3 กรกฎาคม 2551 15:26 น.
ครูกระดาษทราย
ฝนตกจากฟากฟ้า
โลมพื้นหล้าให้สดใส
โลกสวยงามวิไล
มวลดอกไม้ได้ชื่นชล
ฝนตกระรินมา
หมู่พฤกษาทุกแห่งหน
ชื่นฉ่ำธราดล
ฝนบันดาลสานสุขเอย
16 มิถุนายน 2551 07:30 น.
ครูกระดาษทราย
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนแปรผัน
ดังชีวิตคนเรานั้นอาจผันผวน
ชั่วแล้วดีมีเจ็ดครั้งยังใคร่ครวญ
ทุกสิ่งล้วนอนิจจังสังขารใคร
อาทิตย์ดับลับทิวไม้ที่ชายป่า
จึ่งจันทราแจ่มกระจ่างสว่างใส
วันนั้นสุขวันนี้เศร้าคละเคล้าไป
หมุนเวียนไปเช่นนี้ตราบนิรันดร์
15 มิถุนายน 2551 16:29 น.
ครูกระดาษทราย
เก็บตำนานบ้านอียิปต์หยิบมาเล่า
เทพเจ้าสุริยะแทบอาสัญ
เพราะมังกรอาโปซิสคิดโรมรัน
จะห้ำหั่นกลืนกินพระสุรีย์
สุริยเทพองนี้มีนามว่า
เทพเจ้าราสง่าสูงทรงศักดิ์ศรี
ท่านให้แสงสว่างค่าประชาชี
ทำหน้าที่ตั้งแต่เช้าเอาจรดเย็น
โดยทรงเรือสุริยันราชพาหนะ
ตรวจทุกขะสุขปวงชนดลให้เห็น
สิบสองชั่วโมงยามอย่างจำเป็น
ดับลำเค็ญประชาสุขทิกทิวา
ส่วนมังกรอาโปซิสนั้นฤทธิ์ร้าย
แอบแฝงกายใต้เส้นขอบรอบซ้ายขวา
จ้องรอคอยเรือสุริยันพลันเคลื่อนมา
ก็ต่อสู้หมายจะฆ่าจึงกลืนกิน
แต่มีเทพอารักขามาช่วยไว้
จึงปล่อยสุริยันไปไม่ถวิล
แต่คอยซุ่มอยู่อย่างนี้ชั่วชีวิน
บางวันดิ้นขึ้นมาฟ้าคะนอง
บางวันก็ก่อให้เกิดแผ่นดินไหว
ต่อสู้กันตลอดไปใจ้หม่นหมอง
วันไหนมันหลับไหลไม่มามอง
ฟ้าสีทองผ่องอำไพฉายแสงมา
14 มิถุนายน 2551 16:27 น.
ครูกระดาษทราย
ฉันมองไปปลายฟ้านภากว้าง
ไม่อ้างว้างมีเดือนดาวเคล้าคลอฝัน
ยลดาราพราวพร่างข้างแสงจันทร์
บ้างก็พรากจากกันพลันตกมา
อยากจะเก็บดาวดวงที่ล่วงหล่น
มาฝากคนแสนไกลใจห่วงหา
แล้วเรียงร้อยสร้อยดาวสาวจันทรา
มาคล้องกัณฐ์ขวัญชีวาประดับกาย
เก็บเกล็ดดาวพราวระยับประทับจิต
แบ่งมวลมิตรเคียงข้างดังจิตหมาย
ทำหัวแหวนแสนงามวามวับพราย
ต่างไมตรีมิเสื่อมคลายมอบให้กัน