3 มีนาคม 2551 16:16 น.
ลานเทวา
จักทอภาพฝันอันภิรมณ์รื่น
ด้วยมวลมาลีชวยชื่นขจรกลิ่น
วาดความงามทุกแห่งหนไร้มลทิน
โอบอุ่นไอทาบแดนดินด้วยความรัก
แม้นจักเป็นเพียงแค่ความฝัน
คราวคืนวันเศร้าโศกวิโยคหนัก
ไร้ความสุขจากความจริงให้พิงพัก
ก็ชื่นนักแล้วฝันเพื่อบรรเทา
แม้นจะไร้อุ่นไอใดเสกสรรค์
ขออิงอุ่นแห่งตะวันพอคลายเหงา
ความเดียวดายชีวีใช่มีเพียงเรา
ยังมีคนโศกเศร้ามากมายในโลกนี้
จงคุ้นเคยกับความเอกาว้าเหว่
เอาความฝันกล่อมเห่หนวิถี
แม้นจะไร้ในสิ่งที่คนอื่นเค้ามี
มิใช่เหตุจะท้อชีวีหรือปวดช้ำ
เธออาจจะมีฝันที่บรรเจิด
แลเป็นเลิศให้ปลื้มใจดื่มด่ำ
หากเธอรู้จักคิดวาดคาดนำ
ลงมือทำให้ปรากฏในความจริง
ภาพฝันอันภิรมณ์รื่น
เธอสามารถหยิบยื่นในทุกสิ่ง
ท่ามกลางแสงแห่งตะวันอันอุ่นอิง
ยังมีรักให้พักพิงยามรอนร้าว
-------------------------
ลานเทวา
2 มีนาคม 2551 23:57 น.
ลานเทวา
ตะบิดตะบอยคอยใครเล่าในฝัน
ตะบี้ตะบันเร่งใดในหน
ตะปัดตะป่องใดความยามยล
สะบัดสะบิ้งกลิ้งกลแลงามนัก
ข้าตะเกียกตะกายหมายพ้นในมนต์พิศ
ตะครั้นตะครอในจิตตะกุกตะกัก
ตะกรุมตะกรามลามรนวนแต่พักตร์
ตะลีตะลานโดยรักมิเว้นวาง
กระเสือกกระสนทำกินเก็บสินสอด
กะหร็อมกะแหร็มในยอดอันทำสร้าง
กระเบียดกระเสียรร่ำไปในทาง
กระวนกระวายมิจางเลยหัวใจ
กระเหม็ดกระแหม่อดออมถนอมสรรค์
กะปลกกะเปลี้ยจิตฝันแสนหวั่นไหว
มันสะบักสะบอมตรอมหทัย
กลัวเจ้าสะบัดสะบิ้งทิ้งไปให้ผันแปร
สะโอดสะองทรงงามในยามเยื้อง
ประทังประเทืองอยู่ในใจข้าแท้
อย่าสะอิดสะเอียนเลยหนายามตาแล
กะบึงกะบอนงอนแค่พอยลงาม
---------------------------
ลานเทวา
28 กุมภาพันธ์ 2551 20:53 น.
ลานเทวา
ละครลิงลิงเล่นเป็นตามเรื่อง
คนฝึกลิงจนลิงเชื่องออกมาเล่น
คนฝึกคนยลใจไยยากเย็น
ฝึกให้เป็นกลับไม่รู้หนอผู้คน
ลิงแสดงแต่งองค์งามทรงเครื่อง
แลปราดเปรื่องตามยะถาของหน้าขน
ต่างมนุษย์เพียงปัญญาเป็นค่ายล
แต่กมลหรือหยั่งถึงลึกซึ้งนัก
ละครลิงอิงธรรมย้ำเตือนจิต
แลชีวิตซึ้งใจใดตระหนัก
ยังวนอยู่แต่โลภหลงพะวงรัก
ย้ำโกธาหน้ายักมิเว้นวัน
ลิงแสดงจบทุกสิ่งลิงก้อหลับ
มิเคยซับใดมาคาใจฝัน
คนแสดงบทบาทอนาถพลัน
สวมตะบันในเครื่องทรงองค์แสดง
----------------------------------------------------------
ลานเทวา
27 กุมภาพันธ์ 2551 14:25 น.
ลานเทวา
พันธนาการแห่งหวัง.....รั้งเหนี่ยว
ตรึงใจข้ากับโค้งเรียว....บุหลัน
วาบหวานไหวชื่น..........ณ คืนวัน
เสกถ้อยรำพัน.......รักร้อย
มาเถิด..........สูเจ้า
มาจากความโศกเศร้า..........เหงาหงอย
เสพท่วงทำนอง..............ล่องลอย
สู้โลกอันพร่างพร้อย............กวีกานท์
ทิพย์ถ้อยลำนำ.............ฉ่ำชื่น
รอสูเจ้ามาเริงรื่น................ซึ้งซ่าน
โดยอักษราศุภฤกษ์...............เบิกบาน
สุขล้ำสำราญ.............เถิดชีวิต
หม่นโศกวิโยคใด...............ในหล้า
ประดับด้วยน้ำตา..........ตรึงจิต
จงสิ้นดับด้วยมนต์..........นิรมิต
สร้างสุขเสกสถิต..........ทุกดงแดน
ปรารถนาทอรัก..........แทนค่า
มอบแด่สรรพชีวา...........หมื่นแสน
กอบฝันจรุงเรือง............ณ เมืองแมน
มอบแด่ผู้ขาดแคลน...........ในชีวิต
--------------------
ลานเทวา