21 กันยายน 2554 22:48 น.

แมลงราตรี

ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน

๏ดอกราตรี เบิกบาน บนลานกว้าง
ที่เว้งว้าง ท่ามกลาง สายลมฝน
ดอกราตรี ส่งกลิ่น หอมกมล
พาให้เห็น หน้ามล ในราตรี

๏ดอกราตรี มีมนต์ขลัง อยู่ที่กลิ่น
เหมือนใจคน มีกลิ่นย่อม สิ้นศรี
ใช้ชีวิต ท่ามกลาง มนต์ราตรี
ให้ชีวี มีสุข ทุกข์ประดัง

๏ในราตรี นี้มี ความแสนเศร้า
มันมีเงา แมลงแฝง ความหวัง
ในกรุงเทพ เมืองใหญ่ มาประดัง
แมลงหวัง รายได้ ในราตรี

๏จะยืนสู้ ท้าลม ต้องลมฝน
ใจสู้ทน หาราย ได้เพื่อศักดิ์ศรี
มาหล่อเลี้ยง ชีวิต ที่แสนดี
ให้เกิดมี ตามกิเลส หนอใจคน๏

..ครูทิพย์วลี กวีมีรัก..
๒๙/๖/๑๑				
21 กันยายน 2554 22:43 น.

เสียงขลุ่ยเรียกนาง

ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน

๐ แว่วเสียงขลุ่ย  ขับขาน กังวานก้อง
ฤทัยต้อง ล่องลอย คอยความฝัน
เสียงขลุ่ยหวาน เคียงคู่ สู้เงาจันทร์
ฟังเสียงนั้น ไพเราะ เสนาะทรวง

๐แว่วเสียงขลุ่ย บรรเลง เพลงอ่อนหวาน
คือตำนาน ขลุ่ยครวญ ให้ลุ่มหลง
เสียงขลุ่ยผิว ล่องลอย ชวนภิรมย์
สุขเสพสม เพลงหวาน ตำนานไพร

๐ฟังเสียงขลุ่ย ไพเราะ เสนาะจิต
ตามนิมิตร คามรม พรหมอักษร
ฟังเสียงขลุ่ย นึกถึง หน้าบังอร
ชวนสังวร ร่วมจิต คิดถึงนาง

๐ฟังเสียงขลุ่ย ครวญลม คารมรัก
ฤทัยพัก ล่องลอย คอยจุดหมาย
สื่อความรัก มาล้น คำทำนาย
คือความหมาย บรรเลง เพลงเรียกนางฯ

๐ยินเสียงขลุ่ย หวานหวิว แผ่วหวิวหวาน
กล่อมดวงมาน หวนไห้ ชวนไห้หวน 
ยินเสียงขลุ่ย ครวญคิด ใจคิดครวญ
เสียงขลุ่ยทวน ลาจากแล้ว แก้วจากลาฯ				
21 กันยายน 2554 22:40 น.

ไอฝน ปนน้ำตา

ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน

๐มองท้องฟ้า คราดึก พิรุณสาด
หทัยมาศ ล่องลอย ตามไอฝน
มาชะล้าง ความโศก ชราดล
อุ่นไอฝน ปนหวาน สะท้านทรวง

๐มองฟ้าแลบ แสบโศก เศร้าสุขสันต์
ฤทัยทัน ล่วงหล่น กลางเวหา
มองฟ้าแลบ แสบโศก ถึงลูกตา
เหม่อมองฟ้า คราใด คิดถึงนวล

๐พิรุณหยด หยาดฟ้า ครายามดึก
ฤทัยนึก ถึงอนงค์ คงสงสัย
เพลานี้ อนงค์ ไปกลับใคร
ดวงฤทัย ข้าตรม สุดฤดี

๐พิรุณหยด หยาดฟ้า น้ำตาไหล
ดวงฤทัย เศร้าโศก ตรมหนักหนา
มองพิรุณ หยดลง ใต้หลังคา
ฤทัยข้า หวลคิด ถึงแต่นาง

๐หอมไอดิน กลิ่นฝน ละล่องลิ่ว
ฤหัยปลิว ล่องลอย คลอยความฝัน
นั่งหลับตา มองฟ้า แลดวงจันทร์
หอมกลิ่นฝัน ไอฝน ปนน้ำตาฯ				
11 สิงหาคม 2554 22:50 น.

