ข้าพเจ้า ไปไหนมา…
………………….
สะเทือนท่วงความจริง เสียงจิ้งหรีด
ประหนึ่งคมกดกรีด ประสาทหู
อวลลมไหวละลอก นอกประตู
คุเคล้าเสียงคลื่นกรู โถมกระทบ….
สะท้านท่วงทำนอง ก้องวิเวก
ปลุกเดียวดายปัจเจก สิ้นสงบ
เอกาลมพรมผ่าน ใจซ่านซบ
ลุบางสิ่งเร้ารบ ในหัวใจ….
คว้างชีวิตงุ่นงง ปลงชีวิต
ท่ามทางทิศโยงเชื่อม กระเพื่อมไหว
แต่ลืมตาเกิดดับ อยู่กับใด
มิต่างกัน เช่นไร ก็เช่นนั้น….
คว้างพะวงปลงปรุง ใจฟุ้งเฟ้อ
ไปกับการพบเจอ ที่เหลื่อมหลั่น
เสาะแสวงหัวใจ ลุวัยวัน
ประหนึ่งภาพอัศจรรย์ ของชีวิต….
วาดเป็นความเข้าใจ ในตัวตน
ผ่านเหตุผล กิเลส ตัณหา มายา จริต
หลากคุณค่า ความหมาย สหายมิตร
แต่งปรุงคิด แลปลงวาง กระจ่างมา…
ถึงที่สุด อจีรังแห่งฝั่งฝาก
ทุกข์ท้นความลำบาก พิพากษา
วัฏฏะนี้มีคำตอบ ใดมอบพา
ให้ก้าวย่ำธรรมดา ได้จบ รู้….
………………………
โดยคำ ลานเทวา
นานแล้วในงดงาม ความรู้สึก
หลากความหมายเร้นลึก ถึงคุณค่า
ท้นวันวัยในกาล ที่ผ่านพา
ใช่รับรู้เพียงกาลเวลา ที่ผ่านเลย
ภาพบางภาพ ตรึงทราบอยู่มิรู้สร่าง
คล้ายบอกเล่าแรมทาง ใจอ้างเอ่ย
บางรู้สึกอบอุ่น อย่างคุ้นเคย
แม้ล่วงเลยใจสบ ในพบพาน
เรายังจำกันได้ อยู่ใช่ไหม
ภาพริ้วรอยวันวัย ที่เนิ่นผ่าน
บางรู้สึกยังตรึงเตือน เหมือนไม่นาน
หอมเอย อดีตกาล แห่งเยาว์วัย…
รอยยิ้ม น้อง พี่ เพื่อน เรือนหลังเก่า
เสียงบอกเล่าผ่านปลุก ยุคสมัย
ณ วันนี้ วันที่เรา ต่างเข้าใจ
ถึงชีวิตที่เป็นไป และเป็นมา...
เราจำได้ บางสิ่งย้ำ ยังจำได้
ภาพอันคุ้นตรึงให้ ใจหวนหา
บางรอยยิ้มผ่านย้ำ บางน้ำตา
บอกเล่ากาลเวลา ของชีวิต…
…………………………..
โดยคำ ลานเทวา