9 ตุลาคม 2553 07:10 น.
คนเดียวกัน
...ไม่ได้เขียนบทกวีเพื่อชีวิต
ไม่ได้คิดจะยิ่งใหญ่ใครนับถือ
แค่เขียนไปเพราะความสุขสนุกมือ
ตัวหนังสือทุกตัวจากหัวเรา
บางครั้งเขียนกลอนรักมาฝากไว้
ก็เขียนไปพอได้ช่วยคลายเหงา
เขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้ วิถีเรา
เขียนเรื่องสุขเรื่องเศร้าตามเข้าใจ
จะกวน...ใจใครบ้างก็ช่างมัน
พอคันคันนิดหน่อยค่อยแก้ไข
ส่วนการเมืองก็น่าเบื่อจนเหลือใจ
พี่น้องไทยยังทุกข์ยากลำบากมา
อันเมืองไทยก็คงเป็นอยู่เช่นนี้
ประคองไว้ให้ดีเถิดพี่จ๋า
อย่าให้ถึงกาลย่อยยับอัปรา
เขียนกลอนมาบอกแค่นี้โชคดีเอย
8 ตุลาคม 2553 11:13 น.
คนเดียวกัน
...มาบอกให้เป็นคนดีครับพี่น้อง
ไม่มัวหมองเมามายทั้งหลายแหล่
มีศีลธรรมมั่นไว้ในดวงแด
ช่วยดูแลสังคมตามสมควร
เพื่อให้เราอยู่ได้ไปนานแสน
มิทุกแค้นเย็นยากลำบากถ้วน
ใครมีเหลือเผื่อแผ่อย่าแปรปรวน
ทุกคนล้วนเอื้อเฝื้อจุนเจือกัน
ผมพูดตรงตามจิตไม่คิดมาก
เข้าใจยากตรงไหนใช่ไหมท่าน
เราคนไทยใจดีมีแบ่งปัน
ไม่แบ่งชั้นฝ่ายใดคงไม่ดี
ใช่หยิบยกสำนวนมาชวนคิด
หวังหมู่มิตรดำเนินเดินวิถี
ตามที่บอกไม่ยอกย้อนในกลอนมี
เป็นคนดีมีสุขครับ รับประกัน
7 ตุลาคม 2553 10:44 น.
คนเดียวกัน
...กว่าจะถึงปีสองพันสิบสอง
ที่น้ำนองท่วมโลกต้องโศกศัลย์
พื้นแผ่นดินจะหายไปแค่ไหนกัน
ผู้คนนั้นจะอยู่ดีเหลือกี่คน
เราคนไทยอาจสิ้นแผ่นดินอยู่
ยังไม่รู้ชะตากรรมจะนำผล
มีสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นกังวล
ให้สับสนความเป็นไปของไทยเรา
กว่าจะถึงปีสองพันสิบสอง
แล้วนึกตรองในใจให้อับเฉา
อันดินแดนขวานทองของไทยเรา
จะยังอยู่หรือเปล่าไม่เข้าใจ
เพราะอะไรก็รู้ถ้าดูข่าว
ทุกเรื่องราวเศร้าสลดสิ้นสดใส
ไม่นานคงย่อยยับอัปราชัย
สิ้นชาติไทยไปก่อนแน่นอนเอย
6 ตุลาคม 2553 15:54 น.
คนเดียวกัน
บอกตัวเองเรื่อยไปว่าไม่ท้อ
แม้ว่าใจร้องขอให้ท้อถอย
ใจเจ้าเอยอย่าทำเป็นสำออย
น้ำน้อยน้อยอย่าเพิ่งไหลจากนัยน์ตา
เมื่อโรครักรุมเร้าให้เศร้านัก
ยากจะหักความคิดถึงรำพึงหา
ทุกข์ระทมอ้างว้างมิสร่างซา
ให้เหว่ว้าอาวรณ์สะท้อนใจ
เพื่อให้เรารักกันมิผันเปลี่ยน
จึงต้องเพียรสร้างสรรค์มิหวั่นไหว
บรรจงร้อยคำหวานซ่านหทัย
มามอบให้เนื้อนวลไม่รวนเร
เพียรฝากคำรักไปให้สุขสันต์
เพียรรำพันเรื่อยไปให้สรวญเส
เพียงความหวังเล็กน้อยคอยถ่ายเท
สุดคะเนในรักจะชักพา
จึงแต่งบทประพันธ์มาวันนี้
เพื่อคนดีดั่งใจที่ใฝ่หา
ไม่ไพเราะขออภัยในวาจา
สุดปํญญาแล้วเราเขลาเกินใคร
5 ตุลาคม 2553 13:35 น.
คนเดียวกัน
คนเดียวกันปั่นกลอนกระท่อนกระแท่น
ด้วยขาดแคลนถ้อยคำระส่ำระสาย
เปิดตำราสารพัดกระจัดกระจาย
อยากระบายความนัยละไมละมุน
กลอนไม่ค่อยสนุกตะกุกตะกัก
เกรงเจ้าจักไม่รับสนับสนุน
คิดจนหัวทะลุจะผุจะพรุน
ก็พอลุ้นพอทนเป็นกลเป็นกลอน
จะให้นางฟังเพลินก็เขินก็ขัด
ไม่แจ้งชัดคำชายจะถ่ายจะถอน
ไม่รื่นหูเดี๋ยวเจ้ากระเง้ากระงอน
พี่ยังอ่อนกลบทระทดระทวย
แม้กลอนพี่จะฟังทุรังทุเรศ
ไร้มูลเหตุสาระไม่สะไม่สวย
คงพอคลายหายกลุ้มกระชุ่มกระชวย
เพื่อคนสวยบำเทิงสำเริงสำราญ