กลอนบูชาพระคุณแม่

ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน

...กลอนบูชาพระคุณแม่..
*เนื่องวันแม่ที่สิบสองเดือนสิงหา
ชาวประชานึกถึงแม่กันอีกหน
แม่ของท่านแม่ของฉันแม่ทุกคน
แม่ปวงชนคือแม่ของแผ่นดิน

*เทิดพระเกียรติขอจงทรงเกษมสุข
นิราศทุกข์จากโภยภัยไกลเศร้าหมอง
ปราศโรคร้ายเกษมศาสน์กายดั่งทอง
ผิวผุดผ่องละอองเนียนเทียมดวงจันทร์

*วันของแม่นี้ดีประเสริฐยิ่ง
ย้ำความจริงพระคุณแม่แผ่ไพศาล
เป็นแม่พิมพ์ที่ดีครูอาจารย์
เป็นแบบอย่างแก่ลูกปลูกคุณธรรม

*พระคุณแม่ล้นฟ้ามหาสมุทร
บริสุทธิ์เกินกว่าคำปราศรัย
ลูกควรคิดถึงพระคุณแม่ร่ำไป
ควรบวชให้พระคุณแม่ทดแทนคุณ

*พระคุณแม่เป็นหนึ่งไม่เป็นสอง
เพราะแม่ต้องเลี้ยงดูลูกสู่จุดหมาย
เลี้ยงลูกโตขึ้นมาแม้เสี่ยงตาย
แม่ก็หมายให้ลูกตนเป็นคนดี

*พระคุณแม่ยิ่งใหญ่นักเป็นผู้ให้
สุดหัวใจของท่านนั้นแสนห่วง
ลูกหนึ่งคนคือหัวใจแม่หนึ่งดวง
แม่จึงห่วงอยากให้ลูกตนได้ดี

*แต่ว่าลูกบางคนก็สิ้นคิด
แม้ลูกผิดแม่อภัยให้เสมอ
ลูกไม่เคยนึกถึงอกแม่ของเธอ
บางคนเผลอตีด่าแม่ของตน

*แม่เป็นคนเช่นไรก็คือแม่
ผู้ให้แท้ให้ชีวิตอย่าผลักไส
ให้อุ้มชูให้เลือดเนื้อให้ทั้งใจ
ให้เลี้ยงดูเจริญวัยสุขสมบูรณ์

*แต่ว่าลูกบางคนมาลืมแม่
ช่างบาปแท้โธ่ลูกรักลูกอยู่ไหน
แม่คิดถึงแต่ลูกจนร่ำไห้
ลูกไปไหนทำไมไม่กลับมา

*แม่เป็นห่วงแต่ลูกตั้งแต่เกิด
ให้กำเนิดลูกน้อยคอยเฝ้าขวัญ
คอยให้นมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงทุกวัน
ความผูกพันธ์นั้นสายเลือดทิ้งไม่ลง

*คลอดหนึ่งครั้งเสี่ยงหนึ่งครั้งอาจตายได้
จะเป็นชายหรือลูกสาวแม่ถนอม
ไม่ให้ยุงเหลือบไรริ้นได้ไต่ตอม
แม่จะหอมที่ฝ่าเท้าอย่างเอ็นดู

*คิดดูเถิดท่านหญิงชายผู้เป็นลูก
ถ้าจะปลูกสร้างกรรมดีบุญกุศล
รีบตอบแทนพระคุณแม่แต่เบื้องต้น
บุญกุศลกตัญญูรู้ฟ้าดิน

*เมื่อเริ่มเกิดความตายเริ่มใกล้ถึง
อย่าโกรธขึ้นรีบตอบแทนคุณใหญ่หลวง
คุณอื่นใดที่ว่าดีคุณทั้งปวง
คุณใหญ่หลวงเบื้องต้นคุณแม่เรา

*ไม่มีแม่เราเกิดจะได้ไหม
เกิดกอไผ่ไม่ได้อย่าไปหวัง
รีบตอบแทนบุณคุณท่านก่อนกลายพันธุ์
อย่ามานั่งเศร้าโศกาเวลาตาย

*คำว่าแม่คำเดียวความหมายกว้าง
คือผู้สร้างให้กำเนิดสิ่งทั้งหลาย
แม่ของคำพระพุทธองค์ดำรงกาย
จุดมุ่งหมายแสดงธรรมนำโลกา

*อรหันต์ของลูกคือพ่อแม่
จะต้องแก้ที่เหตุจึงเป็นผล
เริ่มที่แม่แก้ที่พ่อก่อที่ตน
จึงเป็นผลแก่งกรรมตามกฏเกณฑ์

