4 พฤศจิกายน 2549 23:12 น.

Hallooween

คนที่พอจะเข้าใจ

เด็กๆมาเคาะประตูแล้ว เสียงสามีของดิฉันเรียกจากหน้าบ้าน หรือห้องรับแขก ดิฉันคิดว่าเด็กคงพยายามที่จะกดออดหน้าบ้านแล้วแต่พวกเราข้างในบ้านคงยังเฉยกันอยู่ ถึงได้ยินเสียงเคาะประตูบ้านจากเด็กแทนการกดกออด (ไม่ได้ซ่อมสักทีค่ะ หลังจากที่เสียมาหลายเดือนแล้ว) ดิฉันเดินมาหยิบถุง candy ที่ตัวเองได้จัดใส่ถุงมีรูปแสดงถึงวัน Haloween เดินมาเปิดประตู พบผีหลายตัว น่ารัก(มากับผู้ปกครอง) เสียงพูดดังแข่งกันว่า  Tric or Treat ดังขรมเชียว ดิฉันก็พูดตอบไปว่า Treat และชมต่อว่า แหม...มีทั้งผีน้อยน่ารัก นางป้าแสนสวย Heroes ผู้เก่งกาจ  พร้อมทั้งหยิบขนมใส่ลง หม้อที่เด็กๆถือมาคนละอัน เด็กตอบขอบคุณ (Thank you  and have a good night) พร้อมกับเดินจากไป บ้านต่อไปกัน

    ดิฉันเลยต้องนั่งรอที่ห้องรับแขก   เพื่อรอเด็กกลุ่มต่อไป เด็กเริ่มเดินมาเคาะประตูบ้านตั้งแต่เวลาประมาณทุ่มกว่า พอสักประมาณสามทุ่มก็เลิก ทั้งนี้เพราะพรุ่งนี้เช้าเด็กต้องมีโรงเรียนกัน  ก็ดีไปอย่างที่ไม่เล่นกันจนลืมเวลา สำหรับเด็กในวันหนุ่มๆอย่างลูกชายทั้งสองคนของดิฉัน ก็ไปตามที่ๆเขาจัดให้กัน ก็เป็นที่ๆผู้ใหญ่ไปกันค่ะ

   จริงๆแล้วครอบครัวดิฉันก็คนไทยกันทั้งแท่งนะคะ ไม่ได้หลงไหลได้ปลื้ม กับประเพณีอะไรนี่ของเขาหรอกค่ะ เคยได้ยินคำนี้เมื่อสมัยเข้ามาเรียน และทำงานอยู่ที่กรุงเทพซึ่งก็นานแล้ว ไม่เคยไปร่วมราตรีกับเขาหรอค่ะ ทราบแต่พอเลาๆว่า เป็นวันที่เกี่ยวกับผีๆ จะเกี่ยวอย่างไรก็ไม่เคยทราบอีกและค่ะ จนได้ย้ายอพยพ ครอบครัวไปอยู่ที่อเมริกา  ตอนที่ซื้อบ้านใหม่ๆก็ไม่ทราบว่าต้องทำอะไรเสียด้วยซ้ำไป เมื่อนมีเด็กมาเคาะประตูหน้าบ้าน สองกะเหรี่ยงตายาย ก็ออกมาเปิดประตูบอกเด็กๆว่า ไม่ได้ร่วมงานนี้และไม่มีแคนดี้ให้ด้วย เด็กเลยพากันยิ้มพร้อมที่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมแล้วจากไปกัน เราสองกะเหรี่ยงตายายก็มาคิดกันว่า กับการจะซื้อขนมแจกเด็กไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองอะไรมากนัก พอปีต่อมาเลยต้องเตรียมขนมไว้เพื่อแจกเด็กตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

   สำหรับประวัติความเป็นมาของวัน  Halooween  นั้นอยากขอเล่าเพียงย่อๆนะคะ


อังกฤษ 
ที่ประเทศนี้ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดี เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงาน การทำนายโชคชะตา หรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่า วันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่ภูติผีวิญญาณจะช่วยดลบันดาลให้สิ่งที่คนเป็นต้องการสามารถเป็นไปตามใจปรารถนา ประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่าน และไถกลบเมล็ดป่าน พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน และท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคต เมื่อสาวเจ้าเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายก้จะได้เห็นภาพนิมิตของผู้ที่จะมาเป็นสามีของตนในอนาคต

อีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษ คือ การหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลงในอ่างน้ำ พร้อมแอปเปิ้ล ผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดย ใช้ปากคาบเหรียญ และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียว ผู้นั้นจะมีโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน

อเมริกา 
ประเพณีของประเทศมหาอำนาจนี้ดูจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายกว่าประเพณีของชาวอังกฤษ นั่นก็คือ ประเพณี Trick or Treat ที่จะให้เด็กๆ แต่งหน้า แต่งตัวเป็นผีเดินไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ เพื่อร้องขอขนมเค้กสำหรับวิญญาณ (Soul cake) พร้อมกับส่งเสียงทักทายว่า "Trick or Treat" หากเจ้าของบ้านตอบว่า Trick จะถูกเด็กๆ แกล้ง แต่ถ้าตอบว่า Treat เจ้าของบ้านหลังนั้นก็ต้องนำขนมเค้กมาให้พวกเด็กจนกว่าเขาจะพอใจ

เด็กที่แต่งตัวเป็นภูติผีวิญญาณเปรียบเหมือนสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างคนเป็นและคนตาย โดยเจ้าของบ้านที่ให้ขนมแก่เด็กๆ สามารถฝากคำอธิษฐานไปถึงคนตายได้ด้วย ดังนั้น ยิ่งเด็กๆ ขอขนมได้มากเท่าใด วิญญาณที่ยังเวียนวนอยู่ในรกก็จะยิ่งได้รับส่วนบุญ และมีโอกาสขึ้นสวรรค์มากยิ่งขึ้นด้วย 

ความเป็นไปในวันนี้ 

ปัจจุบัน ประเพณีของทั้งสองประเทศคงเหลือแต่เพียง การแต่งกายปลอมตัวเป็นผี เพื่อการพบปะ สังสรรค์ เฮฮากันมากกว่าจะเป็นการระลึกถึงผู้ตายดั่งเช่นแต่เก่าก่อน

    สำหรับปีนี้ที่ผ่านไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม(จะเป็นวันั้นี้ของทุกๆปี) ครอบครัวของดิฉันก็ร่วมสนุกสนานกับเด็กๆชาวอเมริกัน ซึ่งมีหลายเชื้อชาติ ทั้งเด็กคนดำ คนขาว และ ลาติโน พร้อม เด็กชาวเอเชียด้วยค่ะ  Happy Haloowee				
26 กันยายน 2549 06:46 น.

บ้าย..บาย Summer

คนที่พอจะเข้าใจ

ตอนนี้ที่อเมริกา อากาศเริ่มกำลังดี ไม่ร้อนจัดและไม่หนาว เขาเรียกช่วงนี้ว่า Fall ฟรือ Autumn  คือใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีและร่วงจากต้น ตอนที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและยังคงอยู่กับต้นนั้น จะสวยงามมากค่ะ ดิฉันและสามีชอบที่จะขับรถไปชมใบไม้เสมอๆ เมื่อตอนต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะหมดล่วงฤดูร้อน  ดิฉันและเพื่อนๆได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่ชายทะเลที่ Svannah ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจอร์เจีย 
  หลังจากนั้นอีกอาทิตย์หนึ่ง ดิฉันก็ได้รับโทรศัพย์จากน้องคนไทยด้วยกัน ว่าจะมีการเลี้ยงลาซัมเมอร์ ในโอกาสนี้คุณพัสสน พระเอกละครทีวีจากเมืองไทยจะมาร่วมงานด้วย เพราะตอนนี้ได้กลับมาเยี่ยมคุณพ่อกับคุณแม่ที่จอร์เจีย
    พวกเราต่างพากันดีใจ จริงๆแล้วดิฉันก็เห็นดีใจกันอยู่ประจำ ใครจะมาหรือไม่มาก็ตาม คือหาเรื่องเอามาเป็นหัวข้อไปอย่างนั้นมากกว่า เพราะการพบปะ นั่นหมายถึงได้พักผ่อนจากงานที่ทำมาทั้งอาทิตย์ บางคนทำถึงสองงาน(2 jobs) เชียวค่ะ การทำงานมากที่เมกานั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะงานนั่นมายถึงเงิน และเงินก็หมายถึงการทำงานค่ะ
     งานนี้คุณแพทสนควงคู่ไปกับหวานใจน้องไอซ์และคุณพ่อคุณแม่ พวกเรามีการ grill ที่หลังบ้านท่านรองสมาคมคนไทยในจอร์เจียมีการย่าง หมู ปลา กุ้ง อาหารทะเลเช่นกุ้ง ปู นอกจากนี้ยังมีส้มตำ ข้าวเหนียว เนื้อแดดเดียว ยำหมูยอ ยำซีฟู้ด และที่สำคัญเรามีการหยอดและแคะขนมขนมครกด้วยนะคะ บางคนพออิ่มท้องก็เข้าไปร้องเพลงคาราโอเกะในบ้านค่ะ น้องไอซ์ เธอร้องเพลงได้เพราะจริงๆค่ะ ทั้งลูงทุ่ง ลูกกรุง หนุ่มบาว-สาวปาน และยังขอร้องให้พวกอย่างป้าๆน้าๆเป็นหางเครื่องให้ด้วยนะคะ ซึ่งพวกเราก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ
   เราเลิกลาและร่วงโรยกันไปเป็นแถบๆก็เกือบจะตีสองได้ค่ะ น้องๆเขากลับไปตั้งนานแล้ว แต่ป้าๆน้ายังคงร้องเพลงกันต่อค่ะ สามีงี้ลูกๆงี้พากันมากระตุกๆมือแม่ๆพ่อๆ กลับได้ล่ะยังครับ(คะ) เลยจำใจต้องลาไมโครโฟนกันค่ะ บ้าย..บายซัมเมอร์ 06 ปีหน้าฟัใหม่ค่อยมาเจอกันอีก(กลุ่มเดิมๆหน้าเดิมๆค่ะ)				
16 กันยายน 2549 23:51 น.

