11 กันยายน 2553 11:41 น.
คนเดียวกัน
...เกิดเป็นคนเดียวกันนั้นลำบาก
ต้องคอยฝากบทกลอนมาอ้อนสาว
จะเหนี่ยวรั้งนางไว้ให้นานยาว
ต้องคอยกล่าวคำหวานเป็นกานท์กลอน
เกิดเป็นคนเดียวกันต้องหมั่นคิด
ปรุงประดิษฐ์คิดคำล้ำอักษร
มาประโลมโฉมตรูคู่อาวรณ์
ห้ามแหน่งหน่ายถ่ายถอนร่ายกลอนกานท์
เกิดเป็นคนเดียวกันทุกวันนี้
หวังจะมีคู่รักสมัครสมาน
จะเหนี่ยวรั้งนางไว้ให้ยาวนาน
ต้องคอยเฝ้าขับขานเป็นกานท์กลอน
เกิดเป็นคนเดียวกันอย่าหวั่นไหว
เร่งเขียนกลอนต่อไปมิถ่ายถอน
ถึงวนเวียนถ้อยคำทำร้าวรอน
สุดจะคิดคำอ้อนในกลอนกานท์
เกิดเป็นคนเดียวกันมันไม่เก่ง
ถึงคร่ำเคร่งคิดกลอนที่อ่อนหวาน
แต่เพราะเราคนเดียวฯไม่เชี่ยวชาญ
จึงยอกย้อนกลอนกานท์กับกานท์กลอน
8 กันยายน 2553 20:53 น.
คนเดียวกัน
...ย้ำหัวใจย้ำแล้วก็ย้ำเล่า
อย่ารักเขาชอบเขาเข้าใจไหม
ดูตัวเองเราเป็นใครเขาเป็นใคร
อย่าหวั่นไหวตามอารมณ์จะตรมตรอม
เปรียบหญิงงามอย่างเธอล้ำเลอค่า
ดั่งบุปผาลาวัลย์อันน่าหอม
ฉันดั่งแมงตัวน้อยมาคอยตอม
เพียงดมดอมกลิ่นกายผ่านสายลม
มิอาจได้ลองลิ้มชิมเกสร
แสนอาวรณ์ไร้คู่มาสู่สม
เฝ้าอิจฉาแมลงใหญ่ได้เชยชม
สุดระทมซมซานรานฤทัย
ย้ำหัวใจย้ำแล้วก็ย้ำอีก
หัวใจฉีกสุดซ้ำทำไฉน
จากที่เคยใฝ่ภักดิ์ต้องหักใจ
ขอลาไกลเสียทีพี่มันจน
7 กันยายน 2553 12:40 น.
คนเดียวกัน
...เพียงอยากจะเผยมนกะน้อง
ละก็ต้องกระอ่วนใจ
ควรหรือจะเอ่ยพจนไป
สิมิใช่จะควรกาล
เขียนเป็นวสันต์ดลกฉันท์
มนมั่นณนงคราญ
ควรหรือมิควรฤจะประจาน
ละก็แล้วก็ตามใจ
แรกพบประสบฤดิสะดุด
ดุจหยุดมโนทัย
พร่ำเพ้อละเมอนะสิปะไร
อุระไหม้ระทมครวญ
จึ่งอยากจะเผยมนกะเจ้า
บ่มิเอามิรบกวน
อย่างน้อยฤดีจะมิกระอ่วน
ผิวได้เฉลยความ
5 กันยายน 2553 19:19 น.
คนเดียวกัน
...อีกกี่วันอีกกี่เดือนอีกกี่ปี
อีกกี่ทีอีกกี่ครั้งอีกกี่หน
อีกกี่ทุกข์อีกกี่ท้ออีกกี่ทน
อีกกี่คนอีกกี่ใครจะได้เจอ
จะได้พบจะได้มีคนปลอบจิต
จะได้ชิดจะได้ใกล้ใจฝันเพ้อ
จะได้จบจะได้หยุดใฝ่ละเมอ
จะได้เจอเธอคนนี้ที่เฝ้ารอ
4 กันยายน 2553 22:54 น.
คนเดียวกัน
...ไหวหวาดวิเวกว้าง............หวั่นไหว
แค้นคลั่งคล้ายคุ้มไข้............ค่นแค้น
ทุกทิศทุกทางไทย...............ถ้วนทุกข์
ไหม้หม่นมิดเหมือนแม้น......มอดไหม้ เมืองแมน