18 สิงหาคม 2553 16:35 น.
คนเดียวกัน
...เพราะในฝันนั้นมีคนดีอยู่
พี่จึงสู้ลืมตาไม่กล้าฝัน
แม้นหลับลงครั้งใดใจรำพัน
ตื่นมารู้เพียงฝันมันทรมาน
ยิ่งฝันว่าได้กอดแม่ยอดรัก
จุมพิตพักตร์พวงแก้มที่แย้มหวาน
พอตื่นมาความฝันอันตรธาน
เหลือร้าวรานรุ่มร้อนรอนฤดี
ด้วยรู้อยู่ว่าฝันก็คือฝัน
ยิ่งรำพันถึงน้องยิ่งหมองศรี
เจ้ามิเคยเห็นใจในไมตรี
สุดที่พี่จะคว้ามาครอบครอง
ทั้งยังมีมากชายที่หมายลุ้น
เจ้าประคุณล้วนดีไม่มีหมอง
ผลัดมาเฝ้าเช้าเย็นเป็นทำนอง
เจ้าคงมองพี่เป็นเช่นกรวดดิน
ไม่อยากเห็นโฉมตรูอยู่ในฝัน
เมื่อตื่นพลันหายไปใจถวิล
ทุกวันนี้ฝันทำสุดช้ำจินต์
แทบแดดิ้นดุจด้วยดั่งม้วยมรณ์
15 สิงหาคม 2553 20:47 น.
คนเดียวกัน
...ก้าวไปตาม ความฝัน วันละนิด
เพราะชีวิต สารพัน มากปัญหา
เกิดมาจาก ความจน สู้ทนมา
พัฒนา ชีวิต ความคิดไกล
อาจจะเหมือน เลือนราง ในทางเดิน
ระหกระเหิน หนทาง ไม่สดใส
แต่ไม่เคย คิดท้อ สู้ต่อไป
ด้วยหัวใจ มั่นคง ทะนงตัว
ไม่รอโชค ชะตา ฟ้าลิขิต
จะถูกผิด ทิศทาง ก็ช่างหัว
มีเป้าหมาย มั่นคง ที่ลงตัว
คิดว่าชัวร์ ต้องไป ให้สุดทาง
ก้าวไปตาม ความฝัน วันละหน่อย
แล้วค่อยค่อย ต่อเติม เพิ่มความหวัง
ความคิดเห็น มากมี ยินดีฟัง
แต่ก็ยัง เชื่อมั่น ความฝันเดิม
13 สิงหาคม 2553 21:27 น.
คนเดียวกัน
....ด้วยสำนวนที่ใช้มันไม่พลิ้ว
อาจทำให้เธอฉิวกริ้วเสมอ
ด้วยถ้อยคำที่ใช้ไม่เลิศเลอ
ดูเซ่อๆเสี่ยวๆพาเหี่ยวใจ
อยากจะหาถ้อยคำมาพร่ำพรอด
มาอ้อนออดเนื้อนวลชวนสดใส
อยากจะบอกยอดชู้ให้รู้ใจ
กลัวจะไม่ลึกซึ้งถึงใจจินต์
แล้วจดจำคำหวานเคยผ่านหู
มาชื่นชูดวงแดแม่โฉมฉิน
แต่เธอคงฟังมาจนชาชิน
รู้ว่าลิ้นชายนั้นน่าหวั่นกลัว
แต่ด้วยความจริงใจบอกให้ทราบ
สารภาพตามตรงคงไม่หัว
ขอบอกว่าIlove youให้รู้ตัว
จะดีชั่วสุดแท้แต่ใจเธอ
9 สิงหาคม 2553 07:16 น.
คนเดียวกัน
...ผมเป็นชาว บางลี่ สองพี่น้อง
ดินแดนทอง สุพรรณ นั่นแหละหนา
จบจากโรง เรียนบางลี่ วิทยา
แล้วศึกษา ต่อไป ในเมืองกรุง
ตอนเด็กเด็ก ย้ายโรงเรียน มาหลายครั้ง
มีความหวัง ตั้งใจ ที่ใฝ่มุ่ง
อยากจะเป็น หลายอย่าง ให้นังนุง
แต่ไม่รุ่ง ซักอย่าง ดั่งตั้งใจ
ค้นตัวเอง ไม่พบ จบมอต้น
ยังสับสน จะเอาดี ที่ทางไหน
ก็เรียนดี หลายวิชา จะว่าไป
แต่ก็ไม่ ใช่ตัวเต็ง เจ๋งสุดเลย
ครูแนะนำ หนังสือ มาเรื่องหนึ่ง
อ่านแล้วซึ้ง ตรึงใจ ไม่อยู่เฉย
จึงเริ่มชอบ ภาษา กว่าที่เคย
ขอเฉลย เรื่องนั้น วันถัดไป
...หนังสือดี ที่ได้ ให้อ่านนั้น
ชื่อเจ้าจันทน์ ผมหอมฯ ยอมแจ้งไข
ด้วยสำนวน ภาษา น่าสนใจ
ได้รางวัล ซีไรต์ ใจนิยม
จากนั้นมา ภาษาไทย เริ่มใช้ได้
สอบทีไร ใกล้ท้อป ชอบครับผม
เกรดมอปลาย สองกว่ากว่า น่าชื่นชม(ตรงไหน)
มิปรารมภ์ เพียงได้ จบเป็นพอ
แล้วศึกษา ต่อไป ดั่งใจคิด
เป็นบัณฑิต ได้แน่ พ่อแม่ขอ
ไปเรียนครู ท่าจะดี ไม่รีรอ
ความรู้ก็ เหมาะสม เท่าผมมี
จะสอบติด ที่ไหน ยังได้ลุ้น
แล้วแต่บุญ กรรมสร้าง ทางวิถี
