6 กรกฎาคม 2553 23:37 น.
ลานเทวา
...ทะเลกาม...
( ๑ )
ไกลโพ้นแห่งมหานที
เรือแก่นจันทร์ดั้นวารีระล่องฝ่า
มรสุมกร้าวแฝงแรงมนต์ตรา
ให้เชี่ยวเร้าโดยกามา ชวนภิรมย์
ลิบลิบแลคลื่นหยอกฝั่งดอกโมก
เคลื่อนรอยโศกรอยเศร้ารุมเร้าข่ม
เดียวดายฝ่าห้วงฝันอันตรอมตรม
ล่องทะเลอารมณ์ ข้ามคืนวัน
วับวับเพียงตะเกียงดาวพราวแสงเรื่อ
เจ้าล่องเรือมาจากฝากไหนนั่น
แลบรรทุกใดมาสารพัน
จะนำมาแบ่งปันหรือขายค้า
( ๒ )
ในลำเรือตัณหาข้าบรรทุก
อุปกรณ์แห่งสุขแสวงหา
ระล่องเร่กลางทะเลแห่งมายา
หมายล่วงมาถึงถิ่นแผ่นดินทอง
มาเถิดท่านผู้นิยมผู้ชมชอบ
ความภิรมย์จักนอบใคร่สนอง
เร่เข้ามาเถิดมาจับแลมาจอง
ในสิ่งปองสิ่งหมายอันรายเรียง
นั่นก็ดีนี่ก็งามตามแต่เลือก
กระสันต์เสือกแห่งใจหรือไหวเลี่ยง
ห้วงราตรีดั่งมนต์ดำร่ายจำเรียง
ทุกสิ่งเพียงผ่านแสวงโดยแรงใจ
ในลำเรือตัณหาข้าบรรทุก
อุปกรณ์แห่งความสุขและความใคร่
อวิชชาลำพองกองนั้นไง
เลือกเอาไปเถอะนายขายไม่แพง
แม้นเลือกได้สมใจจักไปต่อ
มีคนรอมากมายสุดปลายแสง
ด้วยสินค้าเลิศล้ำการสำแดง
คนต่างแย่งจับจองสนองพา
( ๓ )
ไกลโพ้นแห่งมหานที
เรือแก่นจันทร์ดั้นวารีระล่องฝ่า
ไร้จุดหมายปลายฝันจากมรรคา
เขาบรรทุกอวิชชามาเต็มลำ
ช้าก่อนจะขึ้นท่าวานิชหนุ่ม
จะหลงลุ่มใดปลื้มใจดื่มด่ำ
ณ ฟากฝั่งแห่งนี้มีแต่ธรรม
คอยชี้นำชาวชนในหนทาง
สินค้าเจ้าเรามิปอง .. !
เพราะครรลองแห่งธรรมเรานำสร้าง
ผิดแต่เจ้าผู้เร่ลอยมิปล่อยวาง
เถอะอัปปางเมื่อไรคงได้รู้
จงไปเถิดท่านพ่อค้า
ชนมืดบอดในชีวาคงรออยู่
ท่ามทะเลมายาไร้ตาดู
ทิศทางผู้ลุ่มหลงคงอีกไกล
........................
โดยคำ ลานเทวา
1 กรกฎาคม 2553 15:13 น.
ลานเทวา
นี่เราเดินมาถึงไหน กันแล้วนี่
เหลียวหลังแลแต่ละที ล้วนเลนหล่ม
หลายทางแยกผ่านตา ก็อาจม
เราต้องงมทางไป ถึงไหนกัน
ดูก่อน ท่านผู้เจริญ
ทางที่ท่านนำเดิน สู่สวรรค์
ฤานรกหมกไหม้ ประลัยกัลป์
หลายคนตามไม่ทัน แรงอ่อนล้า
นี่เราเดินกันมาก็นานแล้ว
ผ่านหนแนวเคยแสวง เกินแรงฝ่า
กร้านลมแดดแต่วัยน้อย คล้อยชรา
สืบทางค้นด้นมา กระไรพบ
คิดว่าเราหลงทาง กันบ้างไหม
ที่มาไกลลิบลับ เนิ่นนับศพ
ทั้งรู้สึกสับสน ท้นทวนทบ
แต่จุดหมายเลือนลบ มองไม่เห็น
นี่เราเดินมาถึงไหน กันแล้วนี่
นับเวลานาที ร้าวคุเข่น
ข่มหัวใจระงับเงียบ ในเยียบเย็น
สู่ความเป็น ความตาย ไหนปลายทาง ?
..................................
โดยคำ ลานเทวา