25 กรกฎาคม 2551 08:09 น.
ลานเทวา
กี่ครั้งหนวนว่ายตายแล้วเกิด
กี่กำเนิดในหนวนยะถา
กี่ศพซากชีวีกี่น้ำตา
ต้องผันผ่านกี่เพลาจึงรู้รัก
กี่อำนาจบาตรใหญ่ใช้อำนาจ
กี่คนโง่คนฉลาดได้รู้จัก
กี่ความเป็นความตายมาทายทัก
อีกกี่ศพจึงจะพักสงบใจ
กี่บทเรียนไม่เคยย้ำความสำนึก
กี่หนศึกความเขลาอันเผาไหม้
กี่ครั้งแล้วที่พี่น้องเหล่าผองไทย
ต้องฆ่ากันเพื่อใครก็ไม่รู้.... ?
กี่รอยเลือดความจริงทิ้งเป็นคราบ
กี่รอยบาปจารึกเห็นความเป็นอยู่
กี่อำนาจทรามเทิดการเชิดชู
กี่ชั่วครูผิดเห็นไม่เป็นธรรม
กี่น้ำตาโศกเศร้ากี่เถ้าถ่าน
แลอีกกี่ตำนานจะตอกย้ำ
กี่ศพไทยฆ่าไทยใคร่ก่อกรรม
จึงจะล่วงพ้นระยำการเมืองไทย
ยังแต่เสียงสดุดีแห่งปีศาจ
ผู้เริงทรามอำนาจความยิ่งใหญ่
ยังแต่ความผยองลำพองใจ
อยู่กับความบรรลัยของบ้านเมือง
..................
โดยคำ ลานเทวา
23 กรกฎาคม 2551 16:21 น.
ลานเทวา
สวยสดงดงามคือความตาย
จินตนาการสุดท้ายแห่งอักษร
โลกจะจารบทร่ำคำอาวรณ์
ฝากกุศลใดจรนำพาไป
สู่วิเวกกระยาหงัน
เสวยสุขนิรันดร์ ณ ภพไหน
หากที่นั่นมีโทรฯทางไกล
โปรดช่วยส่งข่าวหัวใจบทกวี
แลว่าเวิ้งใดจะไปสู่
สุขใจกว่าอดสูโลกใบนี้
วานช่วยเมตตาตัวข้าที
พรากเอาไปเถอะชีวีอันบัดซบ
แม้นเหลือแต่วิญญาณ
ข้าจะร่ายกลอนกานท์กล่อมซากศพ
วรรณกรรมความตายสัมปรายภพ
ถ่ายทอดคำมิรู้จบจินตนา
มาเถิดวิญญาณเสรี
สู่บทนิพนธ์กวีอันไร้ค่า
จะขับเห่เล่ห์ย้อมกล่อมมายา
สดุดีเมธาแห่งธุลี
ด้วยหยาดน้ำตาและสายเลือด
อันมิเคยแห้งเหือดจากวิถี
ข้าจะเคี่ยวแทนหมึกตรึกวจี
เขียนกวีแผ่วโผยอยู่โดยใจ
แม้นจะสิ้นวิญญาณสุดท้าย
เจตสิกมะลายสู่ภพใหม่
โดยคำข้าจะแจ้งทุกแห่งไป
เยี่ยงทาสผู้รับใช้ถ้อยกวี
...........................
โดยคำ ลานเทวา
21 กรกฎาคม 2551 12:28 น.
ลานเทวา
พ่อจ๋า .. แม่ไปไหน ?
แลทำไมมีแต่พ่อลูกพ้อหา
กี่หนครั้งหลับตื่นสะอื้นมา
เหม่อไม่เห็นมารดาเหมือนดั่งใคร
ลูกเอย .. ว่าลูกรัก !
แผ่วสายลมทายทักดอกไม้ไหว
โลกยังมีความพลัดพรากจากกันไกล
สักวันลูกจะเข้าใจการจากลา
แม่เจ้า อยู่ที่ดาวดวงนั้น ....
ยามหลับฝันเจ้าจงวาดปรารถนา
อธิษฐานเอาเถิดเจ้าลูกยา
ยามพริ้มหลับนัยน์ตาจักอุ่นไอ
แม่เจ้าจะโอบกอด ...
