27 กุมภาพันธ์ 2554 13:46 น.
คนเดียวกัน
...ก็พอรู้ความเป็นไปในทุกสิ่ง
โลกความจริงห่างไกลเกินใจฝัน
อยากจะมีมิ่งมิตรจิตสัมพันธ์
เฝ้าเสกสรรค์กลอนกาพย์ซาบซึ้งใจ
ก็พอรู้ความเป็นไปในวันหนึ่ง
คงหมดซึ่งวาจาพาสดใส
อาจเป็นกลอนเบลอเบลอละเมอไป
เขาคือใครไม่รู้ดูชอบกล
เขาว่าเขาไม่ดีชีวีเศร้า
โรครุมเร้าหนักหนาน่าฉงน
ก็อยากช่วยให้หายคลายกังวล
แม้ถูกคนเขาว่าเราบ้าหรือไง
คนใกล้ชิดเขาเตือนเพื่อนก็บอก
จะช้ำชอกดวงจิตคิดไฉน
วันวันนั่งเขียนกลอนถอดถอนใจ
ชีวิตให้เวิ่นเว้อเสมอมา
หากจะเขียนกลอนมาไม่น่ารัก
เพราะใจหนักตอนนี้มีปัญหา
มันค่อนข้างสับสนจนปัญญา
โปรดเข้าใจเถิดหนาอย่าว่าไม่แฟร์
19 กุมภาพันธ์ 2554 16:14 น.
คนเดียวกัน
...เฝ้าเรียงร้อยถ้อยถ้วนสำนวนรัก
จะอีกสักกี่บทไม่ทดท้อ
เพียงเพื่อน้องนงเยาว์ที่เฝ้ารอ
จะมาต่อสัมพันธ์กระสันจินต์
เฝ้าขีดเขียนถ้อยคำลำนำจิต
เนรมิตบทกลอนอาวรณ์ถวิล
ส่งไปตามเวปไซด์ให้ยลยิน
หลายหลายชิ้นเผื่อเธอจะเผลอใจ
ดั่งน้ำหยดลงหินไม่สิ้นขาด
ก็ยังอาจกร่อนหินจนบิ่นได้
หากยังมีคอมฯอยู่เคียงคู่กาย
จะขอร่ายบทกลอนมาอ้อนจันทร์
มือมันไปตามจิตที่คิดถึง
อักษรหนึ่งกดไปด้วยใฝ่ฝัน
ส่งบทกลอนลงบอร์ดพรอดรำพัน
หวังจะมีสักวันฝันเป็นจริง
14 กุมภาพันธ์ 2554 00:10 น.
คนเดียวกัน
เหมือนเดือนลับดาวล่วงสิ้นดวงขวัญ
สุดวิโยคโศกศัลย์รำพันหา
เมื่อไม่มีนุชน้องหมองอุรา
หลั่งน้ำตารินหยดสลดใจ
พี่ระทมตรมไหม้เพราะไกลน้อง
ให้หม่นหมองมองฟ้าน้ำตาไหล
ไม่มีแม้เดือนดาวร้าวทรวงใน
หนาวอะไรจะเหมือนไร้เพื่อนนอน
อยากจะเขียนกลอนหวานสักล้านครั้ง
ถึงร้อยชั่งเรื่อยไปไม่ถ่ายถอน
เผื่อวันหนึ่งน้องนางที่ร้างจร
จะกลับย้อนคืนหวนไม่รวนเร
เหมือนเดือนลับดาวร่วงสิ้นดวงแก้ว
พี่ไม่แคล้วอาลัยฤทัยเขว
คณานับสับสนและปนเป
ให้ว้าเหว่อ้างว้างทุกทางตัน
9 กุมภาพันธ์ 2554 16:29 น.
คนเดียวกัน
...เมื่อความเหงาก่อตัวจับขั้วจิต
ให้ชีวิตชีวาระอาโหย
เหม่อมองจันทร์แหว่งเว้าก็เฉาโรย
เย็นลมโชยพัดพราวสุดหนาวใจ
ฟังเพลงเหงาไม่มีวันที่หยุด
ก็สะดุดดวงจิตคิดไฉน
ถึงจะเหงาอ้างว้างจะอย่างไร
ก็ยังมีบางใครเหมือนใจเรา
มาช่วยเหงาด้วยกันให้มันรู้
ให้มันอยู่กันได้ไม่อายเขา
เหงากับเหงารวมกันจะบรรเทา
จะคลายเหงาด้วยเหงาที่เข้าใจ
จึงฟังเพลง"อยู่คนเดียว"ไม่เปลี่ยวเหงา
คิดถึงเขาคนหนึ่งไปถึงไหน
คงจะรักอยู่ห่างห่างอย่างนี้ไป
ก็สุขล้ำเกินใครแล้วใจเอย
5 กุมภาพันธ์ 2554 22:59 น.
คนเดียวกัน
....แม้เป็นเพียงกลอนตลกที่ตกหล่น
เรี่ยรายบนหนทางระหว่างฝัน
หลายบทบาทร่ายลีลาสารพัน
คนเดียวกันเขียนไปอย่างไม่แคร์
ด้วยบทกลอนมากมีที่เก็บไว้
ค่อยทยอยส่งไปไม่แยแส
คนเดียวกันมั่นใจไม่เปลี่ยนแปร
ส่งมาแต่ไทยโพเอ็มอย่างเต็มใจ
ผมรักบ้านกลอนไทยไม่กลิ้งกลอก
จึงขอบอกผมนั้นไม่หวั่นไหว
หากบ้านกลอนยังอยู่คู่คนไทย
จะเขียนไปที่นี่เพียงที่เดียว
ผมจะยึดที่นี่เป็นที่มั่น
ส่วนใครนั้นตามใจผมไม่เกี่ยว
ที่อื่นอย่าได้หวังแม้ครั้งเดียว
กลอนเหี่ยวเหี่ยวของผมจะหลงไป