28 กุมภาพันธ์ 2553 19:43 น.
คนกุลา
๐ หนังสือพิมพ์เกลี้ยงแผงเหมือนแกล้งว่า
ทั้งพาราตามข่าวเฝ้าสอบถาม
การยึดทรัพย์ตามมีคดีความ
คิดนิยามคุยกันสนั่นไป
๐ เริ่มคดีซุกหุ้นหมุนสะพัด
ปวงสมบัติทั้งหลายให้สงสัย
บนหนทางสร้างสรรค์ประเทศไทย
สร้างสิ่งใหม่โด่งดังทั้งดินแดน
๐ เข้ามาสร้างทางฝันเพื่อวันใหม่
ตั้งพรรคอันเกรียงไกรยิ่งใหญ่แสน
ช่วยคนทุกข์ยากไร้หายขาดแคลน
จนทั่วแคว้นเกิดนิยมชมชอบจริง
๐ พักชำระหนี้สินทุกถิ่นที่
โอท็อปมีมากมายให้ทุกสิ่ง
ประชาชนหลากหลายหมายพึ่งพิง
คนทำยิ่งรับคำชมสมแก่การ
๐ บรรดาพรรคเล็ก-กลางต่างสยบ
ไปสมทบรวมพรรคเป็นหลักฐาน
นโยบายหลายหลากมากตำนาน
เพื่อมาสานสรรค์สร้างหลายอย่างจัง
๐ มาถูกหาว่าผิดเพราะคิดคด
เมื่อกำหนดงานใดคล้ายมุ่งหวัง
จนคนอีกซีกส่วนล้วนชิงชัง
ปลุกพลังขึ้นมาเข้าท้าทาย
๐ เมื่อวุ่นวายสับสนจนยากสาง
ก็เข้าทางทหารตามความคาดหมาย
ยึดอำนาจพร้อมเสมอเอ็กเซอร์ซายด์
ดับวุ่นวายชั่วคราวไม่ยาวนาน
๐ ตั้งหน่วยงานติดตามเอาความผิด
แก้วิกฤติยุบพรรคตามหลักฐาน
อายัดทรัพย์ฟ้องคดีที่พบพาน
ยิ่งเนิ่นนานสืบสาวเข้าประดัง
๐ ก่อนกลับมาเลือกตั้งเหมือนครั้งเก่า
แข่งขันเอาใครนิยมชื่นชมหวัง
ตั้งพรรคใหม่ตามถนัดจัดกำลัง
มิรอรั้งคือข่าวเรื่องราวมี
๐ ฝ่ายมวลชนแบ่งฝ่ายออกหลายหลาก
เป็นฝั่งฟากแต้มแต่งแบ่งหมู่สี
มองอีกพวกเพียงเช่นเป็นไพรี
มุ่งหวังที่สร้างพลังทางการเมือง
๐ เกิดเสื้อแดงแต่งสู้พร้อมกู้ชื่อ
อีกฝั่งถือต้านภัยใส่เสื้อเหลือง
สีน้ำเงินเสริมสังกัดแค้นขัดเคือง
ก่อเกิดเรื่องฝักฝ่ายหมายโรมรัน
๐ มีเหตุการณ์มากมายหลากหลายล้น
ปรากฎบนหนทางแตกต่างฝัน
จนมาถึงอีกบทที่โจทย์จัน
คดีอันโด่งดังตั้งเรื่องราว
๐ บทตัดสินคือจุดแทบสุดท้าย
เมื่ออีกฝ่ายแค้นลึกให้นึกหนาว
ถูกรังแกแพ้ภัยมืดมายืดยาว
คงถึงคราวไทยถูกขังในวังวน
๐ ออกทางไหนก็ยากหากต้องรับ
หรือจะกลับไปเริ่มใหม่ให้สับสน
ประวัติศาสตร์อาจไม่ตามใจคน
คงเคลื่อนบนหนทาง...อย่างต้องเป็น
.................
คนกุลา
ต้นคิมหันต์
25 กุมภาพันธ์ 2553 22:29 น.
คนกุลา
๐ ชีวิตเหมือนเลือนลางในทางเปลี่ยว
อาจลดเลี้ยวอ้างว้างร้างสับสน
ท่องเที่ยวมาหารักเพียงสักคน
ฝ่าสายฝนอ่อนระโหยโดยลำพัง
๐ หนทางไกลทดท้อฝืนต่อสู้
เหนื่อยหนักรู้รักเป็นเช่นความหวัง
เพียงพบพลันคลับคล้ายให้พลัง
ไม่รอรั้งสื่อหมายผ่านสายตา
๐ หวังเราสองครองใจไม่ไหวหวั่น
เมื่อมีกันและกันคงหรรษา
คอยเคียงข้างอิงแนบแอบอุรา
แม้นภัยมาส่งใจให้แก่กัน
๐ จับมือมั่นปลอบปลุกในทุกที่
มอบชีวีเปี่ยมหทัยแห่งไฟฝัน
หากใครล้มฉุดรั้งทุกครั้งครัน
สานรักมั่นประคองสองดวงใจ
๐ ต่อแต่นี้คงมิมีที่หมองหม่น
เพราะต่างคนช่วยสร้างทางสดใส
แม้นหนทางข้างหน้าจะแสนไกล
หนักเพียงใดไม่เกี่ยงเพียงมีกัน...
