยโทร
ภาพเก่าเก่าหมองหมองเพราะน้องจับ
หลายครั้งกลับหลังอ่านนานอักโข
จนภาพหมองเพราะมือนี้มีคำโต
ที่เขียนโชว์ไว้ข้างหลังน้องยังจำ
ข้างหลังภาพเขียนว่า รักสลักจิต
แม่มิ่งมิตรคนดีที่งามขำ
จารรอยรักด้วยหมึกจารึกคำ
ให้น้องจำคำว่ารัก เขียนจากใจ
๕ กรกฎาคม ๒๕๕๐