5 กุมภาพันธ์ 2554 11:35 น.
ครูกระดาษทราย
อรุณสวัสดิ์วันเสาร์
มาหยอกเย้าเล่นจ๊ะเอ๋
ทิวากรเกเร
เหินหักเหหลบพุ่มเฌอ
เจ้าดอกทานตะวัน
รอแสงนั้นส่องเสมอ
จนกว่าจะพบเธอ
ทาบทอมาตั้งตาชม
สาดสายพรายเพริศแพร้ว
ดุจดวงแก้วประโลมฉม
พฤกษาพาภิรมย์
บุษบงคงเช่นกัน
เฉกแสงแห่งดวงจิต
ทออุทิศคิดสร้างสรรค์
ล้ำค่าปานตะวัน
อันอบอุ่นกรุ่นอุรา
จักเป็นเช่นพลัง
ต่อเติมหวังทั่วทิศา
เสกแสงแห่งปัญญา
แด่บรรดาดรุณเรียน
จุดไฟจนเจิดจ้า
ประกายกล้า คิด อ่าน เขียน
บากบั่นหมั่นพากเพียร
ก่อเกิดกิจกอปรกรรมดี
นำไทยให้เรืองโรจน์
เจริญโชติทั่ววิถี
สุขถ้วนธรณี
ชาตินานาพานิยม
แม้เป็นเช่นความฝัน
รพีพรรณอันสดใส
เมื่อมอดมืดมิดไป
รุ่งวันใหม่ไป่หมองมล
31 มกราคม 2554 22:46 น.
ครูกระดาษทราย
เกิดมาเป็นคุณหมอก็หอบหิ้ว
เดินทอดน่องหรือตัวปลิวเสียที่ไหน
ภารกิจเย็นค่ำดำเนินไป
มีถุงผ้าอีกใบข้างซ้ายมือ
จะจับจ่ายผักปลาภักษาหาร
เมื่อถึงบ้านหุงหาน่านับถือ
ทำกับข้าวเก่งกาจวาดฝีมือ
แต่ละมื้อรสอร่อยใช่ด้อยใด
กระเป๋าผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ช่างเพียบพร้อมสะดุดจิตพิสมัย
ยังหยอกเย้าเป๋าโดเรม่อนหรือไร
หมอแก้มใสยิ้มรับคำแจ้วจำนรรจ์
เราเรียกเธอย่อย่อว่าหมอภัส
เก่งชะมัดงานต่างต่างช่างขยัน
รอรักษาคนไข้ในห้องฟัน
เรียนจบทันต์มหิดลเป็นคนดี
ยังเยือกเย็นเป็นเยี่ยมเปี่ยมจิตด้วย
เอื้ออำนวยเยียวยาพาสุขี
ยังตราตรึงคะนึงหาทุกนาที
ในยามที่แปรงฟันเช้ายันเย็น
เหตุที่มิมีภาพถ่ายด้านหน้า
หมอบอกว่านอนฝันร้ายถ้าได้เห็น
แค่ข้างหลังยังพอไหวไม่ลำเค็ญ
ด้วยเธอเป็นคนน่ารักมักถ่อมตัว
30 พฤศจิกายน 2553 07:50 น.
ครูกระดาษทราย
ยามเช้าวันอังคารสีชมพู
ทานโจ๊กหมูชามหนึ่งซึ่งร้อนจี๋
โรยพริกไทยใส่ขิงพร้อมหอมผักชี
เหยาะแม็กกี้นิดหน่อยอร่อยนาน
ตามด้วยนมโฟร์โมสต์แคลซีเม็กซ์
กล่องเล็กเล็กมากคุณค่าสารอาหาร
กลับขึ้นห้องพักครูเพื่อดูงาน
ตรวจการบ้านกองใหญ่ให้นักเรียน
30 ตุลาคม 2553 14:27 น.
ครูกระดาษทราย
ยายอบจบปอสี่
หลักแหล่งที่ภาคอีสาน
แดนดินถิ่นกันดาร
แต่ชาวบ้านมีน้ำใจ
ยายอบมีฝีมือ
อาชีพคือทอผ้าไหม
ปลูกหม่อนแล้วเก็บใบ
เลี้ยงหนอนให้มันเติบโต
ยายอบแกเป็นหม้าย
สามีตายหลายปีโข
อยู่กับหลานตัวโต
ชื่อนีโน่เป็นเด็กดี
ยายอบแกทอผ้า
ผลิตมาหลายหลากสี
ผ้าไหมผ้าฝ้ายมี
ผ้ามัดหมี่ที่เลื่องลือ
ยายอบรู้รักษา
ศิลปาน่านับถือ
ชิ้นงานการฝีมือ
บ่งบอกคือความเป็นไทย