*เพราะฉะนั้นจะเป็นแม่หรือเป็นลูก
ล้วนพันผูกกันมาหลายสมัย
เป็นแม่ดีเป็นลูกดีศรีวิไล
แม่พิมพ์ไทยคือครูคู่คุณธรรม

*ลูกควรบวชทดแทนคุณพระคุณแม่
เด็กหนุ่มแก่บวชได้ประเสริฐศรี
หากกรรมใดกรรมทางกายใจวจี
ที่ลูกนี้พลาดไปกรอบขอขมา

*อันคำใดไม่ซึ้งถึงคำแม่
ศักดิ์สิทธิ์แท้แม่นี้มีมนต์ขลัง
แม่สูงส่งด้วยศักดิ์ศรีมีพลัง
ให้ความหวังกำลังใจไม่จืดจาง

*ยามลูกเจ็บแม่ช่วยจับไข้กลับหาย
ลูกฟูมฟายแม่เฝ้าคอยปลอบขวัญ
ลูกมีทุกข์แม่บรรเทาดวงชีวัน
แม่ของฉันทำเพื่อลูกทุกสิ่งอัน

*ยามลูกขืนแม่ขมตรมหลายเท่า
ยามลูกเศร้าแม่โศกวิโยคกว่า
ยามลูกไปแม่ห่วงดังดวงตา
ยามลูกมาแม่ลดหมดห่วงใย

*ยามมีกิจหวังพึ่งเจ้าเฝ้ารับใช้
ยามป่วยไข้หวังให้เจ้าเฝ้ารักษา
ยามถึงคราวล่วงลับดับชีวา
หวังให้เจ้าปิดตาเวลาตาย

*แม่คือผู้ที่ให้ทั้งชีวิต
แม่คือมิตรแท้ถาวรกว่าเพื่อนฉัน
แม่คือครูผู้สอนคุณอนันต์
แม่ของฉันผู้อาทรและเที่ยงธรรม

*แม่คือผู้เสียสละให้เพื่อลูก
แม่ผู้ปลูกคุณธรรมนำวิถี
เปรียบดั่งพระผู้เลิศล้ำนำลูกดี
แม่แสนดีคือผู้ให้อารยธรรม

*วันของแม่นี้ดีประเสริฐยิ่ง
ย้ำความจริงพระคุณแม่แผ่ไพศาล
จงเป็นแม่ของลูกเป็นอาจารย์
ลูกอย่ผลาญสมบัติวงศ์ตระกูล

*เตือนวัยรุ่นอย่าคิดริเแนแม่
เดียวจะแย่อย่าชิงสุกจะเป็นผล
ท้องก่อนแต่งคิดทำแท้งทำลายตน
ต้องรับผลคือนรกชดใช้กรรม

*คำว่าแม่มีมากมายหลายคุณค่า
จงเมตตากันเถิดประเสริฐศรี
ทำแต่บุญสร้างกุศลทำกรรมดี
เป็นแม่ที่แสนดีของลูกเอยฯ				
29 มีนาคม 2554 16:13 น.

กลอนบ้า คู่คนบ้า

ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน

กลอนบ้า คู่คนบ้า

ครูทิพย์วลี ประพันธ์ 

..แต่งกลอนจีบสาวมามากมาย
แต่ไม่มีใครสนใจผมเลยหนอ
นั่งแต่งกลอนบวกกับการรอ
หลายคนพ้อต่อว่า ผมบ้ากลอน

..ช่วงนี้ขอแต่งกลอนแบบบ้า บ้า
ใครจะว่าช่างเขาเราไม่สน
เพราะเราบ้า เขาไม่บ้า ใครกังวน
ถ้าไปสน เขาก็บ้า พอกับเรา

..ใครรู้ตัวว่าบ้า ช่วยต่อหน่อย
แล้วค่อยไปโรงบาลให้มันหาย
หายจากโรคคนบ้าแล้วก็ตาย
ตายไปจากคนบ้าชื่อทิพย์วลี

..คนบ้าทำอะไรก็ไม่ผิด
ถึงจะผิดก็คนบ้าใช่ไหมหนอ
บ้าทั้งรัก ทั้งชอบก็ควรพอ
แค่นี้หนอคนบ้าที่ซ้ำใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
Lovings  ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
Lovings  ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
Lovings  ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน