20 กุมภาพันธ์ 2552 10:46 น.
ลานเทวา
เราเพียงผ่านการมาพึ่งอาศัย
สรรพสิ่งอันเป็นไปผลิตผล
โลกหยิบยื่นคืนวันสามัญชน
เสพสิ้นสุขทุกข์ทนธรรมดา
เราท่านต่างงดงามความรู้สึก
จากวันวัยใสผลึกสื่อภาษา
เก็บเกี่ยวโลกเนิ่นนานกาลเวลา
ผิดชอบเห็นเป็นมรรคาอันแสดง
ฟ้าโอบอ้อมอาทรสรรพสิ่ง
ดินโอบอุ้มการพักพิงทุกหนแห่ง
ชีวิตเราผ่านเวียนการเปลี่ยนแปลง
สรรพธรรมย้ำแจงอยู่เช่นนั้น
เข้าใจ เถิดชีวิต
บนความจริงความคิดใช่ความฝัน
เราต่างแบกความเขลาไว้เท่ากัน
บนยะถาโลกยืนยันอวิชชา
สวยสดงดงาม คือความตาย
สุขโศกอันงมงายบนใบหน้า
บางรอยยิ้มบอบช้ำบางน้ำตา
เพียงผ่านเล่าธรรมดา ชีวิต
.
โดยคำ ลานเทวา
19 กุมภาพันธ์ 2552 17:38 น.
ลานเทวา
หรือมาจากการศึกษาที่ล้มเหลว
ถามความใคร่ใครเลวสำมะหา
จากต่างวัยต่างฝันวันเวลา
สุดท้ายมาลงเอยอย่างเคยตัว
หรือมาจากความเป็นคนที่ล้มเหลว
ความใคร่บ้าห่าเหวไม่เลือกหัว
จนที่สุดของเขาความเมามัว
ไม่เกรงกลัวเกรงใจกระไรนัก
หรือมาจากยุคสมัยที่ล้มเหลว
สังคมทรามลามเลวจนไร้หลัก
ถามผิดชอบใดหมายมาทายทัก
เรากลับไม่รู้จักแล้วชั่วดี
หรือมาจากธรรมะที่ล้มเหลว
อธรรมทรามห่าเหวจึงข่มขี่
จนสุดท้ายหนมรรคาประดามี
ก็ทรามเสื่อมจนชีวี นั้นเสื่อมทราม
แต่ฉันว่า น่าจะความเป็นคนที่ล้มเหลว
ที่ไม่อาจแยกดีเลวใจข่มข้าม
และที่เขียนนี้ไม่ได้เขียนประณาม
แต่เขียนด้วยความ ที่คนมันล้มเหลว
โดยคำ ลานเทวา
SEX ครูกับศิษย์ พ่อกับลูก พระกับสีกา
เรายังต้องรับรู้ดูข่าวสารเช่นนั้น กันอีกเท่าไหร่ ?
19 กุมภาพันธ์ 2552 17:20 น.
ลานเทวา
ดั่งพลิ้วแพรไหวพร่างอยู่กลางห้วง
สไบดาวห่มดวงระยับสี
เมฆาเคลื่อนรอยผ่านม่านมณี
ทิพย์กวีแผ่วประโลมโฉมสะคราญ
หลับอยู่ห้วงดาวดวงใดใจดวงน้อย
ฟังเถิดถ้อยอาวรณ์อันอ่อนหวาน
ร่ายบรรเลงเพลงดิถีราตรีกาล
ขับกล่อมเจ้าเยาวมาลย์ สุดที่รัก
สุขคติแห่งหนใดที่ไหนเล่า
พอดับเศร้าในทรวงอันหน่วงหนัก
จะเปลื้องกรรมน้ำตาสามิภักดิ์
ปลอบโยนการทายทัก ของหัวใจ
งามช้องนาง ผมแม่แลช่างม้วน
เคล้ารัญจวนกลิ่นจำปาคราลมไหว
ประทับซึ้งเสน่หาหวนอาลัย
ยามจากไกลห้วงถวิลร้าววิญญาณ์
เจ้าหลับอยู่ดาวดวงใดใจดวงนั้น
หรือหลับไหลในนิรันดร์ปรารถนา
ฝากรอยยิ้มที่อาบด้วยคราบน้ำตา
แทนถ้อยคำอำลา เธอผู้เป็นที่รัก
..
