8 กันยายน 2551 11:26 น.

...หัวใจ...กวี..... !

ลานเทวา

อารมณ์จรอันซ่อนเร้น

เจ้าวิ่งเล่นสนุกยุคสมัย

กอบทรายดินจินตนาการบนลานใจ

ปั้นแต่งโลกละไมกาลเวลา

 

พิสุทธิ์งามความฝันอันลอยล่อง

ผ่านครรลองขันแข่งแสวงหา

มีความรักหวานฉ่ำคอยนำพา

มีแววตาซึ้งมอบการปลอบโยน

 

โลกละมุนหนุนสร้างทางชีวิต

ใจเจ้าจักลิขิตใดผาดโผน

หรือจะร่ายอาทรอันอ่อนโอน

เพื่อคลายคราบหยาบโลนแห่งชีวัน

 

มรรคา.... กวี

แลหลายหลากมากมีในความฝัน

สรรพสิ่งล่วงผ่านกาลนิรันดร์

ดอกไม้อ้อนรำพันหนาวน้ำค้าง

 

ในคืนเงียบยะเยียบหนาว

ไร้แสงดาวปลอบใจผู้ไกลห่าง

ความฝันอาจเดียวดายอยู่ปลายทาง

โลกอ้างว้างให้รู้อยู่บ่อยไป

 

อารมณ์จรอันซ่อนเร้น

ปลุกอักษรสะท้อนเป็นลำนำไหว

ร่ายงดงามความรู้สึกผลึกนัย

ประโลมโลกวิไล.... เลห์มารยา

..............

โดยคำ  ลานเทวา

 

 


113-6.jpg
				
6 กันยายน 2551 12:58 น.

.... กวี น้ำเน่า .... !

ลานเทวา

ใช่เป็นเทพเทวาเสพอากาศ

เขียนวิมานไหววาดกลางลมร่าย

ยังอดอิ่มหิวหาหูตาลาย

ยังกระสันกระหายความเพลิดเพลิน

 


ก็ยังเป็นปุถุชนคนเดินเท้า

ใช่เหยียบเงาย่ำเยาะมาเหาะเหิน

มีความหวังประดับโลกยับเยิน

มีความฝันขาดเกินธรรมดา

 


ยังประคบประหงมอารมณ์ไหว

ท่ามสมัยขันแข่งแสวงหา

กินข้าวแกงน้ำแข็งเปล่าเนิ่นเนามา

จนจานละสามสิบกว่าก็ต้องกิน

 


ยังอาศัยรถเมล์ระเหร่อน

ห้องเช่านอนอยู่สลัมน้ำครำกลิ่น

มีหนูวิ่งกล่อมรุ่งมียุงบิน

เคล้าเสียงอึ่งให้ยลยินยามฝนพรำ
 


มีหลังคาโหว่เป็นรูไว้ดูฟ้า

ยิ้มทักเดือนดาราในคืนค่ำ

มีกระดาษเขียนถ้อยร้อยลำนำ

เป็นกวีแห่งสลัมสลักนัย

 


เขียนเล่าทุกข์สุขโศกในโลกหล้า

เขียนชีวาปลอบปลุกยุคสมัย

เขียนความดีความชั่วของหัวใจ

เขียนถึงความเป็นไปแห่งชีวิต

 


กี่วันเดือนเคลื่อนปีที่ผันผ่าน

ยังดักดานในหนทนลิขิต

ขอเป็นแค่เศษกวีกระจี้ริด

ร่ายคำให้มวลมิตรเสพสราญ

 


เหมือนพอใจในยะถาที่เป็นอยู่

กวีผู้ปลิดปลงความสงสาร

เขียนห้วงงามความฝันอันตระการ

เย้ยชีวิตดักดานพึงพอใจ

.....................

โดยคำ ลานเทวา

 
189915.jpg
				
3 กันยายน 2551 11:38 น.

แสงสุดท้าย ที่ปลายฟ้า .. !!

ลานเทวา

แสงตะวันเหลื่อมลายระบายฟ้า

บอกร่องรอยกาลเวลาจะลับล่วง

โลกจะเคลื่อนความจริงสิ่งทั้งปวง

ให้ตักตวงความฝันวันเวลา

 

แลประหนึ่งวิถีธุลีโลก

วนสุขโศกประดับลวงห้วงยะถา

คืบคลานรอยชีวิตลิขิตพา

อหังการ์เขลาโง่และโสมม

 

ห้วงวัยวันผันผ่านกาลชีวิต

วาดถูกผิดใดสดับใจทับถม

สามัญแห่งดำริอันนิยม

ขับอารมณ์มารยาเพียงสาใจ

 

จากวัยวันผันผ่านการเกิดก่อ

เขลาพะนอปลอบปลุกยุคสมัย

โลกวันนี้ที่เห็นความเป็นไป

เรียนรู้ใดลึกซึ้งถึงชีวิต

 

ดวงตะวันจะลับแสง

ความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนเงาเข้าสถิต

วัยและวันล่วงวิถีทีละนิด

จะครุ่นคิดใดสร้างบนทางนั้น

 

แสงสุดท้าย

กับบั้นปลายงดงามแห่งความฝัน

กาลวิถีลับล่วงดังดวงตะวัน

เจิดนิรันดร์คือความดีที่แสดง

............................

โดยคำ ลานเทวา				
1 กันยายน 2551 23:54 น.

.. ลานเทวา หมาขี้เรื้อน .... !

ลานเทวา

ซ้ำซากโลกหยำเปโลเลโลก

โกโรโกโสทุกข์โศกซากสวรรค์

เสาะกระเหี้ยนกระหือรือคือชีวัน

พิไรร้อยรำพันความดักดาน

 

ทรามวิบัติในเบื้องอุบัติภาค

กเฬวรากดัดจริตวิตถาร

ประโลมโลกศรัทธาความสามานย์

ปรากฏการณ์โสมมอารมณ์เรื้อน

 

ผากผิวโลกลามกตกสะเก็ด

คันอารมณ์ร้อนเผ็ดในรอยเกลื่อน

อักเสบผิวบาดแผลโลกแลเลือน

เกาสะเทือนดินฟ้ารักษาใจ

 

ยิ่งคันยิ่งเกายิ่งเกายิ่งสุข

โลกขมุกขมัวคันหัวไหน

คันหัวโล้นโกนหัวล้านบานตะไท

เกาขี้เรื้อนสะเทือนไกลจักรวาล



ซ้ำซากโลกหยำเปโลเลโลก

ทรามโสโครกมารยาฉ่ำตาหวาน

ดัดจริตฤทธาอนาจาร

คันหลวงลานฯ ขี้เรื้อนเกาเดือนดาว

.......................

โดยคำ  ลานเทวา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลานเทวา