12 ตุลาคม 2551 11:38 น.
คนบนเกาะ
วิปโยค โศกสะดุ้ง ทั่วคุ้งน้ำ
ฟ้าสีคราม กลับหมองหม่น จนทั่วผืน
แม้ทิวา แต่เหมือนว่า เป็นกลางคืน
เสียงสะอื้น สองแก้มอาบ คราบน้ำตา
ปู่เย็นนั้น จากไป แล้วไม่กลับ
แว่วสะดับ แต่สำเนียง เสียงท่านว่า
คติพจน์ และคำคม บ่มชีวา
ให้ประชา เอาเยี่ยงท่าน การทำดี
ผมขอให้ ปู่เย็นนั้น พลันมีสุข
หมดแล้วทุกข์ เกาะกินใจ ในวิถี
ท่านสมแล้ว ที่เกิดมา เป็นคนดี
ในชีวี จะไม่ลืม ความปลื้มใจ
แสนเป็นห่วง ลุ่มน้ำเพชร เปรียบเพชรหนึ่ง
ขอจงช่วย กันฉุดดึง ให้แจ่มใส
อย่าให้ดับ เหมือนปู่เย็น ที่เป็นไป
ด้วยอาลัย เมื่อได้ทราบ กราบเรียนมา
ขอพี่น้อง ผองประชา ชาวเมืองเพชร
ช่วยผดุง ความเลิศเด็ด ล้ำลือค่า
ให้พี่น้อง ทั่วทั้งผอง ไทยประชา
ได้เห็นค่า ที่เลิศล้ำ ทำความดี
7 ตุลาคม 2551 12:31 น.
คนบนเกาะ
น้ำตาไทย ไหลหลั่ง ยังผืนหล้า
รัฐชั่วช้า หื่นกระหาย ไม่วายสิ้น
ลัทธิที่ หื่นกระหาย ใคร่โกงกิน
ทำแผ่นดิน ทรุดลง สุดปลงใจ
แผนพัฒ ทะนาไทย ดูใสสด
ภาพปรากฎ กลับพลิกผัน มันไฉน
ชี้เห็นชัด ดำเป็นขาว น่าเศร้าใจ
การเมืองไทย สกปรก เหมือนหมกดำ
โลกหนอโลก ความวิโยค มันผกผัน
คนดีนั้น ถูกกลืนหาย เหมือนตายคว่ำ
เหลือคนชั่ว ที่ดวงใจ คล้ายมืดดำ
เข้าครอบงำ สู่เวที จี้ครองเมือง
อนิจจา เหตุเพทภัย กระไรนี่
น้ำตาปรี่ ประชาไทย ใส่เสื้อเหลือง
ถูกลำเลียง เข้ารอพอ กันนองเนือง
ตามราวเรื่อง อยากเห็นไทย สดใสงาม
อยากสาบแช่ง คนบ้าบิ่น โกงกินชาติ
จงพินาศ อย่ามีสุข ทุกภพสาม
ทั้งนรก และสวรรค์ นั้นประณาม
ความเลวทราม จงให้มัน นั้นรับเทอญ
28 สิงหาคม 2551 08:20 น.
คนบนเกาะ
นอนไม่ลง ปลงใจ ก็ไม่ถูก
จิตพันผูก ถึงบ้านเมือง เรื่องยุ่งเหยิง
ตัวยายมี ณ ตอนนี้ เหมือนมีเพลิง
เผากระเจิง แทบวายวอด มอดเป็นดิน
หวนนึกถึง ตอนยายมี นี้เป็นเด็ก
ตัวเล็กเล็ก แสนปรีเปรม เกษมสิ้น
ข้าราชพัฒ ทะนาไทย ใครยลยิน
ไม่ปลอกปลิ้น กินบ้านเมือง จากเรื่องราว
นักปกครอง สมัยนั้น น่าฝันหา
เขามีค่า มีหน้าตา เหมือนผ้าขาว
ประดุจเพชร เม็ดน้ำดี สีแวววาว
ประเทศก้าว ไปข้างหน้า มิช้าพลัน
ต่างกับยุค สมัยนี้ ยายมีเห็น
เกิดประเด็น ที่จะต้อง มองให้มั่น
นักปกครอง หลายคนจ้อง เข้าฝ่าฟัน
หมายห้ำหั่น เข้ากัดแทะ แกะบ้านเมือง
อยากคัดเลือก คนดีดี มีความพร้อม
"อีคิว"น้อม น่านับถือ ชื่อลือเลื่อง
ความรู้รอบ มีเมตตา มาประเทือง
ช่วยบ้านเมือง หายสับสน บนสายทาง
ได้แต่คิด อนิจจา น่าอนาถ
ภาพที่วาด ช่างริบหรี่ มีมารขวาง
คนไม่ดี มีมากล้น บนสายทาง
โบราณอ้าง น้ำมีน้อย ย่อมแพ้ไฟ
จงทำใจ กันเถอะหนา ประชาราษฎร์
คนดีนั้น มิบังอาจ ก้าวต่อได้
ก็น้ำน้อย นั้นจะสู้ ได้ฉันใด
จงทำใจ ปล่อยวิถี อย่างที่เป็น
น้ำตาหยด บนแผ่นล้า ในนาข้าว
ยายมีเศร้า ก็อย่างที่ ท่านนี้เห็น
ยายทนได้ แม้ชาตินี้ มีลำเค็ญ
เกิดมาแล้ว ก็ต้องเห็น ความเป็นไป
เก็บกันเถอะ วาสนา บ้าอำนาจ
กินกันเถอะ ท่านเก่งกาจ และยิ่งใหญ๋
คอรับชั่น กันเถอะหนา ตามพอใจ
ยายมีนั้น ให้อภัย ท่านทุกคน
เพลงปลุกใจ มันดังแว่ว ในหัวอก
เหมือนโดนชก ยายมีนั้น ฝันสับสน
กิเลสหนา ช่างมากมาย ในตัวคน
ยายได้ยล ในชาตินี้ มิห่างไกล
ขอกรวดน้ำ แผ่ส่วนบุญ ส่วนกุศล
ให้แก่คน ผู้ขายชาติ อันยิ่งใหญ่
ชาติหน้ามี ขอจงดล ให้เปลี่ยนใจ
จงกลับกลาย จากมารร้าย เป็นคนดี
30 กรกฎาคม 2551 09:52 น.
คนบนเกาะ
ไปรษณีย์ ส่งบัตรให้ ได้รับแล้ว
ใจผ่องแผ้ว เจ้ายินดี ที่บอกใบ้
ทั้งสิ่งของ และเงินตรา พาส่งไป
บ้านกลอนไทย จัดเพื่อน้อง ดังต้องการ
ขอเจ้าจง ได้มุ่งมั่น หมั่นศึกษา
เพื่อเมืองไทย ได้ก้าวหน้า มหาศาล
ทำความดี ประชาไทย ได้ชื่นบาน
หากลูกหลาน สามัคคี ไมตรีกัน
อย่าแตกแยก จงกลมเกลียว เกี่ยวพันผูก
เหมือนเป็นลูก ยึดคำว่า สมานฉันฑ์
เมื่อเจ้าโต เป็นผู้นำ ที่สำคัญ
จงยึดมั่น เพื่อชาติไทย ได้เจริญ
ท่าระพา พาลูกหลาน สู่กาลใหม่
มีหัวใจ ที่เปี่ยมค่า น่าสรรเสริญ
จะคอยดู อีกต่อไป ไม่นานเกิน
คงเพลิดเพลิน เพราะเจ้าพร่ำ ทำความดี
10 กรกฎาคม 2551 11:48 น.
คนบนเกาะ
ยายมีแสน สุขใจ ไปขายของ
ถึงฟ้าหมอง แต่อิ่มใจ ในความฝัน
งานไร่นา ยายมีพร่ำ ทำทุกวัน
มากอนันต์ ผลหมาก รากไม้มี
ทั้งฟักแฟง แตงกวา ขิงข่าพร้อม
เหมือนมาย้อม ดูช่างมาก หลายหลากสี
ยายเฝ้าเพียร อย่างถวิล ปุ๋ยอินทรีย์
ยายเลยได้ ของดีดี มาให้ทาน
ไม่มีพิษ ไม่มีภัย ทานไปเถอะ
นี่แตงโม ก็มีเยอะ รสหอมหวาน
ไม่ต้องมา แต่งเติม เพิ่มน้ำตาล
ล้วนน่าทาน อุดหนุนยาย ให้มีเงิน
ยายภูมิใจ ยายไม่ได้ ขายประเทศ
จะเที่ยวเขต จังหวัดไหน ไม่ขัดเขิน
ยายไม่ต้อง หาผ้าหนา คลุมหน้าเดิน
ยายเพลิดเพลิน กับงานที่ ยายมีทำ
ยายอยากบอก คนทั่วหน้า อย่าขายชาติ
คนเป็นปราชณ์ ไม่ต้องมี ท่าทีขำ
วางตัวเป็น เช่นคางคก ขึ้นวอนำ
อย่าง"แมวคราว" ที่เขาย้ำ เสนอมา
โปรดจงตื่น กันเสียที เถอะพี่น้อง
ไทยทั้งผอง จะเลือกใคร ในคราวหน้า
ขอให้ดู ทั้งท่วงที กิริยา
โปรดจงอย่า เลือก อุ-บาด ขายชาติกิน