ด้วยอุ่นอ้อมอยู่ตลอดมิไปไหน
ทุกยามที่เจ้าหลับตาฝันหาใด
แม่จะอยู่เคียงใจนิจนิรันดร์
แม้นราตรีจะเลยล่วง
แม่ยังห่วงยังเฝ้าเจ้าจอมขวัญ
ในทุกยามเวลาทิวาวัน
ผีเสื้องามตัวนั้นจะโบยบิน
ลูกเอย วันที่โลกสดใส ...
งามดวงดอกพฤกษ์ไพรขจรกลิ่น
รัญจวนแห่งพฤกษาระรวยริน
แผ่วเพลงพิณสายลมจะพรมไกว
แม่เจ้าจักโบยบินคืนถิ่นรัก
มาทายทักมวลมาลีที่สดใส
นั่นไงลูกผีเสื้อตัวนั้นไง
งามปีกบางกางไกวอ่อนหวานนัก
ลูกเอย เจ้าดั่งดวงดอกไม้ ...
ผลิบานกลีบสดใสโลกประจักษ์
แม่จะมาพร้อมปีกงามแห่งความรัก
ให้เจ้าอุ่นหนุนตักหลับฝันดี
พ่อจ๋า ! ผีเสื้อตัวนั้นบินมาอีกแล้ว...
ตาใสแป๋วจ้องมาหาหนูนี่
เหมือนแววตาของใครดูในที
พ่อจ๋า พ่อดูซี แม่บินมาอีกแล้ว ... !
...................
โดยคำ ลานเทวา
โลกเอย บางครั้งความเงียบ และน้ำตา ก็คือคำตอบดีๆ นี่เอง
29 มิถุนายน 2551 01:42 น.
ลานเทวา
ลืมตาเถิดความรัก
แย้มทายทักโลกงามในนามหวัง
สยายปีกแกร่งกล้าฝ่าชิงชัง
โอบอุ่นประทังวิญญาณเสรี
แม้นลึกลับแห่งความทุกข์ทน
ประทับหนมรรคาล้าวิถี
เถอะ จงเติมน้ำใจมิตรไมตรี
ปลอบโยนฝันธุลีฝุ่นมายา
บทเพลงแห่งกาลอันผ่านล่วง
จะกล่อมห้วงทะเลดาวยามพราวฟ้า
ขับเห่ความบอบช้ำซับน้ำตา
จากตะกอนกาลเวลาอันเฉยเมย
ลืมตาเถิดความรัก
แย้มทายทักความอ้างว้างอย่างเปิดเผย
สยายปีกอบอุ่นอย่างคุ้นเคย
ก่อนจะเลยลับผ่านกาลเวลา
เก็บเอาไว้ในร่องรอยอันอบอุ่น
มอบละมุนโลกอนาถอนาถา
เพื่อย้ำเตือนความฝันและมรรคา
ในนามกรุณาแห่งความรัก
........................
โดยคำ ลานเทวา
27 มิถุนายน 2551 20:06 น.
ลานเทวา
ดื่มเอย จะดื่มด่ำหยาดน้ำค้าง
อยู่ท่ามกลางดาวดวงห้วงวิถี
ประโคมคำกล่อมฟ้าขับราตรี
พาฝันหนึ่งจรลีสู่นิรันดร์
โลมระรื่นภิรมย์เร้ารัญจวน
โลกดื่มด่ำลำนำชวนละมุนฝัน
พิไรร้อยถ้อยพร่ำเพ้อรำพัน
ปลอบเสี้ยวจันทร์ราตรีดิถีจร
จะว่ายเวิ้งมรรคานิราศรัย
กอบดาวดวงละไมหนุนต่างหมอน
คลี่ฟ้าห่มแสงเดือนต่างเรือนนอน
หลับสู่ฝันอาทรชื่นจินตนา
ร่ายคำเย้ยสายลมที่พรมผ่าน
กล่อมวิมานราตรีที่โหยหา
สดับปลื้มดื่มด่ำการนำพา
อบอุ่นแสงจันทราวิเวกเงา
ร้างแล้วเรือนอาวรณ์สะท้อนจิต
สิ้นแล้วหนอชีวิตในหนเก่า
ค้นเบื้องหน้าหาฝันมาบรรเทา
ทิ้งพะวงหลงมัวเมาเพียงร่องรอย
......................
โดยคำ ลานเทวา