21 มกราคม 2553 12:24 น.

๒๑.๓๗ น. .... !

ลานเทวา

วิจิตรภาพ มโนนึก 

ประดับดึกอารมณ์ ผสมผเส 

เคลิ้มหัวใจจรจัด ให้พัดเพ

อยู่กลางห้วงคะเน คะนึงครวญ 

 

ฟังสายลมแผ่ววี คีตะแว่ว 

งามกลีบแก้วละมุนพร้อม  กลิ่นหอมหวน

สไบบางพรางคลี่ เจ้าสีนวล 

พริ้วรับลมเรรวน บางสไบ 

 

ริ้วริ้วบาง พรางพริ้ว ละลิ่วล้อ 

แผ่วละอองดงาม ทุกยามไหว 

เคล้าสายลมอ้อยอิ่ง หริ่ง เรไร 

วังเวงไพรดึกพร่ำ ลำนำตรึง

 

ร่ายอารมณ์ สมสู่อณูหนาว 

ปลดเรื่องราวสับสน ใครคนหนึ่ง 

ความรู้สึกอ่อนไหว ในรำพึง 

ครุ่นคำนึงโหยหา  มิคลาคลาย 



หวนรอยยิ้มงดงาม ยามปวดร้าว 

ท่องธารดาวผันแปร กระแสสาย 

เหงา ยังคงเหงาเปลี่ยว อยู่เดียวดาย 

ครุ่นอารมณ์บรรยาย บทกวี 

 

บันทึกท่วงละไม ยามไหวอ่อน 

โดยอักษรปรารถนา ทำหน้าที่ 

แทนบางกลีบอันหอมหวล มวลมาลี 

ประโลมห้วงฤดี รัตติกาล 

……………………….

โดยคำ ลานเทวา

 

 




355761.jpg

อาศรม ลานเทวา ๒๑.๓๗ น.

355762.jpg

อาศรม ลานเทวา ๒๑.๓๗ น.


355763.jpg

อาศรม ลานเทวา ๒๑.๓๗ น.





				
18 มกราคม 2553 12:01 น.

เพราะทุกครั้ง เราต่างทำได้เท่านี้ ..... !

ลานเทวา

ทุกครั้งเราทำได้เพียงประณาม และเรียกร้อง

บนครรลองความฝัน สันติสุข

หากแต่ความโหดร้ายยังเป็นไป สมัยยุค

ทับท่วมทุกข์ ถั่งโถมโหมทวี

 

นับเนิ่นในความ ไม่สงบ

นับศพเพื่อนผอง น้องพี่

นับไม่สิ้นเวทนา บรรดามี

นับเคลื่อนฝัน วัน เดือน ปี อย่างสิ้นไร้

 

มันมิใช่ การกระทำ ของเหตุผล

แลเป็นการกระทำของผู้คน ก็ไม่ไช่

ความป่าเถือนต่อชีวิตจิตใจ

หมายสังเวยศาสดาใด มิอาจแจ้ง

 

ทุกครั้งเราทำได้เพียงประณาม และเรียกร้อง

หาสันติสุขครรลอง ในหนแห่ง

บนความโหดร้ายทารุณ อันรุนแรง

อมนุษย์ยังคงสำแดง เป็นเคราะห์กรรม

 

ปรารถนาใดเล่า

บนรอยเศร้าวิโยค โศกกระหน่ำ

คราบน้ำตา ศพซาก จากกระทำ

คัมภีร์ใดชี้นำ ปลอบวิญญาณ์

 

ณ แผ่นดินหนึ่งซึ่งเฝ้ารอ คอยฟังข่าว

ผ่านฤดูและเรื่องราว หวาดผวา

สิ้นเสียงอาซาน กาลเวลา

ไม่เหือดหายสายน้ำตา อันอาดูร

 

เพราะทุกครั้งเราทำได้เพียงประณาม และเรียกร้อง

เปล่งเสียงสวดกึกก้อง แล้วเงียบสูญ

ท่ามการกระทำอันเถื่อนที่ ทวีคูณ

เข่นผู้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ให้เป็นไป

 

นับเนิ่น ด้วยน้ำตา

รอคอยกาลเวลา แผดเผาไหม้

นับเนิ่น โดยสาเหตุโดยเภทภัย

ช่างห่างไกลแท้นั่น สันติธรรม

………………….

โดยคำ ลานเทวา

 

 
283879.jpg
				
16 มกราคม 2553 19:53 น.

เพลง กล่อมศพ.... !

ลานเทวา

84934757qr0.jpg
.
.
.

