25 กันยายน 2553 08:56 น.
คนเดียวกัน
จะสอยดาวสาวเดือนที่เกลื่อนหาว
มอบน้องสาวเจ้าแซมแจ่มพิสุทธิ์
แม่เพ็ญโสมโฉมยงอนงค์นุช
จงผ่องผุดเพริศพริ้งกว่าหญิงใด
แม้เจ้าอยู่สุดหล้าไกลกว่านี้
แม้วิถีชีวิตลิขิตไฉน
พี่จะขอส่งใจไปถึงใจ
เมื่อวันใดที่เจ้าต้องเศร้าตรม
จงคิดถึงบทกลอนที่อ่อนหวาน
เคยขับขานให้น้องปองสุขสม
เคยขับกล่อมหัวใจคลายระทม
ฝากสายลมผ่านฟ้าดาราเดือน
พี่เป็นเพียงภาพนามในความฝัน
อาจหายไปตามวันที่ผันเคลื่อน
ความทรงจำคงจางและลางเลือน
อาจจะเหมือนสายลมที่ผ่านไป
22 กันยายน 2553 11:10 น.
คนเดียวกัน
...ไม่มีที่ไหนสุขไปกว่าบ้านเรา
แผ่นดินเคยเนาตั้งแต่เกิดกาย
ใครใครก็รู้ว่าบ้านเราอยู่สบาย
แต่แล้วทำไมไม่ดูแลช่วยกัน
ทะเลาะเบาะแว้งแก่งแย่งผลประโยชน์
ต่างคนต่างโทษโกรธตีห่ำหั่น
ความสุขเลือนหายกลายเป็นความจาบัลย์
และอีกไม่นานบ้านเราคงเสื่อมทราม
คนเราต้องมีบ้านไว้พักพิงอาศัย
พักกายพักใจคุ้มกันภัยคุกคาม
ดูแลบ้านให้ดีให้เป็นศรีลือนาม
มิให้ใครหยามเราพี่น้องผองไทย
บ้านที่รุ่มร้อนเราต้องผ่อนให้เย็น
ต้องทำให้เป็นบ้านที่สดใส
ได้อยู่ร่วมกันด้วยความอบอุ่นใจ
สามัคคีกันไว้จะนำไทยรุ่งเรือง
19 กันยายน 2553 08:08 น.
คนเดียวกัน
...แม่เพ็ญโสมโฉมยงอนงค์นุช
บริสุทธิ์ผุดผ่องจริงน้องสาว
จึงหาคำรำพันกลั่นเพลงยาว
แจ้งเรื่องราวกล่าวถ้อยร้อยดวงใจ
ด้วยเจียมตัวกลัวน้องจะหมองเศร้า
จะทำเจ้ารุ่มร้อนจนอ่อนไหว
อันตัวพี่ต่ำต้อยด้อยกว่าใคร
อยู่กันไปคงยากลำบากจริง
แต่ไม่อยากให้น้องนั้นมองข้าม
พี่มีความจริงใจให้ยอดหญิง
จะไม่ขอเปลี่ยนใจใฝ่ประวิง
จะไม่ทิ้งให้น้องต้องระกำ
จะอดทนสู้ไปโดยไม่ท้อ
จะสานต่อก่อเกื้อเพื่องามขำ
สิ่งที่ดีเพื่อเจ้าจะเฝ้าทำ
ไม่ถลำทำชั่วกลั้วอบาย
หากเธอนั้นมีใจให้ชายอื่น
คงไม่ฝืนเมื่อเธอเจอที่หมาย
แต่อย่าลืมตรงนี้ยังมีชาย
ที่มิคลายรักเธอเสมอมา
แม่เพ็ญโสมโฉมยงอนงค์นุช
คือที่สุดแห่งใจที่ใฝ่หา
มอบดวงใจให้แล้วแด่แก้วตา
ขอจงอย่ามองข้ามความจริงใจ
16 กันยายน 2553 10:16 น.
คนเดียวกัน
ร้อยสำเนียงเสียงกลอนอันอ่อนหวาน
กล่อมดวงมานบานแย้มให้แจ่มใส
ร้อยลำนำคำอ้อนมาก่อนใคร
รับวันใหม่ใสสดช่างงดงาม
ฟังสิฟังดังว่าไก่ฟ้าขัน
ฟังสินั่นขวัญใจจะไหวหวาม
ฟังละมุนอุ่นเอื้อทุกเนื้อความ
ฝากนิยามความรักประจักษ์ใจ
ดื่มกาแฟสักถ้วยด้วยกันนะ
ที่รักจ๊ะชอบทานหวานใช่ไหม
หากสายลมหัวเช้ายังหนาวไป
มาแนบในอกพี่เถิดศรีแพร
บรรจงจูบพรมไล้ตามไรผม
สูดดอมดมกลิ่นกรุ่นอุ่นกระแส
ตัวเจ้าสั่นกว่าเดิมเริ่มปรวนแปร
แล้วกาแฟก็ราดตักผลักกระเด็น! ตกบ้าน 14/9/53
12 กันยายน 2553 17:24 น.
คนเดียวกัน
...ผมเขียนกลอนเรื่อยไปด้วยใจเศร้า
มันสุดแสนเปลี่ยวเปล่าและเหงาหงอย
ผมเขียนกลอนเฝื่อนเฝื่อนอย่างเลื่อนลอย
ดั่งเฝ้าคอยบางคนอยู่วนเวียน
ในห้องนอนเน่าเน่าเท่ารูหนู
ผมนั่งอยู่ทนฝืนความคลื่นเหียน
เหลียวดูซองมาม่าแทบอาเจียน
ต้องคอยเปลี่ยนรสชาติอนาจใจ
ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจคิด
โอ้ชีวิตลำเค็ญเป็นโฉน
หลายหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจ
ว่าทำไมทำไมทำไมกัน
เคยมีหวังเรืองรองดูผ่องใส
แต่นานไปที่แน่ก็แปรผัน
ผ่านเลยวันล่วงวัยไปทุกวัน
แล้วความฝันแต่เดิมก็เริ่มเลือน
อุปสรรคขวางทางทุกอย่างก้าว
ให้ปวดร้าวเท่าไรใครจะเหมือน
คำดูถูกตัวเราเฝ้าย้ำเตือน
ให้ฝั่นเฝือนฟูมฟายมิได้ซา
มันท้อแท้ทุกข์ทนอยู่ล้นเหลือ
ไร้ความเชื่อสิ่งใดเคยใฝ่หา
อยู่มันไปวันวันฉันระอา
แต่งกลอนมาพอได้คลายระทม
เขียนมันไปเรื่อยเปื่อยเหนื่อยก็หยุด
กลอนสะดุดหลายคราพาขื่นขม
ทำให้ท่านละเหี่ยเสียอารมณ์
เชิญทับถมตามใจไม่อายเลย