9 ธันวาคม 2552 00:36 น.
ลานเทวา
'' กล่อมดาว ''
สุขอยู่ใน วิมานอากาศ
เขียนภาพฝันประหลาด ให้อบอุ่น
จินตนาการผ่านพริ้ม ยิ้มละมุน
ประดับเป็นใบบุญ สร้างวิมาน
นับไม่สิ้นปรารถนา แห่งยาจก
ร่ายเพ้อพกลวงหน แล้วพ้นผ่าน
ร่ำโหยหาโบยบิน จินตนาการ
ประโลมใจดักดาน อยู่เดียวดาย
นอกหน้าต่าง ก็เหมือนเก่า
บรรยากาศบอกเล่า ไร้ความหมาย
ผิดแต่ในห้องหับ กลับผุดพราย
โดยสรรพอักษรเรียงราย จินตนา
นั่งอมยิ้ม กับความคิด
มโนภาพสารทิศ ปรารถนา
ล่องลอยไกล ไปกับกาลเวลา
โดดเดี่ยวโลกนำพา จนเข้าใจ
ฟังเถิด แผ่วเสียง น้ำค้างร่ำ
บทกวีร่ายคำ ประโลมไหว
กล่อมดึกโลกเคลื่อนยาม งามละไม
ฝากถึงคนที่ห่างไกล เถอะรับรู้
ว่าทุกท่วงความรัก แห่งอักษร
แทนทุกห้วงอาวรณ์ อันเกินสู่
รักยังคงรัก ทุกอณู
คืนนี้ฉันจะปิดประตู ขังความรัก
………………………………
โดยคำ ลานเทวา
19 ตุลาคม 2552 23:26 น.
ลานเทวา
ชื้นละอองฟ่องฟุ้ง โชยทุ่งฝัน
ปลุกหัวใจเงียบงัน ปรารถนา
ให้กำซาบปลาบปลื้ม เพียงลืมตา
อุ่นอ้อมกอดกาลเวลา งามละไม
หวานรอยยิ้มยังประทับ
ณ ค่ำคืนเดือนดับ สายลมไหว
หม่นดาวดวงล่วงฟ้า ดงพญาไฟ
แผ่วเพลงไพร พรมดึกพร่างพฤกษ์พง
ปลายฝนต้นหนาว ว่าหนาวเอย
หนาวลึกลมรำเพย รำพันหลง
วิเวกร้าวขณะ อันประจง
ให้ไหวหวั่นพะวง ภวังค์ครวญ
ข่าวแรมเลือนเหมือนร้าง ให้ห่างเหิน
รอยทางเดินพ้นผ่าน การเฝ้าหวน
ความรู้สึกบรรจบ ในทบทวน
เพลงพิรุณรัญจวน ยะเยือกหนาว
นานแสนนาน เกินใจจะไปสู่
เนิ่นหลากแล้วฤดู ไม่มีข่าว
หนทางใดเล่าล่วง ถึงดวงดาว
ฝากบางสิ่งบางเรื่องราว บอกคิดถึง
ลืมตาเถิด ผู้หลับไหล
กลางอ้อมกอดพงไพร ค่ำคืนหนึ่ง
วิเวกร้าวหนาวฝน บ่นรำพึง
ว่าทุกอณูแห่งคำนึง ซ่อนเจ้าไว้
โดยคำ ลานเทวา
13 ตุลาคม 2552 07:59 น.
ลานเทวา
ขยับเยื้องเบื้องงาม ในนามรัก
โบยบินมาทายทัก ซีกโลกสวย
ยามสายลมแผ่วโผย ระโชยชวย
หอบระรินกลิ่นระรวย ระเหยหอม
บางกลีบรอผ่านแรม บานแย้มรุ่ง
รับขวัญเถิดวันพรุ่ง จะพลิพร้อม
พร่างเพรางายสายลม ไหวดมดอม
ดับสิ้นตรอมค่ำคืน รับชื่นเช้า
โอ้ว่า ขวัญเอย
ลมรำเพย ล่วงผ่านชานเรือนเก่า
สวนดอกไม้งามแท้ ของแม่เรา
ผลิดอกบานนานเนา สวนรักนี้
มาเถิดเจ้าผีเสือ ปีกสวย
หอมระรินกลิ่นระรวย ไม้หลากสี
โบยบินสู่สวนฝัน พรรณไมตรี
ความรักมี ปลอบปลุกอยู่ทุกวาร
อรชรอ้อนแอ้น ในแดนดอก
ลงแตะแต้ม แย้มหยอกเกสรหวาน
ท่ามกลางความหอมหวน แห่งมวลมาลย์
ชโลมชื่นรติกาล ละมุนละไม
ไหวระลอกเลื่อมระยับ ขยับปีก
ผวาหลีกเร้นหลบ สู่ภพไหน
ปรารถนาหรือจะล่วง จากบ่วงใจ
อันร้อยรัดตรึงใน เสน่หา
ฉวัดไหวไกวปีกงาม ในนามรัก
โบยบินมาทายทัก พานพบหน้า
หวานเกสรอ้อนกาล หวานนัยน์ตา
หวานประทับห้วงเวลา อันผ่านเลย
โดยคำ ลานเทวา
23 กันยายน 2552 20:03 น.
ลานเทวา
รักข้า รักไปทุกอักขระร่าย
รักข้า รักไปทุกความหมาย อันทอถัก
เดียวดายข้างดงาม คือความรัก
มอบใจข้าสามิภักดิ์ ทุกจินตนาการ
ดื่มด่ำเถิด คนจรผู้รอนแรม
ก่อนราตรีดิถีแซม สร้อยคำหวาน
จะลับลาเลยล่วง รติวาร
เชิญดื่มด่ำฉ่ำธาร แห่งกวี
ด้วยพลานุภาพ แห่งอักษร
ประโลมชื่นอาทร ท่วงวิถี
สืบเป็นรอยสรรค์สร้าง อันต่างมี
ร่ายคำพลีสุขโศก โลกพร่างพราย
โบยบินเถิด จินตนาการ ผ่านภาษา
บอกเล่าสรรพคุณค่า และความหมาย
ความรู้สึกลึกสรรค์ คำบรรยาย
แทนศัพท์เสียงสำเนียงราย มรคา
ล่องไปทุกดวงดาว ที่พราวดึก
ค้นไปทุกส่วนลึก ปรารถนา
สืบระยะสรรค์สร้าง บนทางมา
ประกายตาแห่งหวัง ยังทาบทอ
นับล่วงไปหมื่นแสน ทัศนธาตุ
มิถ้วนนัยอักขระวาด กำเกิดก่อ
ท่วงอารมณ์ รูป เงา อันเคล้าคลอ
ลึกลออไปทุกกรุ่น ละมุนละไม
ไม่รู้หรอก ระยะทางในวันนี้
จะสิ้นสุดลงที่ ปลายทางไหน
รู้แต่ทุกเส้นเสียง สำเนียงใจ
ยังวาดไหว งดงามด้วยความรัก
โดยคำ ลานเทวา
กำลังใจแด่ คนเขียนคำ และทุกๆคำที่เขียน ที่สร้างสรรค์
29 สิงหาคม 2552 22:21 น.
ลานเทวา
เก็บเอาความรู้สึกดีดี
ทุกกรณีปรารถนา
แม้มิได้สบซึ้งถึงแววตา
แต่รู้เถิดทุกเวลา คือห่วงใย
ฟังสิ เสียงสายลมกระซิบ
แว่วหวานประหนึ่งทิพย์ กวีไหว
ทุกท่วงงามความรัก อักษรใจ
โอบอุ่นละมุนนัย อยู่เนานาน
ความรู้สึกยังงดงาม อยู่ตรงนี้
แต่ละท่วงนาที สืบผสาน
ดังดอกดาวเจ้าแย้ม กลีบผลีบาน
ทาบทอห้วงรัตติกาล อภิรมย์
ฟังสิ เสียงถ้อยคำลำนำร่าย
ปลอบปลุกไปทุกพาย กำซาบสม
แม้ความจริงบางสิ่ง ยังโสมม
คอยผลักไสใจจม ภวังค์เร้น
ปรารถนาดี ยังมีอยู่
บางครั้งแม้จะดู ไม่โดดเด่น
รักยังรักทุกนาที อย่างที่เป็น
แม้ผันผ่านร้อนเย็น หลากฤดู
อาจจะเดียวดาย กันคนละฟาก
โดยความคิดถึงหลายหลาก เร้นซ่อนอยู่
ความไกลห่างวางผ่าน บานประตู
แต่มิอาจปิดกั้นอณู ที่โหยหา
เก็บเอาไว้เถิด ความรู้สึกดีดี
จากทุกทุกนาที อันมีค่า
ถึงจะอยู่คนละฟากฝัน มรรคา
สักวันรักจะหวนมา พานพบ
โดยคำ ลานเทวา