5 เมษายน 2551 12:40 น.

... เรี่ยวแรง แห่ง วัยหนุ่ม ..... !

ลานเทวา

( ๑ ) 

เจ้าอาจเปรียวโดยเรี่ยวแรงแห่งวัยหนุ่ม

แลกระชุ่มกระชวยด้วยแรงใฝ่

เจ้าอาจเหลิงทระนงหลงวันวัย

ฉกชิงเชี่ยวเปลี่ยวในเชิงฉกรรจ์

 


ผิสิ้นกาลสิ้นฝันวันมอดเชื้อ

เรี่ยวแรงใดสิเหลือมาเสกสรรค์

ความหักเหสารเพสารพัน

แปรเปลี่ยนกันมิเว้นว่างบนทางใจ

 





มันเปล่าดายคล้ายชีวินจะสิ้นค่า

กาลเวลาพิสูจณ์เห็นเป็นไฉน

ก็แค่ผ่านมาเยือนแล้วเลือนไป

หวังสิ่งใดแจ่มชัดในอัตตา

 

 


( ๒ )

นัยยะแห่งบริบท

ร่ายปรากฏในแรงแสวงหา

จากหนึ่งผู้ต้อยต่ำธรรมดา

เสกสรรค์หนมรรคาโดยชีวิต

 


ในครึ่งทางครึ่งคนอันวนย่ำ

ผ่านสูงต่ำร้อนเย็นเห็นถูกผิด

สัมผัสชั่วสัมผัสงามในความคิด

บ้างวิจิตรบ้างโสมมผสมพา

 


ในบางอย่างบางอยากอันหลากล้น

หรืออาจทนตัวสั่นด้วยตัณหา

ในบางสุขบางสิ่งแอบอิงมา

หรือทอดทิ้งด้วยชีวาปลดปล่อยวาง

 


จักเอาแก่นเอาเปลือกเลือกกระพี้

เหลียวหันมองวิถีอันเหินห่าง

ทุกสิ่งยังแจ่มเพริดบรรเจิดทาง

รอยทำสร้างบ่งชี้หนที่เดิน

 


เจ้าอาจเปรียวด้วยเรี่ยวแรงแห่งวัยหนุ่ม

หวังเททุ่มอันใดให้สรรเสริญ

เจ้าอาจหลงวัยวันอันเพลิดเพลิน

แต่งฝันวาดขาดเกินด้วยหัวใจ

 

 


( ๓ )

โลกมิอาจบอกกล่าว

บางเรื่องราวเร้นรู้สู่หนไหน

ความรู้สึกลึกเร้นเห็นภายใน

ลึกลึกหยั่งลงไปย่อมคุ้นชิน

 


โดยเรี่ยวแรงแสวงหา

ไปกับกาลเวลาอันบ้าบิ่น

ฉกรรจ์วัยเจ้าเผ่นโผยดั่งโบยบิน

ไปในทุกแดนดินแห่งความฝัน

 


ด้วยปรารถนาแห่งใจปอง

ในถ้วนทุกครรลองหรือไหวหวั่น

มิว่าจะสูงสุดหรือสามัญ

มุ่งโดยแรงประจัญผจญพบ

 


จนสุดเรี่ยวสุดแรงแห่งวัยหนุ่ม

ข้าซุกตัวอยู่ในมุมอันสงบ

บรรยายสรรพสิ่งอันเร้ารบ

ก่อนสิ้นจบความฝันวันเวลา

 


แลเฝ้ารอว่าวันหนึ่ง

เจ้าคงจะมาถึงสิ่งที่ค้นหา

ทิ้งเบื้องหลังรอยสุขโศกโชคชะตา

บอกเจ้าเหยียบย่ำมันมาหมดสิ้นแล้ว

 


-------------------

โดยคำ  ลานเทวา				
31 มีนาคม 2551 17:30 น.

.... น ร ก .... !!!!!!

ลานเทวา

ไม่มีใครเห็นใครใสพิสุทธิ์

ในยุคที่มนุษย์ต่างไขว่คว้า

ไม่มีใครไหนพร้อมยอมลดลา

ต่างบีฑาเผ่นโผยโดยกำลัง




ไม่มีใครเห็นใครด้วยใจดอก

ในยุคที่การกลับกลอกนั้นเกินหยั่ง

ไม่มีใครไหนพร้อมจะยอมฟัง

อย่างจริงจังจริงใจในลำเค็ญ




จึงแลทรามมิพ้นทราม

ประหนึ่งความดียากจะฝากเห็น

ชอบธรรมใดไหนสร้างที่อ้างเป็น

ล้วนโดดเด่นความอุบาทว์สุดคาดคิด




ไม่มีมีใครเห็นใครดีงามดอก

ในยุคสมัยลวงหลอกดัดจริต

ไม่มีใครยอมใครในชีวิต

ศัตรูมิตรเหมือนกันแค่ผันแปร




ไม่มีใครมองใครบริสุทธิ์

จึงไม่มีใครผ่องผุดมาเผื่อแผ่

ไม่มีความจริงใจไหนเหลียวแล

โลกแท้แท้จึงเป็น ...... เช่นนรก !