summer at Savannah

คนที่พอจะเข้าใจ

เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา วันที่4 เป็นวัน laborday ของเมกา ซึ่งตรงกับวันจันทร์ ผู้คนส่วนมากออกเดินทางตั้งแต่เย็นวันศุกร์กันแล้ว ชาวคณะของกรุ๊บดิฉัน มีการเดินทางกันสามกรุ๊บใหญ่ มีเช้าวันเสาร์หนึ่งกลุ่ม เที่ยงคืนของคืนวันเสาร์อีกหนึ่งกลุ่ม และเย็นวันอาทิตย์อีกหนึ่งกลุ่ม(คือกรุ๊บของดิฉันเอง)

    เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้ใส่ชุดว่ายน้ำ ลงเล่นทะเล เพราะคนที่โน่นเขาจะมีความรู้สึกเฉยๆต่อการที่เจอผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ ไม่ต้องมาพะวงต่อสายตาใครๆ
น้องๆที่ร่วมเดินทางเจอแมงกะพรุนเข้าที่ขา แต่โชคดีที่ไม่ใช่แมงกะพรุนไฟค่ะ พวกเราพากันเล่นน้ำ กันสุดเหวี่ยง และการพักผ่อนก็จบลงก้วยการเดินทางกลับมาทำงานกันต่อ

    การเดินทางกลับ ก็มีแบ่งเป็นสองกลุ่มอีกตามเคยค่ะ กลุ่มของดิฉันอยู่ต่ออีกหนึ่งคืน และกลับเที่ยงวันอังคาร ต่อไปก็ทำงาน งานและงาน ช่วงนี้ที่เมกาเริ่มเข้าฤดู  fall ใบไม้คงเริ่มที่จะเปลี่ยนสี อากาศเริ่มที่จะหนาว แต่ตอนนี้ยังมีเวลาที่จะได้เสื้อแขนสั้นกันอยู่ค่ะ				
21 มิถุนายน 2549 23:21 น.

ไม่เหมือนที่บ้านเรา...

คนที่พอจะเข้าใจ

เฮ้อ...ไม่เห็นเหมือนบ้านเราเลยค่ะ ทำให้ทราบว่าคนอเมริกัน นี่เขาทำอะไรบางทีเราคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ เขากลับทำให้เรามีขั้นตอนการทำเยอะแยะมากมายนะคะ				
20 มิถุนายน 2549 11:16 น.

วันพ่อที่อเมริกา

คนที่พอจะเข้าใจ

ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวฉันนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรพิเศษเช่นกัน เพราะยังคงไปทำงานตามปรกติ และยังกลับมาดูบอลโลกตามปรกติ ที่เมกาเขาถ่ายทอดบอลโลกทุกคู่ ตั้งแต่ 8 โมง55 นาทีตอนเช้าค่ะ ตอนนี้ก็เกือบหมดรอบแรกแล้วนะคะ เหลืออยู่อีก สี่วันเท่านั้น 

   ค่ะก็ผ่านไปอีกปีสำหรับวันพ่อที่เมกา แล้วจะมาเล่าเรื่องแถวๆเมกาอีกนะคะ อย่าเพิ่งรำคาญกันนะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนที่พอจะเข้าใจ
Lovings  คนที่พอจะเข้าใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนที่พอจะเข้าใจ
Lovings  คนที่พอจะเข้าใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนที่พอจะเข้าใจ
Lovings  คนที่พอจะเข้าใจ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนที่พอจะเข้าใจ