สุดท้ายได้ เรียนต่อ ที่ม.ดี
วันพรุ่งนี้ จึงจะเอ่ย เผยที่เรียน
...ม ศ ว มอนี้ ที่เหมาะสม
ได้อบรม ผมให้ ได้อ่านเขียน
ก ศบ. บัณฑิต ได้คิดเรียน
มุ่งพากเพียร สาขา ภาษาไทย
อยู่มหา วิทยาลัย ดั่งใจฝัน
ชีวิตนั้น งามงด ช่างสดใส
ความทรงจำ ต่างต่าง ยังฝังใจ
หล่อหลอมให้ เป็นผม โดยสมบูรณ์(หรือเปล่า)
มีความรู้ พอตัว ไม่กลัวยาก
ไม่ลำบาก หากิน จนสิ้นสูญ
จะได้มี งานทำ เริ่มจำรูญ
เร่งเพิ่มพูน ศึกษา วิชาการ
เรียนจบมา จนได้ ในที่สุด
เปรียบประดุจ นักปราชญ์ ผู้อาจหาญ
หวังช่วยชาติ เรื่องรุ่ง มุ่งหางาน
จะเล่าขาน งานนั้น วันต่อไป
ผมเริ่มเป็น ทหาร ในงานแรก
ก็มิแปลก หัวใจ คุณใช่ไหม
ตามกำหนด กฎหมาย ผู้ชายไทย
ยี่สิบเอ็ด ปีไซร้ ต้องได้เกณฑ์
เมื่อเสร็จสิ้น ชีวินทหารหาญ
ก็หางาน ใหม่ได้ ไม่ยากเข็ญ
มาเป็นครู รับจ้าง อย่างมีเวร
จึงเบี่ยงเบน ความคิด ผิดจากเดิม
หลายอาชีพ ทำได้ ไม่กำหนด
บ้างก็อด บ้างดี มีเข้าเสริม
มีรายได้ เหลือพอ จะต่อเติม
หวังจะเริ่ม สร้างตัว เพราะกลัวจน
งานหลายอย่าง ทำมา สารพัด
แสนสาหัส ชีวิต คิดสับสน
มิได้ดี สักงาน สุดทานทน
แล้วจะบ่น ให้ฟัง วันหลังนะ
เป็นแคสเชียร์ จัดของ ก็ลองผ่าน
แล้วก็ไป ขายบ้าน การเคหะ
ขายประกัน ทำได้ ไม่ลดละ
เล่นดนตรี ด้วยนะ จะว่าไป
ที่ทำมา หลายอย่าง หาทางเลือก
ต้องกระเสือก กระสน สู้ทนไหว
พเนจร ชีวิต ไม่ติดใจ
ความฝันใฝ่ ลางเลือน เหมือนไม่มี
ก็ไม่รู้ หนทาง วันข้างหน้า
โชคชะตา พาไป ไม่หลีกหนี
คิดจะไป เป็นครู สู้ชีวี
ก็เหนื่อยที่ จะเริ่ม จะเติมแรง
ทุกวันนี้ งานที่ทำ ก็ลำบาก
ถึงจะอยาก ปรับเปลี่ยน เพียรแสวง
แต่ไม่รู้ จะอย่างไร ให้คลางแคลง
ขอชี้แจ งต่อไป ในอีกวัน
วันนี้คง ต้องจบ ให้ครบเรื่อง
ไม่ให้เปลื่อง เวลา พาโศกศัลย์
ไม่รบกวน ผู้อ่าน ให้นานวัน
ส่วนผมนั้น ก็ขอ สู้ต่อไป
เพราะว่าทาง ที่เลือกไป ในชีวิต
ไม่ถูกทิศ ถูกทาง สว่างไสว
จึงเขียนกลอน มาระบาย มิอายใคร
นี่แหละไซร้ ชีวิตผม ล้มคลุกคลาน
ผมเขียนกลอน บ่นมา หลายหน้านี้
ดีมิดี อย่างไร ช่วยไขขาน
ขออภัย ไม่ทำ ให้สำราญ
อ่านมานาน หารื่น ชื่นกมล
ก็ขอจบ แค่นี้ เลยดีกว่า
ขอบอกว่า ต้องแจว แล้วกระผม
ขอขอบคุณ น้องพี่ ที่มาชม
จงสุขสม สวัสดี มีโชคกัน (นะจ๊ะ)
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวของกระผมหวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
8 สิงหาคม 2553 10:19 น.
คนเดียวกัน
...เป็นแคสเชียร์ จัดของ ก็ลองผ่าน
แล้วก็ไป ขายบ้าน การเคหะ
ขายประกัน ทำได้ ไม่ลดละ
เล่นดนตรี ด้วยนะ จะว่าไป
ที่ทำมา หลายอย่าง หาทางเลือก
ต้องกระเสือก กระสน สู้ทนไหว
พเนจร ชีวิต ไม่ติดใจ
ความฝันใฝ่ ลางเลือน เหมือนไม่มี
ก็ไม่รู้ หนทาง วันข้างหน้า
โชคชะตา พาไป ไม่หลีกหนี
คิดจะไป เป็นครู สู้ชีวี
ก็เหนื่อยที่ จะเริ่ม จะเติมแรง
ทุกวันนี้ งานที่ทำ ก็ลำบาก
ถึงจะอยาก ปรับเปลี่ยน เพียรแสวง
แต่ไม่รู้ จะอย่างไร ให้คลางแคลง
ขอชี้แจง ต่อไป ในอีกวัน