20 กันยายน 2550 07:53 น.
คนบนเกาะ
ไม่อยากดู ซึ่งผลงาน การศึกษา
ไม่อยากดู บั้งบนบ่า โตแค่ไหน
ไม่อยากดู อาคารหรู ศิวิไล
แต่อยากดู ซึ่งจิตใจ การสร้างคน
การแต่งกาย ก็ดูดี ใจนี้แย่
น่าท้อแท้ สยามมี เรื่องปี้ป่น
เหล่านักเรียน เรียนไปใย ไม่สร้างตน
แต่ละคน ดูให้ดี ชี้คนพาล
นักการเมือง เล่นการเมือง ก็น่าขัน
แต่ละวัน ต่างก็มุ่ง เหมือนฟุ้งซ่าน
ต่างก็แย่ง กันสับสน ฝากผลงาน
เป็นสะพาน สร้างเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน
อนิจจา ไทยสยาม เริ่มย่ำแย่
ใครจะมา คอยเหลียวแล คอยถวิล
ในเมื่อมี คนไม่ดี ครองแผ่นดิน
ขวานทองบิ่น เพราะเรื่องมี ราคีคาว
อยากให้ย้อน ดูการสอน การศึกษา
โบราณมา เขาสอนดี ที่อยากเล่า
ศีลธรรม และจรรยา ไขว่คว้าเอา
ทุกเรื่องราว มุ่งให้เห็น เป็นคนดี
นักปกครอง ใครที่กล้า ความสามารถ
ลองประกาศ กันได้ไหม ในวันนี้
ครูคนไหน ที่อยากได้ รับเลื่อนซี
ไม่ต้องมี เรื่องผลหนา วิชาการ
แค่สอนศิษย์ มีจรรยา มารยาท
ใจสะอาด ความคิดดี มีหลักฐาน
เอาไปเลย ครูผู้สอน จงเบิกบาน
ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญ เอาไปเลย
22 สิงหาคม 2550 11:00 น.
คนบนเกาะ
คิดถึงเพื่อน บ้านกลอน ก่อนจะสาย
งานมากมาย ไม่ได้พบ ประสบหน้า
ไม่อยากอ้าง ไม่สบาย ไร้เวลา
แต่ใจจริง นั้นหนา ไม่เคยลืม
ยี่สิบสี่ สิงหา ใกล้มาถึง
วันที่ซึ่ง พ่อแม่นั้น ฝันปลาบปลื้ม
เป็นวันที่ ติดตรึงใจ จะไม่ลืม
เป็นวันปลื้ม ของแม่พ่อ ต่อบุตรตรี
งานลูกสาว ไม่ใหญ่โต ไม่โก้หรู
ทำพอดู ไม่เขินขัด ถึงบัดสี
ฐานะเรา ไม่เข้าขั้น ติดบัญชี
ขอแค่มี ความภูมิใจ เกิดในตัว
คิดถึงเพื่อน ที่บ้านกลอน ร้อนรุ่มจิต
ในใจคิด บอกเพื่อนเพื่อน ให้ครบทั่ว
อย่าลืมนะ ยี่สิบสี่ มีงานชัวร์
ขอเชิญทั่ว รดน้ำสังข์ หลั่งอวยพร
ขอขอบคุณ เพื่อนบ้านกลอน ก่อนล่วงหน้า
ที่ได้มา เป็นมิ่งขวัญ กันสลอน
คนบนเกาะ ปลื้มหัวใจ ในเพื่อนกลอน
ก่อนกลับย้อน รับอาหาร ทั้งหวานคาว
12 สิงหาคม 2550 20:21 น.