--------------------

ลานเทวา				
31 มีนาคม 2551 17:21 น.

..... ร่องรอยแห่งสายลม ....

ลานเทวา

ดังร่องรอยแห่งสายลม

ที่พร่างพรมเหน็บหนาวอันร้าวไหว

ทิ้งร่องรอยแผ่วพลิ้วผ่านผิวใจ

ยะเยือกนั้นกำซาบในห้วงตราตรึง





มรรคา

อันเลยลาลับล่วงมาช่วงหนึ่ง

ฝากร่องรอยสุขไว้ในรำพึง

ฝากทุกข์ย้ำคำนึงอันปวดร้าว





บาดแผลในสำนึก

ระบมลึกเร้นใจเกินไหวกล่าว

ชีวิตต่างรู้กาลผ่านเรื่องราว

มิอาจเก็บร้อนหนาวที่พบพาน




ในรอยทางอันต่างมา

เราทิ้งซากฝากชีวากับเถ้าถ่าน

ดีชั่วใดสรรค์ในวันวาร

ทิ้งร่องรอยสันดานบ่งโลกไว้




--------------------

โดยคำ ลานเทวา				
30 มีนาคม 2551 21:38 น.

หมายดอกดาวดวงใดจะไขว่คว้า....!

ลานเทวา

159-3.jpg




หมายดอกดาวดวงใดจะไขว่คว้า

ยังแต่ดอกน้ำตาที่รินหล่น

รำพึงแห่งวิญญาณผู้รานรน

รำพันอย่างทุกข์ทนและโรยแรง



โศกสายธารน้ำตามิเคยเหือด

ท่ามกลิ่นคลุ้งคาวเลือดมิเคยแห้ง

สงครามยังกระทำและสำแดง

อย่างสิ้นแล้งน้ำใจไมตรี



สันติภาพ

มิเคยย้ำกำซาบในวิถี

ยังแต่ความรุนแรงแบ่งชั่วดี

กองศพซากชีวีนับแสนล้าน



ปรารถนาใดเล่า

ถามดวงตาโศกเศร้าอันสบผ่าน

สันติภาพสันติสุขสันติกาล

ดังพระเจ้ามิเคยจารแด่โลกไว้



มีแต่อาวุธอันมิชอบ

ให้คนมิสมประกอบมันยิงใส่

ทำลายโลกทำลายฝันจนบรรลัย

และทำร้ายทุกหัวใจของผู้คน



กี่ยุคสมัย

สงครามมิเคยสร้างโลกใหม่เลยสักหน

ยังแต่เติมความสิ้นหวังและกังวล

ยังแต่สร้างความทุกข์ทนให้แดนดิน



------------------

ลานเทวา



us_mideast_gaza.jpg				
30 มีนาคม 2551 21:31 น.

ความรัก .ตรงเส้นขอบฟ้า ....

ลานเทวา

ดั่งริ้วแพรไหวพร่างอยู่กลางสรวง

สไบดาวห่มดวงระยับสี

รติกาลแห่งฝันอันพึงมี

ประดับสุขเสรีแด่คืนวัน




สรรพสัตว์กำเนิดโดยความรัก

โลกทอถักความงามและความฝัน

สันติสุขดำรงคงนิรันดร์

รติกาลรำพันห้วงภิรมณ์




สายใยแห่งสรรพชีวิต

ทอความรักสถิตสร้างสุขสม

โลกขับเคลื่อนโดยธรรมนำนิยม

รักเพาะบ่มสรรพชีวาเอื้ออาทร




ในอ้อมอุ่นแห่งไมตรี

โลกเสรีกล่อมใจอันไหวอ่อน

มีน้ำจิตมิตรปันผู้สัญจร

ปลอบปลุกใจร้าวรอนด้วยความรัก




ในโลกที่แบ่งสรรค์

ค่ำคืนแห่งสัมพันธ์จะทอถัก

มอบน้ำใสใจจริงให้พิงพัก

โดยความหมายที่ทายทักด้วยหัวใจ




สุขกระไรที่ไหนเล่า

จักเทียมเท่าน้ำจิตอันคิดให้

กรุณาปรานีอยู่ที่ใด

อบอุ่นในชีวาทุกนาที



-------------------

โดยคำ ลานเทวา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลานเทวา