29 สิงหาคม 2552 22:21 น.
ลานเทวา
เก็บเอาความรู้สึกดีดี
ทุกกรณีปรารถนา
แม้มิได้สบซึ้งถึงแววตา
แต่รู้เถิดทุกเวลา คือห่วงใย
ฟังสิ เสียงสายลมกระซิบ
แว่วหวานประหนึ่งทิพย์ กวีไหว
ทุกท่วงงามความรัก อักษรใจ
โอบอุ่นละมุนนัย อยู่เนานาน
ความรู้สึกยังงดงาม อยู่ตรงนี้
แต่ละท่วงนาที สืบผสาน
ดังดอกดาวเจ้าแย้ม กลีบผลีบาน
ทาบทอห้วงรัตติกาล อภิรมย์
ฟังสิ เสียงถ้อยคำลำนำร่าย
ปลอบปลุกไปทุกพาย กำซาบสม
แม้ความจริงบางสิ่ง ยังโสมม
คอยผลักไสใจจม ภวังค์เร้น
ปรารถนาดี ยังมีอยู่
บางครั้งแม้จะดู ไม่โดดเด่น
รักยังรักทุกนาที อย่างที่เป็น
แม้ผันผ่านร้อนเย็น หลากฤดู
อาจจะเดียวดาย กันคนละฟาก
โดยความคิดถึงหลายหลาก เร้นซ่อนอยู่
ความไกลห่างวางผ่าน บานประตู
แต่มิอาจปิดกั้นอณู ที่โหยหา
เก็บเอาไว้เถิด ความรู้สึกดีดี
จากทุกทุกนาที อันมีค่า
ถึงจะอยู่คนละฟากฝัน มรรคา
สักวันรักจะหวนมา พานพบ
โดยคำ ลานเทวา
14 สิงหาคม 2552 11:08 น.
ลานเทวา
แล่นชีวิตผ่านท่วง อักขระร่าย
มิตรแท้ตราบวางวาย คืออักษร
ฝากวิญญาณว้าเหว่ วเนจร
กลางสวนฝันนิรันดร อักษรา
อภิรมย์ร่ายโลก งามตระการ
ดอกกวีเบ่งบาน สวนภาษา
อนุภาพถ้อยสรรค์ รำพันพา
วิจิตรห้วงจินตนา ทัศนะ
สรรพบทนิยาม ความรู้สึก
บันทึกสรรพสิ่งล่วง ห้วงขณะ
ทุกบทคำ นำนัยยะ
เถอะเจ้าจงชำระ มันด้วยใจ
พิสุทธิ์งามจักพลี กวีร่าย
กระแสสายอาทร อันอ่อนไหว
ผลิงามแผกแตกต่าง ระหว่างนัย
โลกละไมละมุน กรุ่นกวี
โดยคำ ลานเทวา
11 สิงหาคม 2552 18:44 น.
ลานเทวา
กล่อมน้ำค้าง ยามร้างแรม.....
จินตนาการวาดไหว เรไรร่ำ
ฟังเถอะคำจากแดโดย ความโหยหา
ตะโกนก้องถวิล เพรียกวิญญาณ์
ปลุกสรรพสิ่งนานา เถิดรับรู้
ขื่นหัวใจจรจัด ข้าพลัดหลง
ณ แดนพงดงใด อันไกลสู่
เถอะ น้ำตาอ้างว้าง ที่พร่างพรู
ซับโศกหม่นในหนดู จะชินชา
พกเพี้ยนแผกแทรกร่าง บนทางฝัน
เพ้อกวีรำพัน ปรารถนา
ลิขิตท่วงวิถี แห่งชีวา
พล่ามปรัชญาสุขโศก โลกอัตคัด
แย้มยิ้มเย้ยเย้าหยอก ดอกน้ำค้าง
คืนอ้างว้างอาวรณ์ ใจจรจัด
ยะเยียบห้วงว้าเหว่ ลมเพพัด
กล่อมกวีเซาะซัด วเนจร
กว่าลมใจ สุดท้ายจักหายห้วง
รักจะล่วงความฝัน คืนวันก่อน
หลับตาเถิดความห่วงหา ความอาทร
ข้าจะเขียนบทกลอน กล่อมน้ำค้าง
เพื่องดงามความรัก ทายทักโลก
ดับสิ้นโศกหัวใจ ผู้ไกลห่าง
ดังสายลมล่วงแล้ว ในแผ่วบาง
ชื่นแรมทางราตรี ชื่นชีวิต
.
โดยคำ ลานเทวา
11 สิงหาคม 2552 01:43 น.
ลานเทวา
สดับดึกลึกเร้น มโนร้าว
นิทานดาวเล่าจบ มิพบฝัน
ยินแต่เสียงเรไร รำพัน
ท่ามเหงาเปลี่ยวเดียวดายจันทร์ เอกา
คลี่อารมณ์พรมพร่าง อย่างสงบ
คลายหัวใจผ่านพบ ปรารถนา
วิเวกโลกบัดพลี แด่ชีวา
ร่ายมรรคาบริบท ในจดจาร
รำพึงถ้อยละมุนเนียน เขียนอากาศ
วิจิตรวาดอาทร อักษรหวาน
บันทึกท่วงดำริ รัตติกาล
กล่อมขวัญเจ้าเยาวมาลย์ แห่งสายลม
มธุรสหยดคำ อันฉ่ำชื่น
จะโอบคืนกำนัล แสงจันทร์ห่ม
ห่างหายเถิดเหน็บหนาว ที่ร้าวตรม
ดับสิ้นทุกข์ระทม ให้เลือนจาง
ความรักข้า บอกกล่าวดาวดวงนั้น
ฟังเถิดถ้อยรำพัน ยามไกลห่าง
ปรารถนาดีมอบไว้ ในแรมทาง
ฝากสายลมบางบาง ให้รับรู้
สดับดึกลึกเร้น มโนร้าว
หนทางดาวแสนไกล เกินไปสู่
วอนสายลมผ่านประโลม โฉมพธู
ทุกอณูกวี ที่รำพัน
คือความรัก อันงดงามในความรัก
ให้โลกได้รู้จัก พิสุทธิ์สรร
โดยอักษรสะท้อนร่าย อยู่พรายพรรณ
มอบกำนัลแด่เหงาเปลี่ยว ผู้เดียวดาย
โดยคำ ลานเทวา