โดยคำ ลานเทวา
ในโอกาส ครบรอบสองปีที่เธอได้จากไป .... !!
18 กุมภาพันธ์ 2552 14:12 น.
ลานเทวา
โอ้ เดียงสาอันมืดบอด
เจ้าสวมกอดหัวใจดอกไม้หวาน
ผลิแย้มในรอยยิ้มอันพริ้มบาน
สู่สังเวยปรากฏการณ์วาเลนไทน์
เหมือนเข้าใจงดงามหนอความรัก
เหมือนรู้จักจริงจังแต่ครั้งไหน
เหมือนคุ้นชินถวิลวาดพิลาศใจ
เหมือนเหมือนความเป็นไปอันคุ้นชิน
เหมือนน้ำผึ้งฉาบทานัยน์ตาหวาน
ประทับห้วงรติกาลไม่รู้สิ้น
สื่อสัมพันธ์ในหนเปื้อนมลทิน
เพรียกโลกยินเสียงพร่ำถ้อยคำรัก
กุหลาบแดง เธอผู้ไร้เดียงสา
โลกตระการมารยาไม่รู้จัก
จะคว้าอุ่นใดอิงใจพิงพัก
กลีบก้านเจ้าทิ้งหักร่วงลงแล้ว
พรหมจรรย์ติดปีกไปซีกโลก
หนาวลมรักโบยโบกระโหยแผ่ว
หวานนัยน์ตาอันเคยมีไร้วี่แวว
โศกเจ้าหยาดใสแพรวชื้นนัยน์ตา
เหมือนเข้าใจงดงามหนอความรัก
เหมือนรู้จักสัมผัสใกล้ถึงใบหน้า
เหมือนคุ้นชินในกลิ่นคุ้นละมุนมา
เหมือนรสชาติประหลาดพา หัวใจรัก
โอ้เดียงสา อันมืดบอด
เจ้าสวมกอดหัวใจโลกไสผลัก
ในงดงามความหมายที่ทายทัก
ใคร่รู้จักรักเร้น วาเลนไทน์
โดยคำ ลานเทวา
18 กุมภาพันธ์ 2552 14:08 น.
ลานเทวา
งอกงามเถิดไมตรีวิถีมนุษย์
งามให้สุดหัวใจอันใสผ่อง
ให้ความรักบรรเลงเพลงครรลอง
สานสายใยปรองดองสันติกาล
ด้วยหัวใจอาทรดับร้อนรุ่ม
ชโลมชื่นคืนชุ่มใจประสาน
ประดับสุขศานติทิวาวาร
พ้นภัยพาลสิ้นเถื่อนในเงื่อนงำ
ไม่มีใครยินดีที่พลัดพราก
ในความโหดร้ายที่มอบฝากอยู่วันค่ำ
กลิ่นคาวเลือดศพซากใครอยากจำ
หยุดเถิดการกระทำอันผิดมนุษย์
ถามพระเจ้าองค์ใดคงไม่ปรารถนา
การประหารชีวาผู้บริสุทธิ์
พอเถิดการสำแดงแรงประทุษ
หยุดเถิดหยุด ความรุนแรง
แล้วจงฟังเสียงเราผู้เพรียกหา
สันสิสุขในมรรคาอันแสวง
จากคัมภีร์พระองค์ทรงแสดง
การเปลี่ยนแปลงโดยคืนวันสันติธรรม
เพื่อชีวิตได้ร้อนดับสรรพชีวิต
ด้วยน้ำมิตรน้ำใจอุปถัมภ์
ให้งดงามความดีได้ชี้นำ
จบเสียทีการก่อกรรมอันมุ่งร้าย
โดยคำ ลานเทวา