3 เมษายน 2550 23:42 น.
ลานเทวา
รุ่งเจิดแจ้งแสงฝันตะวันฉาย
แผ่วพระพายพรมพร่างกลางลานเหงา
ลมชีวิตสุดท้ายหรือหมายเดา
เพียงรูปเงาปรากฏบังบดนัย
หลงมานานมิใช่หรือที่ถือมั่น
ทั้งความฝันความจริงสิ่งที่ใฝ่
ถามถึงลมสุดท้ายจักหมายใด
ตอบหัวใจโง่เขลาของเจ้าซะ
-
ลานเทวา
3 เมษายน 2550 09:13 น.
ลานเทวา
รัตติกาลผ่านล่วง ณ ห้วงฝัน
ริ้วเงาจันทร์ทาบสะท้อนอย่างอ่อนไหว
วาบตะเกียงส่องค่ำแสงรำไร
สายลมไกวความเหงาเคลื่อนเข้ามา
เงาบังเธอไว้ในมุมเหมือนอุ้มสม
หอมน้ำปรุงพร่างพรมในปรารถนา
ค่ำคืนเหงาเดียวดายชายเอกา
เข้าเจรจาตกลงก่อนปลงใจ
ต่างจูงมือกันไปเหมือนใจสุข
เธอซ่อนทุกข์ในมารยาแสร้งสาไถย
ระรื่นแย้มรอยยิ้มเหมือนอิ่มใน
ห้วงหทัยกลับช้ำระกำนัก
กี่ร่างชายก่ายกอดเพ้อพรอดพร่ำ
กี่คืนค่ำเลยล่วงคนตวงตัก
กี่ระทมตรมย้อนเกินผ่อนพัก
กี่คนทักราคาตีค่าตัว
รัตติกาลผ่านล่วง ณ ห้วงฝัน
หม่นแสงจันทร์ไร้ชื่นคืนสลัว
สิ้นแรงฝันกับครรลองอันหมองมัว
จำใจชั่วร่ำไปในชีวิต
-
ลานเทวา