.................
คนกุลา
ต้นคิมหันต์
4 กุมภาพันธ์ 2553 12:51 น.
คนกุลา
๐ พาออกวิ่งเหยาะเหยาะเลาะชายหาด
ด้วยหวังวาดขาแกร่งหยัดแรงฝืน
ปรนน้ำท่ามารอก่อไฟฟืน
แม้ดึกดื่นเฝ้าถนอมมิยอมรา
๐ เขาโก่งงามวามวาวราวมีดแหลม
สีโหนดแกมเหลืองเข้มเต็มหนอกหนา
ชนทุกครั้งชนะไปในทุกครา
โคไหนหวาเกินแกร่งสู้แรงเพรียง
๐ พรุ้งนี้เช้าเจ้าต้องสู้กู้หน้าถิ่น
เขาเหยียบดินแอบหลบกลบชื่อเสียง
งำเก่งกาจมาดแม้นแดนข้างเคียง
มิกล้าเสี่ยงท้าชนจนรู้กัน
๐ เมื่อโคดีนำมาหาถึงที่
หรือมิมีโคใดใครกล้าฝัน
ต้องถึงคราว"ชาวโนด"ส่ง"โหนดจันทร์"
ลงเดิมพันกองสู้ดูสักคราว
๐ วันชนจริงยิ่งใจให้ตื่นเต้น
รอจนเย็นฝนปรอยคอยจนหนาว
เพรียงจนขาดหลายครั้งยังสู้ยาว
เขาหันก้าวเข้าสู้ดูไม่เกรง
๐ ครั้งสุดท้ายได้เพรียงเข้าเคียง"เปาะ"
ถึงคราวเคราะห์เขาแกร่งแทงถูกเผง
เลือดไหลรินเกือบสิ้นใจไปตามเพลง
ฝ่ายครื้นเครงลิงโลดถือ"โหนดจันทร์"
๐ ชนจนเฒ่าคราวชราในหน้าที่
ทุกนาทีมีมาคอยล่าฝัน
ไม่ใช่ทำเพราะโกรธหมายโทษทัณฑ์
หากเพราะนั่นคือวิถีที่ต้อง"ชน"
.
.............
คนกุลา
ปลายเหมันต์
"""""""""""""""""
เขียนจากความทรงจำเก่าๆ ของตำนาน"วัวชน"ในท้องทุ่ง
อ.ระโนด จ.สงขลา ประมาณปี 2503-05
เพรียง หรือ กินเพรียง เป็นกลยุทธชนิดหนึ่งของวัวชน ในการต่อสู้
เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย
เปาะ คือ รั้วล้อมแยก เพื่อบริเวณ ที่วัวชนกัน ออกจากคนดู
ชาวโนด เป็นคำปักษ์ใต้ใช้เรียกชาวอำเภอระโนด จ.สงขลา
โคโหนดจันทร์ ชื่อวัวชน ที่มีชื่อเสียงมากแถบอำเภอระโนด
จ.สงขลา ประมาณ ปี 2503-05
3 กุมภาพันธ์ 2553 11:06 น.
คนกุลา
๐ ในฟ้าค่ำพรำฝนมาหล่นแทรก
เหมือนรักแรกแปลกจังมิหวังสอย
ว่าเธอเป็นเช่นเดือนที่เลื่อนลอย
มัวเฝ้าคอยคงยากหากคิดปอง
๐ เพียงชื่นชมพรมพักตร์เกินจักใฝ่
ห้ามหัวใจไม่หวังเราทั้งสอง
เมื่อหัวใจไหวหวามตามทำนอง
สร้างครรลองมองเห็นให้เป็นไป
๐ เมื่อคลายเหงาเงาฝันวันเธอโศก
เหมือนเป็นโชคช่วยชูดูสดใส
คล้ายวันเริ่มเติมสานสัมพันธ์ใจ
สื่อความนัยซุกซ่อนแต่ก่อนมา
๐ เกิดฐานก่อต่อไต่สายใยรัก
ยิ่งประจักษ์หมายใจให้รักษา
โปรดดูแลแก่กันนะขวัญตา
รอเวลาคราฝันนั้นเป็นจริง
๐ ในฟ้าค่ำพรำฝนมาหล่นแทรก
เหมือนรักแรกแปลกใจในทุกสิ่ง
ว่าสุดห่วงห้วงรักหมายพักพิง
มอบภักดิ์ยิ่งมิ่งขวัญในวันรอ..ฯ
กลางฝนพรำในเหมันต์
คนกุลา