คนบนเกาะ
มองขึ้นไป บนฟ้า นภากว้าง
ดูเวิ้งว้าง เปล่าเปลี่ยว จริงเชียวหนา
ถึงวันแม่ จิตไหวหวั่น สั่นทุกครา
เสียงแม่จ๋า ดังกึกก้อง ห้องหัวใจ
แม่สถิต อยู่แห่งไหน ในแคว้นภพ
ขอน้อมนพ ประคองหัตถ์ ยกจัดไหว้
พระคุณแม่ นั้นมากท้น ล้นกว่าใคร
ลูกขอส่ง ดวงใจ ไปบูชา
ที่สิบสอง สิงหา คราวันแม่
ลูกได้แต่ ชะแง้ เฝ้าแลหา
จิตจดจ้อง ตาเฝ้ามอง ท้องนภา
หยาดน้ำตา ทั้งสองแก้ม แย้มเป็นทาง
ยังมีเพื่อน บนโลกนี้ ที่ไร้แม่
คงไม่แย่ มีเพียงเรา เหงาเศร้าบ้าง
ดูเมฆา คิดว่าแม่ ยิ้มได้พลาง
แม่เราช่าง รักเราแท้ ลูกแน่ใจ
จิตกระหวัด จัดกล่าวบอก ออกหาแม่
แม่จ๋าแม่ ลูกคนดี มิเหลวไหล
คำสอนสั่ง ยังไม่หน่าย หายจากไป
ยังจำได้ ทุกวรรคคำ แม่ย้ำเตือน
เป็นคนดี เบญจธรรม ทำทุกข้อ
เบญจศิล เลิกละต่อ เป็นเสมือน
เกราะแข็งแกร่ง กำบังตัว ไร้ภัยเยือน
ไม่เคยเลือน แม่พูดไว้ จำได้ดี
ขอให้แม่ เสวยสุข บนสวรรค์
เกษมสันต์ แจ่มจำรัส รัศมี
ลูกจะขอ อุทิศบุญ หนุนความดี
ให้แม่นี้ มีความสุข ทุกภพเทอญ
24 กรกฎาคม 2550 08:23 น.
คนบนเกาะ
ท้องฟ้าครึ้ม เมฆฝนมา พาชื่นฉ่ำ
ขับลำนำ เข้าพรรษา เวียนมาถึง
อดีตกาล ย้อนให้คิด จิตคำนึง
ระลึกถึง ครั้งเก่าสุด พุทธกาล
เหล่าชาวนา ต่างเร่งรัด จัดปลูกข้าว
ตื่นแต่เช้า เข้าทุ่งนา นอกสถาน
เอาต้นกล้า ดำในนา เขียวตระการ
จิตเบิกบาน ทั่วทุ่งเทียว เขียวขจี
พุทธองค์ ทรงห้ามพระ ละจากวัด
ห้ามจรจัด ลัดทุ่งนา สง่าศรี
สามเดือนผ่าน จึงจะพอ จรลี
ออกจากที่ ณ สถาน อันเคยครอง
เห็นเมฆคล้อย ล่องลอยมา อีกคราแล้ว
สาราสัตว์ ส่งเสียงแจ้ว ด้วยใจผ่อง
ทั่วทั้งหล้า ชุ่มฉ่ำฝน น้ำเนืองนอง
สมใจปอง เมื่อพรรษา เข้ามาเยือน
16 กรกฎาคม 2550 08:04 น.
คนบนเกาะ
ดาวดวงเด่น จรัสฟ้า ครามืดแสง
ความร้อนแรง ทิวาวัน ก็ผันเปลี่ยน
ราตรีเยือน เย็นคืนย่ำ ซ้ำวนเวียน
เลยนั่งเขียน ระบายทุกข์ ให้สุขใจ
ดาวดวงเด่น เช่นตัวน้อง พี่จ้องเจ้า
แสงนวลขาว ดูกระจ่าง สว่างใส
ยามคิดถึง คราคะนึง ถึงทรามวัย
ทุกคราไป พี่จะจ้อง มองดวงดาว
ราตรีนี้ จะอยู่นี่ มิไปไหน
จะส่งใจ ไปสู่ฟ้า เวหาหาว
ภาษารัก จะพรอดพร่ำ ย้ำเรื่องราว
ไปถึงดาว ตัวแทนน้อง พี่ปองนวล
เจ้ารู้ไหม ว่าคืนนี้ พี่เงียบเหงา
อยากจะเล่า ความชอกช้ำ ระกำสรวญ
ยามคิดว่า ตัวพี่นี้ มิคู่ควร
จิตอักอ่วน น้ำตาปริ่ม ปิ่มขาดใจ
ส่งสายตา ส่งมาจ้อง บ้างน้องรัก
ส่งมาทัก ส่งมาทาย ให้ผ่องใส
นอกจากน้อง แล้วตัวพี่ ไม่มีใคร
พี่สุขใจ หากพี่ไซร้ ใกล้คนดี