ดุ่มเดี่ยวอยู่ในภวังค์เร้น

ร่ายอารมณ์ล้อเล่น ความว่างเปล่า

เฉยเมยในไหววูบ แห่งรูปเงา

ผ่านสายลมบรรเทา ความชินชา

 

ผละสรรพสิ่งทั้งปวง สู่ล่วงลับ

เร้นภวังค์สดับ ใจโหยหา

เคลื่อนไหวคล้อยบนรอยกาล ผันผ่านพา

ตรึงเป็นภาพอันฉาบทา ลวงตาใจ

 

ทับถมเป็นอดีตกาล ที่ผ่านพ้น

ท่ามกลางความสับสน และหวั่นไหว

บางอาวรณ์ซ่อนเร้น ความเป็นไป

ซุกอาลัยครุ่นสดับ นานนับเนิ่น

 

บางเรื่องราวทิ้งวาง อยู่อย่างนั้น

นับนิรันดร์แห่งกาล ล่วงผ่านเผิน

บางเรื่องราวทบทวน คล้ายส่วนเกิน

บนทางเดินอันล้นหลาก ความมากมี

 

เธอเก็บอะไร เอาไว้บ้าง

บนเส้นทางทุกข์ทน ต่างหนที่

นอกจากเก็บความรู้สึกดีดี

ในแต่ละท่วงนาที ที่เลือนลับ

………………………….

โดยคำ ลานเทวา





GraveCherub375.jpg
				
16 มกราคม 2553 08:22 น.

เสียงปลุก .... !

ลานเทวา

feat_bud.jpg

 

 

แรกแสงอุ่น อรุณฉาย 
เลื่อมฟ้าพรายเงาแสด ด้วยแดดสรรค์ 
ลืมตาตื่นอีกเช้าแล้ว แววตะวัน 
ฟังซิเสียงใครกัน ดังแว่วมา

 
อบอุ่นรักจักเอื้อ โอบเนื้อเช้า 
ให้ลมเร้าผ่านล่วง ความห่วงหา 
งามรู้สึกซ่อนไว้ ในแววตา 
หวานทุกครายามสบซึ้ง ถึงความนัย


เหมือนดวงตา ตะวัน 
โอบสายแดดรำพัน อบอุ่นไว้ 
รักจะซุกอ้อมแขน แผ่นดินใด 
มิสุขใจไปกว่า แผ่นดินนี้


แลทุ่งคอกนอกรั้ว เรือนชาน 
งดงามภาพตระการ ทุกเฉดสี
สารพันมรรคา ประดามี 
สารพัดชีวี อันเป็นไป


เพลงสายลมโลมห้วง โอบรวงข้าว 
หยาดน้ำค้างยังสุกพราว รับแดดใหม่ 
ฟังซินั่นเสียงครัว ควัน ฟืน ไฟ
แม่เตรียมบุญเตรียมใจ จะไปวัด


ตื่นเถิดลูก เช้าแล้ว 
ตื่นหาบุญหาแนว ปฏิบัติ 
โลกใบนี้มันวุ่นวาย สารพัด 
ตื่นมาสร้างความแจ่มชัด แห่งธรรมา 

โดยคำ ลานเทวา





%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%
				
10 มกราคม 2553 16:39 น.

อ่อน ใจ ...... !

ลานเทวา

.

.

.

หลวงพ่อท่านว่า…………

‘’ อสรพิษ ฤทธิ์กล้า ข้าไม่หวั่น

ช้างตกมัน ประจันหน้า ข้าไม่หนี

กลัวนั้นแต่ วัวเขาอ่อน รอนราวี

มันขวิดที จีวรขาด บาตรกระเด็น…… ‘’

…………………………………………………
.
 
.

ถวิลวนบนทาง ที่ร้างเรื้อ

สิ้นหรือเชื้อรัญจวน ให้หวนหา

ความรู้สึกลึกพราย บรรยายมา

แทนหนึ่งบทสนทนา อันยืดยาว

 

ไม่อับอายดอกเจ้า ความเขลานั้น

ดูเถิดบทรำพัน กวีกล่าว

โดยกิเลสอันประเทือง เป็นเรื่องราว

ถึงใคร่คาว ในศอกคืบและหลืบรู

 

ล่องกระสันตัณหา อาณาจักร

มือบอดแห่งความรัก ร่านสมสู่

โอบกระแสอารมณ์ ห่มอณู

เปลี่ยวฤดูกำหนัด ครุ่นบัดซบ

 

ดังสายลมหอบหวน ละมุนหอม

ซ่านเสพสมดมดอม ไม่รู้จบ

หวานนัยน์ตาซ่อนเงา อันเร้ารบ

ถาโถมทบทรมาน กาลเวลา

 

เอยสู

ปานสิกูจะตาย ล้มหายหน้า

โดยกระสันพล่านส่อ มรณา

จะหลับตาลืมตา มิพ้นใจ

 

พุทโธ พุทโธ ลมเข้าออก

กามสำรอกจนสำลัก หนักความใคร่

พร่ำยุบหนอพองหนอ เหมือนก่อไฟ

เร้นหนีไกล หรือพ้นกังวลนั้น

………………………

โดยคำ ลานเทวา




 
1181210674.jpg
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลานเทวา