8 เมษายน 2551 14:17 น.
ลานเทวา
( ๑ )
หอมเอย หอมดอกกระดังงา
รัญจวนพากลิ่นชื่นคืนเดือนหงาย
ริมหน้าต่างบางลมพรมแผ่วพราย
ระยิบดอกดารารายระยับฟ้า
ณ มุมเก่าห้องเก่านั่งเล่าเขียน
ผ่องแสงเทียนสาดหนใจค้นหา
ร่องรอยแห่งความฝันวันเวลา
ระลึกมาเขียนจดเป็นบทตอน
ร่ายอารมณ์ตรมตรึงรำพึงผ่าน
ถ้อยไหวหวานกล่อมเห่เสน่ห์อักษร
ว่างามใดไหนเล่าเท่างามกลอน
ที่สะท้อนความรู้สึกอันลึกเร้น
นั่งเขียนบทจดคำมาร่ำร้อย
ประดิษฐ์ถ้อยกานท์โปรดให้โดดเด่น
เขียนทุกอย่างที่มีและที่เป็น
ให้โลกเห็นงานอักษรสะท้อนงาม
( ๒ )
หอมเอย หอมลั่นทม
โชยกลิ่นตรมข่มโศกโลกทั้งสาม
เศร้าอักษรอ่อนไหวในโมงยาม
แทนหนึ่งความหมองหม่นแห่งหนใจ
บางสิ่งสื่ออ้างว้างในบางช่วง
บางสิ่งล่วงทุกข์ทนกังวลไหว
บางบทบ่งตรงช้ำระกำใน
ห้วงหทัยรวดร้าวหนาวรำพึง
บางบทพรากจากจิตพิศวาส
เร่นิราศห่างเหินเกินคิดถึง
บางบทบอกตอกย้ำห้วงคำนึง
บางบทตรึงน้ำตาอุราราน
บ้างร่ายโศกร่ายสุขการปลุกปลอบ
บ้างเขียนมอบกำลังใจไว้ขับขาน
แลบางบทสดชื่นรื่นเบิกบาน
บางบทจารทั้งน้ำตามาเป็นคำ
( ๓ )
หนาวเอย หนาวลมพลิ้วพรมห้วง
บางสุขล่วงจากปลื้มใจดื่มด่ำ
อารมณ์เลือนเคลื่อนคล้อยรอยลำนำ
สุขโศกบทจดจำอยู่เจียนตาย
ณ มุมเก่าห้องเก่านั่งเล่าเขียน
สาดแสงเทียนผ่องผุดไปสุดสาย
สิ้นเรื่องราวหนาวลมอันพรมพราย
ก็สิ้นแสงสุดท้ายจากแรงเทียน
.....................
โดยคำ ลานเทวา
8 เมษายน 2551 10:33 น.
ลานเทวา
ฉันไม่เคยพบเธอ
ในท่ามกลางแสงตะวัน..เรื่องโรจน์
ฉันไม่เคยเห็นเธอ
ในความฝันที่วาดหวังไว้เอนกอนันต์
ฉันไม่เคยรู้จักเธอ
กับการดำรงค์ชีพอยู่เยี่ยงไร????????
ใต้ฟ้าสีคราม..งามผ่องผาด
เพ็ญพักตรประหนึ่งดังวาด
จะซูบซีดลาโรยลงเพียงใด
ใจของฉันบางเบาดุจปุยนุ่น
และธุลีฝุ่น
มิรู้จักว่า
เธอรักและแบกรับ
ความหนักหน่วงของชีวิต
ไว้เพื่ออะไร ??????
แมกไม้โบกใบพริ้วไสว
โลกนี้ยังมลังเมลืองอยู่เช่นเดิม
แม้นกระแสชีวิตจะไม่เข้มข้น
สายลมเย็นชาพริ้วแผ่ว
พัดผ่านแมกไม้ระเกะตา
ชีวิตฉันมิได้ ชื่นหวาน
ใจของฉันหมกมุ่นครุ่นคิด
รอยอาลัยแห่งดวงใจของฉัน
ฝังรากลึกผนึกแน่น
ตราบสิ้นโลก
ตราบสิ้นใจ
ตราบเอนกอนันตกาลแห่งอสงไขย
ลิบ ลิบแลสุดสายฝัน
ต้นโศกออกดอกสะพรั่ง
แม้เบื้องหลังคราบน้ำตา
ยังปรารถนาอยู่เคียงกัน
รำพันผ่าน ณ ลานเทวา
ฝากช่วยอุดหนุนหนังสือ ด้วยนะครับ
ราคา 85 บาท
หาซื้อได้ที่ ซีเอ็ดบุ๊ค และศูนย์หนังสือจุฬาฯครับ
หรือสั่งโดยตรงที่ phutanow41@gmail.com ก็ได้นะครับ
5 เมษายน 2551 15:38 น.
ลานเทวา
ภวังค์แห่งราตรีวิถีล่วง
รติห้วงรำพึงคนึงไหว
วิเวกหนาวร้าวทั่วห้องหัวใจ
จันทร์รำไรเร้นฟ้าเอกาจันทร์
รำเพยกาลผ่านโผยระโหยแผ่ว
ปานสิ้นแล้วสิ่งหมาย ณ ปลายฝัน
จะเลือนโศกวิโยคไหวอย่างไรกัน
อาดูรร่ำรำพันอยู่มิวาย
ท่ามกลางห้วงมหานทีสีน้ำผึ้ง
แผ่วรำพึงร้าวรอนสะท้อนร่าย
แลไกลฟากฝั่งฝันอันเดียวดาย
สิ้นยื้อยุดสุดท้ายแห่งลมร่าง
หมดสิ้นแล้วหรือปรารถนา
สิ้นแล้วหรือจันทราเคยกระจ่าง
แลสิ้นโลกสิ้นชีพใช้ในทาง
สิ้นระวางสับสนกังวลใจ
สิ้นลับห้วงราตรีที่พิงพัก
สิ้นความรักความฝันอันหม่นไหม้
สิ้นกรรแสงวิโยคโศกหทัย
สิ้นสุดในรำพันวันเวลา
สวยสดงดงามคือความตาย
ท่ามกระแสเดียวดายแห่งตัณหา
สรรพสิ่งผ่านหนใจค้นมา
สิ้นสุดแห่งชีวาสดับใด ... ?
-------------------
ลานเทวา
5 เมษายน 2551 12:40 น.
ลานเทวา
( ๑ )
เจ้าอาจเปรียวโดยเรี่ยวแรงแห่งวัยหนุ่ม
แลกระชุ่มกระชวยด้วยแรงใฝ่
เจ้าอาจเหลิงทระนงหลงวันวัย
ฉกชิงเชี่ยวเปลี่ยวในเชิงฉกรรจ์
ผิสิ้นกาลสิ้นฝันวันมอดเชื้อ
เรี่ยวแรงใดสิเหลือมาเสกสรรค์
ความหักเหสารเพสารพัน
แปรเปลี่ยนกันมิเว้นว่างบนทางใจ
มันเปล่าดายคล้ายชีวินจะสิ้นค่า
กาลเวลาพิสูจณ์เห็นเป็นไฉน
ก็แค่ผ่านมาเยือนแล้วเลือนไป
หวังสิ่งใดแจ่มชัดในอัตตา
( ๒ )
นัยยะแห่งบริบท
ร่ายปรากฏในแรงแสวงหา
จากหนึ่งผู้ต้อยต่ำธรรมดา
เสกสรรค์หนมรรคาโดยชีวิต
ในครึ่งทางครึ่งคนอันวนย่ำ
ผ่านสูงต่ำร้อนเย็นเห็นถูกผิด
สัมผัสชั่วสัมผัสงามในความคิด
บ้างวิจิตรบ้างโสมมผสมพา
ในบางอย่างบางอยากอันหลากล้น
หรืออาจทนตัวสั่นด้วยตัณหา
ในบางสุขบางสิ่งแอบอิงมา
หรือทอดทิ้งด้วยชีวาปลดปล่อยวาง
จักเอาแก่นเอาเปลือกเลือกกระพี้
เหลียวหันมองวิถีอันเหินห่าง
ทุกสิ่งยังแจ่มเพริดบรรเจิดทาง
รอยทำสร้างบ่งชี้หนที่เดิน
เจ้าอาจเปรียวด้วยเรี่ยวแรงแห่งวัยหนุ่ม
หวังเททุ่มอันใดให้สรรเสริญ
เจ้าอาจหลงวัยวันอันเพลิดเพลิน
แต่งฝันวาดขาดเกินด้วยหัวใจ
( ๓ )
โลกมิอาจบอกกล่าว
บางเรื่องราวเร้นรู้สู่หนไหน
ความรู้สึกลึกเร้นเห็นภายใน
ลึกลึกหยั่งลงไปย่อมคุ้นชิน
โดยเรี่ยวแรงแสวงหา
ไปกับกาลเวลาอันบ้าบิ่น
ฉกรรจ์วัยเจ้าเผ่นโผยดั่งโบยบิน
ไปในทุกแดนดินแห่งความฝัน
ด้วยปรารถนาแห่งใจปอง
ในถ้วนทุกครรลองหรือไหวหวั่น
มิว่าจะสูงสุดหรือสามัญ
มุ่งโดยแรงประจัญผจญพบ
จนสุดเรี่ยวสุดแรงแห่งวัยหนุ่ม
ข้าซุกตัวอยู่ในมุมอันสงบ
บรรยายสรรพสิ่งอันเร้ารบ
ก่อนสิ้นจบความฝันวันเวลา
แลเฝ้ารอว่าวันหนึ่ง
เจ้าคงจะมาถึงสิ่งที่ค้นหา
ทิ้งเบื้องหลังรอยสุขโศกโชคชะตา
บอกเจ้าเหยียบย่ำมันมาหมดสิ้นแล้ว
-------------------
โดยคำ ลานเทวา