24 กุมภาพันธ์ 2551 12:40 น.
ลานเทวา
อยากพักเหนื่อย เต็มที แล้วนะลูก
ที่เคยสร้าง เคยปลูก มานานเนิ่น
ในยามนี้ หมดแรงฝืน จะยืนเดิน
ชราเกิน จะหาผัก หรือหักฟืน
ยังแต่ความ ท้อแท้ เหมือนแพ้พ่าย
ลูกหลานหาย จากไกล ไปเป็นอื่น
เฝ้ารอวัน พันผูก ลูกกลับคืน
มาหยิบยื่น หยูกยา รักษาใจ
เฝ้ารอคอย นานปี ที่เจ้าจาก
แม่ลำบาก กว่าเก่า เจ้ารู้ไหม
ตาฝ้าฟาง แรงถอยถด ทั้งหมดใจ
เพราะลูกหลาน ทิ้งไป ไม่มาแล
ทิ้งถิ่นฐาน บ้านนอก ทิ้งคอกเก่า
ทิ้งผู้เฒ่า จากไป ไม่แยแส
หลงเมืองฟ้า บ้าความฝัน ที่ผันแปร
ทิ้งคนแก่ คนเก่า ให้เฝ้าคอย
มิไยดี หนีลับ ไม่กลับหวน
ให้ผู้เฒ่า ร่ำครวญ ใจเหงาหงอย
นั่งพิงเสา มองฟ้า ตาเลื่อนลอย
หวังใจคอย ลูกหลานมา ทุกนาที
หากล้มหาย ตายไป ในวันหนึ่ง
จะหาใคร คิดถึง มาเผาผี
พวกเขาอยู่ แห่งไหน ไม่รู้ซี
ตั้งหลายปี ไม่เห็นกลับ เหมือนลับลา
--------------------------ลานเทวา----------------------------
24 กุมภาพันธ์ 2551 12:34 น.
ลานเทวา
โดยนิรนามแห่งบุหงา
นิยามค่าในกลิ่นถวิลไหว
นิรมิตฝันชื่นมาคืนใจ
นิรมลยลในงามสคราญ
ใช่เพียงมาพานพบ
ฤาสยบกลิ่นซึ้งอันตรึงซ่าน
ไหวเอยไหวล่วงจากห้วงกาล
ไหวด้วยหวานคนึงรำพึงครวญ
ข้าเฝ้าเก็บดอกน้ำตา
ยามสายลมพรมพาไห้หวน
ร่ำเถอะร่ำหาฝันรัญจวน
ก่อนสายลมจักเรรวนผันแปร
ด้วยปีกแห่งข้า
จะโอบอุ้มรักมาคอยเผื่อแผ่
หวังงามเจ้าผู้เฝ้าดูแล
ถนอมด้วยความรักแท้อย่างจริงใจ
ด้วยรัก...แด่เจ้าบุหงา
โดยคำมั่นแห่งภูผาอันยิ่งใหญ่
วันนี้ยังมีหวังรั้งหทัย
พร้อมกุมมือเจ้าไปด้วยกัน
------------------------------------
ลานเทวา
23 กุมภาพันธ์ 2551 13:45 น.
ลานเทวา
คือกูผู้บ่มใช้................................แรงงาน
แรงซึ่งประกอบการ......................ก่อสร้าง
หนักเบาบ่เว้นวาน...............นายเอ่ย ลงลุย
สืบแต่โชคแลร้าง..............ต่ำสิ้น มรรคา ฯ
คือกูผู้ไม่แพ้....................................ชะตา
กร้านก่อตามแรงพา.........................ค่ำเช้า
โดยกายแกร่งบั่นมา..............เนิ่นอยู่ ในทาง
ใจบ่เรื้อแรงเร้า.............แต่งแต้ม ดงแดน ฯ
คือกูผู้ต่ำต้อย............ ...............เพียงดิน
หยาดเหงื่อหลั่งโลมริน...................อ่อนล้า
ทุกหนแห่งทำกิน..................เป็นอยู่ ระกำ
ขันแข่งโดยแรงค้า.........ขื่นแค้น ในทรวง ฯ
แรงคนยลผ่านพ้อง....................แรงควาย
เหนื่อยค่าประทังตาย..................หยั่งน้อย
ทำจนอ่อนใจกาย.........ถอยแกร่ง บางครา
หากแต่ชีพมิคล้อย...............บ่งสู้ ต่อไป ฯ
------------------------------------------
โดยคำ ลานเทวา
รองชนะเลิศ อันดับ 1
Content of the Year 2007
23 กุมภาพันธ์ 2551 12:26 น.
ลานเทวา
เฉิดฉันจันทราฉาย
พร่างผ่องพรรณรายจินตนาการฝัน
ห่มเมฆาอาภรณ์จรจรัล
ดุ่มด้นดั้นสู่ถนนดวงดาว
ถือคัมภีร์อิสระปลอบปลุก
เหยียบย่ำยุคแห่งห้วงหุบหาว
น้ำค้างระยิบระยับวับวาว
ดื่มด่ำราวหยาดทิพย์เมรัย
เก็บดวงดาวไสวใส่ย่าม
กอบแสงจันทร์งามนวลผ่องใส
มาฝากชนผู้อ้างว้างบนทางไกล
แทนหัวใจอาทรยามรอนร้าว
ก่อนรุ่งแสงแห่งตะวัน
จะพรากฝันลับเหินเกินกล่าว
เก็บเอาไว้เถอะนะเรื่องราว
ในคืนเหน็บหนาวอันเอกา
แม้นจะอยู่กันคนละฟาก
ได้แต่มอบฝันฝากให้ห่วงหา
รติกาลผ่านไหวในนิทรา
ฉันจะกลับคืนมาพร้อมความรัก
..
โดยคำ ลานเทวา
22 กุมภาพันธ์ 2551 14:14 น.
ลานเทวา
เด่นเดือนดวงช่วงโชติวิโรจน์นภ
ซึ้งตาสบแววซึ้งคะนึงขวัญ
แผ่วสายลมโชยแฝงท่ามแสงจันทร์
ร้อยรำพันรักร้อยถ้อยสำเนียง
หวีดหวิวห้วงล่วงคืนระรื่นค่ำ
กระซิบย้ำจำนรรจ์กระสันต์เสียง
อิงไอซบอบอุ่นละมุนเคียง
โฉมเจรียงกล่อมเพลงบรรเลงกานท์
ระเรื่อปรางผ่องยวนในนวลแสง
สะอางแฝงรักก่อพะนอสาน
สดับทรวงห้วงถวิลมิสิ้นกาล
เยาวมาลย์หนุนตักพักอารมณ์
กล่อมเอย จักกล่อมจิต
กล่อมให้รักสถิตในสุขสม
ท่ามแสงจันทร์แจ่มชื่นระรื่นชม
ดิ่งใจจมห้วงสวาทพิลาสเร้า
แก้มขวาเจ้าหลบเอียงบ่งเสียงสั่ง
ให้พ่อแม่หอมแต่หลังครั้งก่อนเก่า
แก้มซ้ายนุชรักษามาเนิ่นเนา
มอบให้พี่หอมเบาเบานะคืนนี้
----------------------------------
ลานเทวา