28 มีนาคม 2550 20:09 น.
ลานเทวา
เคียวคมคาวสาวเอ๋ย
ใช่เสวยสุขสวัสดิ์ดัดจริต
น้ำไม่มีข้าวต้นหงอยฝนน้อยนิด
จึงชีวิตจำพรากจากท้องนา
สู่เมืองฟ้ากับนาผืนน้อย
เอาแป้งฉาบรอยของสาวบ้านป่า
แต้มปากแดง..แต่งทรงโสภา
วาดคิ้วเขียนตา.แลงามนัก
เคียวคมคาวสาวเอย
นาที่เคยหว่านไถใช้แรงหนัก
มิอาจสู้มารยาทำน่ารัก
เสี่ยก็ควักเงินทองมากองให้
สบายกว่ากันเยอะ
เนื้อตัวไม่เปรอะ..หน้าก็ผ่องใส
ทำนาเหนื่อยหนัก..ดักดานร่ำไป
ยังยากยังไร้.หนี้อ่วมท่วมนา
เคียวคมคาวสาวเอย
แรงเจ้าเคยสร้างฝันสู้ฟันฝ่า
พลิกผืนดินไถหว่านเนิ่นนานมา
ครั้งปู่ย่าเผ่าพันธุ์บรรพชน
บัดนี้ห่างหน.คนหนุ่มสาว
เคียวคมคาว.เขาแคลนแค้นข่น
คนกับควายทำนา.ประสาคน
บัดนี้ยล.ทุ่งร้างอ้างว้างใจ
-
ลานเทวา
26 มีนาคม 2550 23:06 น.
ลานเทวา
รำพันพจน์บทพร่ำลำนำเพ้อ
หวังเพียงเธอผ่านมาพบประสบสาส์น
ความรู้สึกแห่งอักษรเพลงกลอนกานท์
ที่จดจารมอบไว้แทนใจรัก
จารึกถ้อยริมทะเลคลื่นเห่กล่อม
หน้ากระท่อมที่พักกายชายอกหัก
เขียนด้วยความเปลี่ยวเปล่าเหงาใจนัก
ทำใจพักความเศร้าเคล้าคลื่นลม
ยอดสนเอนระเนนไหวในกระแส
ความผันแปรเวียนวนทุกข์แลสุขสม
รักเอยรักไยหักคว้างกลางระทม
ตรึงใจตรมจนบอบช้ำน้ำตาริน
เสียงคลื่นซบกลบฝั่งดังสะท้อน
เสียงใจย้อนย้ำครวญหวนถวิล
ฟังแว่วว่ายังห่วงหาอยู่อาจิณ
รักไม่สิ้นจากรักที่ปักใจ
ลำนำเพ้อละเมอพร่ำรำพันพจน์
เป็นถ้อยบทแทนน้ำตาใช่สาไถย
หวังเพียงเธอผ่านมาสบก่อนลบไป
ก็สุขในถ้อยคำของน้ำตา
------------------------
ลานเทวา
ฝากมอบแด่สาวๆทั้งโลกที่ผมรัก
26 มีนาคม 2550 22:52 น.
ลานเทวา
เพียงพลาดพลั้งก็ยังหมาย
หวังใช่หายเลือนลับไปกับฝัน
ยังมีลมหายใจในคืนวัน
เข้าใจกันบ้างไหมในชีวิต
ใช่อยากเป็นอยู่เช่นนี้
ไยจึงตีค่าประณามเหมือนความผิด
อยากจะยืดเวลาฝันอันน้อยนิด
วาดลิขิตสิ่งหมายมุ่งจรุงใจ
แต่เหมือนโลกไร้ที่ว่างให้ร่างฉัน
สิ่งที่ฝันก็ห่างเหินจนเกินใฝ่
ปลายชีวิตสั้นสั้นจะฝันใด
กลืนลงไปจนสุดกล้ำแล้วน้ำตา
บนเตียงเก่าเหงาเปลี่ยวเดียวดายนัก
เหมือนโลกผลักฉันจนไกลในคุณค่า
เหมือนชีวิตจิตใจไร้ราคา
เฝ้ารอเพียงความตายมาพาฉันไป
ลานเทวา
21 มีนาคม 2550 21:14 น.
ลานเทวา
สิ้นแรงลมที่พรมพร่างกระจ่างนภ
เรือสยบคาตลิ่งหลังพิงฝา
สายน้ำหลากเจิ่งนองเต็มท้องนา
เจ้าขวัญตายังหลับพริ้มเหมือนอิ่มใจ
21 มีนาคม 2550 09:59 น.
ลานเทวา
อย่าคบหาคนชั่ว
อย่าเมามัวอบายมุข
อย่าหลงแต่สุข
อย่าสนุกจนลืมตัว
--------------------
พ่อเคยสอนย้อนคำมาย้ำคิด
แลชีวิตที่ผ่านพ้นบนวิถี
เคยประสบครบถ้วนทั่วในชั่วดี
พาชีวีล้มลุกคลุกเคล้าไป
ที่ทุกข์ยากลำบากหนทนสร้างสู้
ที่สบายความเป็นอยู่มิหลงไหล
ที่พบพานถึงกาลพรากจำจากไกล
ที่สุขใจหรืออาจคิดยึดติดมัน
แลวัยวันหมุนเปลี่ยนใจเวียนว่าย
ไปตามสายกระแสอันแปรผัน
หลากเรื่องราวชีวาสารพัน
หาใดมั่นในทุกข์สุขที่รุกใจ
จนถึงวันปล่อยวางในที่สุด
ที่เคยยื้อเคยยุดเอาไปไหน
แลคนตายไม่เห็นเขาเอาอะไร
คนเป็นไยคิดครุ่นจนวุ่นเกิน
------------------
ลานทวา