8 มิถุนายน 2551 17:35 น.
ครูกระดาษทราย
ฉันมองไปไกลสุดตาอีกท่าฝั่ง
คุณครูยังแจวเรือถ่อไม่ท้อถอย
กาลเวลาผ่านไปนานไม่น้อย
ศิษย์ยังคอยครูส่งตรงฝั่งชล
คุณครูขาเหนื่อยไหมในวันนี้
ฟ้าเปลี่ยนสีความหม่นหมองของเมฆฝน
เข้าคุกคามตามศิษย์มิดมืดมน
ศิษย์รอคนนำทางสว่างมา
ด้วยสังคมปัจจุบันมันไม่ไหว
มีกลิ่นไอเน่าเหม็นเป็นสุขา
เศรษฐกิจฝืดเคืองเรื่องเงินตรา
ทั้งราคาข้าวของจ้องจะแพง
ทั้งการเมืองเรื่องร้อนไม่ผ่อนผัน
ต่างประจัญโจมจู่ดูกำแหง
ศิษย์อึดอัดขัดใจไหวระแวง
ถูกทิ่มแทงตอกย้ำต่ำราคา
คุณครูขาอย่าล้าหนีหน้าหาย
ศิษย์คงตายถ้าไร้ครูรู้ไหมหนา
เมื่อเติบใหญ่ศิษย์นี้มีวิชา
จะใช้แต่ปัญญาพาชาติเจริญ
6 มิถุนายน 2551 15:58 น.
ครูกระดาษทราย
ถ้าไม่พ่อหลวงของปวงราษฎร์
คงไม่มีชีวาตอันสดใส
ถ้าไม่มีประชาธิปไตย
คงไม่มีความเป็นไทในชีวี
ถ้าไม่มีพ่อแม่แต่วันนั้น
คงจะไม่มีฉัน ณ วันนี้
ถ้าไม่มีคุณครูผู้ปรานี
คงไม่มีความรู้เป็นครูคน
ถ้าไม่มีพี่น้องผองเพื่อนด้วย
คงไม่มีใครช่วยยามสับสน
ถ้าไม่มีศีลธรรมนำกมล
คงไม่มีที่หลุดพ้นทนทุกข์ไป
ถ้าไม่มีสุนทรภู่ครูอักษร
คงไม่มีกานท์กลอนอ่อนหวานไหว
ถ้าไม่มี Thaipoem เติมเต็มใจ
คงจะไม่มีที่จารงานกาพย์กลอน
6 มิถุนายน 2551 07:43 น.
ครูกระดาษทราย
ฉันเกิดในบ้านสวนจวนตีห้า
แม่บอกว่าจะตื่นมานึ่งข้าวเหนียว
ทำหน้ากุ้งเป็นของหวานน่าทานเชียว
อีกประเดี๋ยวพระจะมามิช้าพลัน
ฉันก็ดิ้นผินผันหันหัวกลับ
แม่เจ็บจับจนจวนเจียนอาสัญ
ยี่สิบหกมีนาลืมตาพลัน
ก่อชีวันตีห้านี้ปีระกา
ยามยลหน้าลูกน้อยกลอยสวาท
ความเจ็บปวดแม่หายขาดแล้วแม่จ๋า
เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา
การศึกษามารยาทงามพร่ำอบรม
กราบบูชาพระคุณแม่ของฉัน
ทุกคืนวันลูกนี้มีสุขสม
แม่ไม่เคยให้เราเศร้าตรอมตรม
กรประณมก้มวันทามารดาเอย