2 กรกฎาคม 2555 22:02 น.
คนบางบอน
ฝากหัวใจ ว่ายฟ้า มาหาขวัญ
ทวงสัมพันธ์ วันที่ เคยมีให้
ความเป็นหนึ่ง เคยเน้น เป็นนัยนัย
สะกิดใจ คนยาก ยามจากจร
เพราะชีวิต ลิขิตให้ ต้องไกลห่าง
เมื่อยามร้าง แรมไกล ใจจึงอ้อน
บทเพลงแห่ง ความเหงา มันร้าวรอน
ทรวงสะท้อน เหว่ว้า มาแรมปี
ทุกสายใย สัมพันธ์ วันชิดใกล้
สถิตใน ดวงกมล จนล้นปรี่
ความหวังของ หัวใจ ใกล้ทุกที
ถ้าไม่มี เหตุให้ ต้องไกลกัน
อยากบอกเธอ ว่าคิดถึง คะนึงหา
อยากรู้ว่า หัวใจ ใครไหวหวั่น
เพราะไกลตา จึงกลัวจาง ร้างสัมพันธ์
คนเฝ้าฝัน ยังเฝ้ารอ ต่อไมตรี
อยู่ไกลกัน ลับตา ขอบฟ้ากั้น
ใจยังมั่น เชื่อมใจ ไว้เต็มที่
หวังคนซึ่ง รอท่า มาแรมปี
ยังยินดี ร่วมเรียง อยู่เคียงใจ
ฝากหัวใจ ว่ายฟ้า มาถามขวัญ
ความสัมพันธ์ เคยมี อยู่ดีไหม?
เพราะอยู่ห่าง ต่างถิ่น แผ่นดินไกล
จึงหวั่นไหว ทุกครา ยามฟ้าครวญฯ
26 มิถุนายน 2555 17:12 น.
คนบางบอน
หนึ่งเรื่องเล่า เก้าแผ่นดิน ถิ่นสยาม
เรื่องลือนาม ทุกยุค ทุกสมัย
นาม สุนทรภู่ ซึ้ง ตรึงหทัย
เกียรติเกรียงไกร ก้องฟ้า มายาวนาน
เป็นอาลักษณ์ นักกลอน กระฉ่อนชื่อ
นิราศคือ เรื่องเก่า ยังเล่าขาน
สุภาษิต คำคมยอด ตลอดกาล
บุญบันดาล ไทยไม่แล้ง แหล่งกวี
20 มิถุนายน 2555 20:17 น.
คนบางบอน
ศิลปิน ศิลปะ ศิลเปรอะ
ยิ่งดู ยิ่งเลอะ ยิ่งเปรอะเปื้อน
ศีลธรรม อันดี ลืมเลือน
ดูเหมือน จะยุ่ง วุ่นวาย
แก้ผ้า ท้าทาย ถ่ายรูป
กอดจูบ เร่าร้อน ร่อนส่าย
ประกาศว่า เป็นศิลป์ กรายกราย
แจกจ่าย แบ่งกัน ชื่นชม
ไม่คิด กันบ้าง หรือไร
เมืองไทย ใช่เทศ เสพสม
ลัทธิ ชั่วช้า โสมม
นิยม ยกย่อง ตามกัน
มองเห็น เป็นเรื่อง สนุก
เคล้าคลุก สังคม เฉิดฉันท์
เยาวชน เป็นทาส ช่างมัน
ขอฉัน ได้เงิน เป็นพอ
เมืองไทย เมืองธรรม เมืองพุทธ
ถูกฉุด ตกต่ำ หรือหนอ
ศิลปิน ศิลเปรต สอพลอ
เกิดก่อ ทั่วแคว้น แน่นเมือง
ศิลปะ ความจริง เป็นสิ่งชอบ
เป็นระบอบ มีระเบียบ เรียบทุกเรื่อง
เหตุที่ ศิลเปรอะ รุ่งเรือง
ก็เนื่อง มากจาก (คนที่ชอบอ้างตัวว่าเป็น) ศิลปิน
*หมายเหต: เฉพาะบางคนบางกลุ่มเท่านั้น
29 พฤษภาคม 2555 17:52 น.
คนบางบอน
อ่านบทกลอน อ่อนไหว มาหลายบท
โศกกำสรด รัดทดใจ ในความเหงา
บ้างเหว่ว้า บ้างเดียวดาย คล้ายกับเรา
อ่านแล้วเศร้า ตามอารมณ์ คารมกลอน
จะเท็จจริง อย่างไร ไม่อาจรู้
ความเป็นอยู่ ที่ประกาศ อาจซุกซ่อน
ไม่มีหรอก ที่เขียนมา ว่าร้าวรอน
เพียงออดอ้อน ตามพจน์ บทกวี
เพราะต่างคน ต่างอยู่ไกล ไม่รู้จัก
อาจทายทัก กันบ้าง อย่างน้องพี่
ส่งข่าวผ่าน บ้านกลอน อ้อนวจี
คือสิ่งที่ ทำกัน ทุกวันมา
จะมีไหม ใครสักคน บนโลกฝัน
ที่ยืนยัน ความนัย ด้วยใจกล้า
ว่าอกหัก รักสลาย หน่ายชีวา
พรรณนา เป็นบทกลอน สะท้อนจริง
ศิลปะ การเขียนกลอน ตอนแรกเริ่ม
มักต่อเติม อารมณ์ ไปในทุกสิ่ง
เล่าเรื่องราว ให้เสนาะ ให้เพราะพริ้ง
เพื่อแอบอิง บอกนิยาม เป็นความนัย
สาวบ้านกลอน มีไหม ที่ใจกล้า
จะขอท้า มาเดทกัน สักวันไหม
แลกเปลี่ยนความ คิดเห็น ความเป็นไป
เผื่อหัวใจ เราสอง ปรองดองกัน
ลุงยศ
10 พฤษภาคม 2555 20:39 น.
คนบางบอน
พบสาววัย สามสิบเศษ ในFacebook
คุยสนุก ถูกใจ ไม่หน้าเบื่อ
เธอเป็นใคร สงสัยจัง ยังคลุมเครือ
จะผูกเยื่อ สานใย ใจกังวล
กลัวจุดใต้ ไปตำตอ ต้องรอเก้อ
กลัวทำเผลอ เจอปืนส่อง จนล่องหน
ต้องอยู่อย่าง หวั่นไหว ในกมล
ทั้งสับสน กลัวกล้า ทั้งท้าทาย
จะสอบถาม ตรงตรง คงไม่กล้า
จึงละล้า ละลัง ระวังหมาย
วนเวียนใน Facebook ปลุกใจกาย
น่าเสียดาย ถ้าเป็นเหมือน แค่เพื่อนกัน
สัมพันธ์จะ ก้าวไกล ได้ไหมหนอ
ใจจดจ่อ เปิดทาง อย่างมุ่งมั่น
ใช้Facebook สื่อสาร งานสำคัญ
หวังสักวัน จะได้ครอง ห้องหัวใจ
คิดเข้าข้าง ตัวเองบ้าง ในทางบวก
ทางสะดวก ปีนี้ คงมีให้
ความหวังที่ จะมีคู่ อยู่ไม่ไกล
จึงวอนไหว้ สิ่งเอื้อ ช่วยเจือจุน
ตั้งจิต อธิษฐาน บนบานกล่าว
บอกเรื่องราว ไว้เพื่อ ช่วยเกื้อหนุน
ความหวังของ วันนี้ เผื่อมีลุ้น
เจ้าประคุ้ณ ขอให้ โสดทีเถ๊อ
ลุงยศ