27 มีนาคม 2552 23:35 น.
ลานเทวา
บางกลีบขาวจะพราวแย้ม
ไปแตะแต้มแรมคืนให้ชื่นฟ้า
ประดับสรวงแทนดอกดวงดาริกา
รัญจวนพากลิ่นฉ่ำ ห้วงรำพึง
ทิ้งร่วงแล้วกลีบแก้วบาง สายลมผ่าน
พร้อมพร้อมกาล จากลาที่มาถึง
โศกฤดูแห่งมรรคา จะตราตรึง
อยู่ในห้วงคำนึง นิจนิรันดร์
ผละความจริงทิ้งร่วงจากห่วงหา
เศร้านัยน์ตาสื่อสบมิพบฝัน
จะพรากพ้นหนใดในชีวัน
แผ่วแผ่วพร่ำรำพัน คะนึงครวญ
กลีบเอย เจ้ากลีบแก้ว
ทิ้งร่วงแล้วช่อชื่น ไม่คืนหวน
เลือนเลือนกลิ่นหอมบางจางรัญจวน
หอมเจ้าปานแก้มนวล กรุ่นภวังค์
เจ้าทิ้งซากตากแสงเดือนเรือนน้ำค้าง
ฝากคืนหนาวอ้างว้าง กระซิบสั่ง
ก่อนจะไกลจากอุ่นอิง เป็นชิงชัง
ผ่านเงียบเหงาโลกลำพัง ทรมาน
ว่ายังครุ่นรำพึง ปรารถนา
ถึงโศกงามนัยน์ตา อันฉ่ำหวาน
วางกลีบช้ำฝากไว้กับวัยวาร
ให้ว้าเหว่เอกาลาน เกลื่อนกลีบแก้ว
โดยคำ ลานเทวา
บทแรก ลานกลีบแก้ว
จากหนังสือรวมบทกวี "บันทึกทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ"
22 มีนาคม 2552 08:45 น.
ลานเทวา
ไกลกว่าไกล ห้วงคำนึง
ไกลเกินกว่าความคิดถึงจะรู้ได้
ณ ลึกลับซับซ้อนอันแสนไกล
กลับซุกซ่อนอ่อนไหวอยู่ในคำ
ก่อนปรากฏเป็นมรรคารอยจารึก
จินตนาการความรู้สึกอันดื่มด่ำ
ระเริงล่องสวรรค์วรรณกรรม
สดุดีสรรพธรรม คีตกานท์
โดยสุนทรียภาพกำซาบลึก
สื่อครรลองความรู้สึกอันไหวหวาน
จะเห่กล่อมความรักจักรวาล
อยู่ตราบนานเท่านาน ลมหายใจ
ขับพิลาศห้วงมโนระโหฐาน
เป็นอัครคีตกานท์บรรเลงไหว
กล่อมมรรคาอันผ่องผุดพิสุทธิ์นัย
แทนน้ำใจน้ำจิต มิตรไมตรี
ดูก่อนอหังการ์แห่งมนุษย์
อลังการโลกพิสุทธิ์สร้างวิถี
เถอะดำเนินความฝันมรรคากวี
แต่งแต้มโลกเสรี อักขรา
โดยคำ นำนัยยะ
ให้โลกย้ำการชำระถึงคุณค่า
เบ่งบานเถิดบริบทพจนา
มอบความหมายแห่งเมธา แต่งแต้มโลก
….........................
โดยคำ ลานเทวา
จงกล้าหาญและทระนงเถิดชีวิต
แลจงให้เกียรติความคิด และชีวิตผู้อื่น
ถูกผิดมิใช่อยู่ที่การหยัดยืน
หากอยู่ที่รู้จักตรองคืนสู่การแก้ไข
บทกวีนี้
ลานเทวาขอมอบ เป็นกำลังใจแด่ทุกๆท่าน ณ บ้าน thaipoem
17 มีนาคม 2552 21:11 น.
ลานเทวา
ซัดขยะวรรณกรรม ลำนำกู
เพรียกมึงกวีดู ยิ่งใหญ่นัก
เขียนงานใส่บล็อกคนไม่รู้จัก
เหยียดหยามเสียจมปลัก ไร้คุณภาพ
งานต้องผ่าน บอกอ รอคัดเลือก
มั่วไหนแท้แก่นเปลือก ก้มลงกราบ
เผื่อบางถ้อยบางคำจะกำซาบ
เป็นกวีศิโรราบ กองบอกอ
ยี่สิบกว่าปี กูตามอ่าน
หนังสือพิมพ์นิตยสารกวีก่อ
รังแต่ถ้อยคำคิดจริตสอพลอ
บ้างก็พร่ำป้อยอ ยกหางกันเอง
ต้อยต่ำกู เพียงไม่ใคร่เสนอส่ง
วิถีคำดำรงไม่รีบเร่ง
โดยคำกู ร่ายขมขื่น และครื้นเครง
ใช่บรรเลงสนองใคร่ใครบางคน
หาก บอกอ เป็นกวีกว่านี้หน่อย
กูจะพลอยอาศัยไปสักหน
บาง บอกอ ไม่เลือกงาน แต่เลือกคน
บาง บอกอ เลือกงานบน ความถูกใจ
ไม่มีหลักมาตรฐานอาจารย์เก่า
กวีเน่าก็แปดเปื้อนเข้าเคลื่อนไหว
บางกวีนี่มันเขียนกันยังไง
เอาส้นตีนละเลงไปยังได้ลง
ซัดขยะวรรณกรรม ลำนำกู
เพรียกกวีมึงดูน่าไหลหลง
เอาเถอะวะ คำใครไหนยืนยง
คำกูตราบชีวิตปลง ไม่ทิ้งคำ
แม้นต่ำต้อย ด้อยค่ามรรคานี้
ไร้สวรรค์ชั้นกวีให้เหยียบย่ำ
งานกูจักเผ่นโผย อยู่โดยคำ
ร่ายเถื่อนถ้อยลำนำ ให้พร่างพรม
ความรู้กูวุฒิแท้แค่ ป.หก
ร่ายสาทกได้เท่านี้ก็ดีถม
มึงจบโก้ อักษรศาสตร์พิลาสชม
ไหนเล่าเขียนความภิรมย์ ให้กูที ...
โดยคำ ลานเทวา
... ช่วยบอกมันทีว่า งานเขียนตามบล็อค ก็เป็นงานเขียนคุณภาพ ไม่ใช่งานขยะที่รอทิ้งลงถัง..... !!
17 มีนาคม 2552 12:18 น.
ลานเทวา
รินหยาดเถิดอุทก อันอุทิศ
ตั้งมั่นจิตเป็นทาน การถวาย
บุญกระแสจากแดโดยจะโปรยปราย
ไปทุกพายทุกหน ผลแสดง
อุทิศ เอ็ง ผู้ต่ำช้าสารพัด
สืบกำหนัดตัณหาบัญชาแสวง
เกลือกมลทินหยาบกร้านประจานแจง
ชั่วโดยกรรมจำแลง แสร้งชีวิต
เผื่อกุศลผลบุญให้หนุนส่ง
ไปจากทรามลุ่มหลงดัดจริต
เผื่อแสงธรรมนำกระจ่างหนทางทิศ
พบเป็นกัลยาณมิตร แผ่เมตตา
รินหยาดเถิด กระแสสาย
พ่นพร่ำคำบรรยาย อุทิศห่า
กำเนิดเป็นกุศลดลมรรคา
เผินเผินแต่ต่ำช้า กระไรนั่น
ขอ ผู้ย่ำด่ำดื่มปลื้มชีวิต
ผยองใจเสพสถิตมายาสวรรค์
มารับเถิดกุศลผลบุญปัน
กูสิ รินหยาดมัน ให้มึงรับ
ภพใดภูมิใด กระไรชั่ว
ตราบถึงทรามเมามัวมิสิ้นดับ
แผ่กุศลแสนห่า คณานับ
มาเถิดซับ เสพสิ้นถ้วนวิญญาณ
ผิ ว่ากุศลมันเลี้ยงไม่เชื่อง
ผยองกรรมระยำเขื่อง เหนือสงสาร
เถอะ ปล่อยมัน สู่บัญชาโลกสามานย์
สืบสันดาน อันคุ้นชินตราบสิ้นกรรม
โดยคำ ลานเทวา
15 มีนาคม 2552 22:13 น.
ลานเทวา
นิรนามแห่งความใคร่
แตกทรามยอดบอดใบ้ปรารถนา
กระสันนี้เจ้าได้แต่ใดมา
ค้นถามเถิดกาลเวลา ระอุใด
ซึ้งหว่านซึ้งจึงพบไปสบซึ้ง
หนาวรำพึงรำพันกระสันไหน
ไม่มีชื่อดอกรอยยิ้มพิมพ์ละไม
แค่ปล่อยใจสบใจก็สื่อซ่าน
ซึมแล้วใจไหววาบกำซาบลึก
ภิรมย์ดึกดื่นดาวหนาวน้ำหวาน
ร่ายนรกบัญชาโลกสามานย์
รัญจวนกาลอัปรีย์รี่ประณาม
จากหลุบหลืบคืบศอกผ่านบอกเล่า
ใคร่ชำเราเหงาโศกในโลกสาม
หวานรอยยิ้มพริ้มสบบัดซบทราม
ครุ่นตะกรามร่านเล่ห์เสน่ห์ร้าย
ดูก่อน สมณะ
ห่วงขณะวิบัติทรามบ่งความหมาย
กระสันโลกซ่อนเร้นความเป็นตาย
จงทุกพายทุกผู้ เถอะรู้ทัน
ปล่อยเธอผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม
เริงไฟทุกข์ลุกลามห้วงกระสัน
ร่านอารมณ์สมสู่อยู่นิรันดร์
จ่มคืนวัน กอดรัดบำบัดทราม
..
โดยคำ ลานเทวา