25 มิถุนายน 2553 18:20 น.
คนกุลา
พระอาทิตย์ทรงกรดจรดเหลี่ยมเขา
ไม้ทอดเงายืนร่างดั่งวางเฉย
ทุกทางเท้าก้าวผ่านปานเฉยเมย
นราฯเอยไฟลามจนหวามใจ
ตั้งบังเกอร์เสมอหัวกลัวกระสุน
ใจละมุนกรุ่นกร้านเกินทานไหว
เสียงระเบิดคุกคามลามทั่วไป
โชติเปลวไฟในวันฝันลางเลือน
รั้วกั้นกางทางผ่านทุกย่านถิ่น
น้ำตารินเลือดหลั่งยังเสมือน
หมดสิ้นหวังครั้งมีหลายปีเดือน
ชิวิตเพื่อนพี่น้องต้องปลิดปลง
ควันลอยบางจางเจือเหนือทิวไม้
ใครบ้างได้สิ่งหวังตั้งประสงค์
ใครคือผู้รู้จริงสิ่งดำรง
หรือเพียงคงคุ้มตนพอพ้นภัย
ฟ้าสีแดงแต่งทอดทาบยอดเขา
เมฆแรงเงาเทาหนักคล้ายผลักใส
ต้นยางยังยืนหงอยหรือคอยใคร
ที่จากไกลแรมลาอย่างอาวรณ์
หมู่รถราฝ่าทางแสนร้างเงียบ
ใจเย็นเยียบเหน็บหนาวราวสังหรณ์
ในค่ำคืนใครกันกล้าสัญจร
แรมทางตอนแสนเปลี่ยวสุดเดียวดาย
ตะวันลาพาเดือนมาเยือนฟ้า
พร่างนภาคราจันทร์พลันเฉิดฉาย
ท่องท่ามกลางหว่างนภาดาราราย
พริบพร่างพรายเพริศพราวแสงขาวนวล
บนถนนทุกแห่งรั้วแดงขาว
ขวางเป็นราวรู้ไว้ไม่ให้สวน
เป็นระยะกะกั้นทุกชั้นควน
ยิ่งย้ำทวนที่นี่มีสงคราม
คนกุลา
ในวสันต์
20 มิถุนายน 2553 23:31 น.
คนกุลา
วสันต์พร่างพรั่งพรูอยู่ปลายฟ้า
วนเวียนคราลุวารกาลสมัย
เป็นวันสุดแสนดีที่หทัย
หมายสื่อนัยล้ำค่ามาให้กัน
กรองอักษรสาส์นเรียงด้วยเพียงหวัง
ส่งพลังแรงใจมอบให้ขวัญ
เพลาผ่านนานครบทบวัยวัน
สารสัมพันธ์ครั้นเกิดกำเนิดกาย
ร้อยมาลามาลัยให้มิ่งมิตร
อันดวงจิตคิดใดได้ดั่งหมาย
เรื่องที่ทุกข์หากมีจงคลี่คลาย
ดลใกล้กรายสิ่งดีสิมีมา
ยี่สิบเอ็ดมิถุนาคราบรรจบ
เมื่อเคลื่อนครบดิถีวันนี้หนา
มอบลำนำคำขวัญจำนรรจา
ราชิกานิ่มน้องนวลอนงค์
ร้อยเรียงคำข้ามฟ้าฝ่าวสันต์
จากปลายฟ้าฟากนั้นด้วยประสงค์
ให้มีแต่สมหวังดังจำนง
บอกยังคงหวังดีไม่มีเลือน
สายฝนพร่างพรั่งพรูอยู่ฉ่ำฟ้า
หลั่งสู่หล้าชโลมใจให้เสมือน
เป็นพรจากฟากหาวและดาวเดือน
รวมใจเพื่อน และพี่ ที่อวยพร
ให้อายุวรรณะพละเลิศ
สิ่งประเสริฐส่งสุขสโมสร
ให้ร่ำรวยเงินตราอย่าอาทร
ขอไหว้วอนเทวามาบันดาล
กรองอักษรเรียงร้อยเป็นสร้อยสาย
ด้วยมุ่งหมายร่ายคำพร่ำสื่อสาร
มอบหัวใจใส่วอนผ่านกลอนกานท์
ฝากส่งผ่านม่านฟ้ามาสู่เธอ
......
แสนคำนึง
คนกุลา
ในวสันต์
6 มีนาคม 2553 14:37 น.
คนกุลา
๑)
๐ บนหนทางย่างย่ำถ้อยคำกล่าว
เขียนเรื่องราวกำหนดบทแถลง
วันประกาศศักดา..กล้าสำแดง
เพื่อมาแต่งตำนานการโรมรัน
๐ จะรวมคนเป็นล้านเพื่อการยุทธ
เพื่อจะหยุดกรุยถางทางสร้างสรรค์
ลบครรลองสองมาตรฐานมานานครัน
ต้องจบกันวันที่...เรามีชัย
๐ นำนายเรา...เอากลับมารับขวัญ
รุกพร้อมกันสิบทัพรับได้ไหม
พร้อมสื่อสรรพสำเนียงส่งเสียงไกล
เผยความนัยปรากฎชัดในบัดดล
๐ ระดมคนตั้งทัพสนับสนุน
ระดมทุนจ่ายรับไม่สับสน
ระดมรถรวมตัวทั่วมณฑล
ระดมพลหมายมุ่งสู่กรุงไกร
๒)
๐ ฝ่ายตั้งรับคลับคล้ายไม่ประมาท
เตรียมประกาศพอรอบอคงพอไหว
หากต้องการสานสยามและนามไทย
ต้องตัดไปเลือดชั่วช้าอย่าอาวรณ์
๐ เตรียมตำรวจตรวจตราตามหน้าที่
เอาทีวีแพร่พจน์ทุกบทสอน
พวกไม่ตามด้วยต้องม้วยมรณ์
ใครบั่นทอนชาติไว้ควรใช้กรรม
๐ เตรียมพร้อมรับแนวรุกที่บุกฝ่า
เปิดตำราลวงศึกลึกถลำ
เมื่ออำนาจไม่ใช่ฝ่ายกระทำ
คงพอย้ำหยุดวุ่นวายลงได้พลัน
๐ ทำทุกอย่างภายใต้กฎหมายรัฐ
พร้อมทั้งจัดวางจริงทุกสิ่งสรรค์
กองกำลังสมทบได้ครบครัน
รวมตัวกัน..พร้อมพรรคต้าน...ศักดา
๓)
๐ ประชาไทยไหวหวั่นแสนพรั่นจิต
เพ่งพินิจศึกนี้ชักจะหนักหนา
ยิ่งมีใครมุ่งเอาเผาพารา
เพื่อพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินจนสิ้นไทย
๐ เริ่มตั้งวงเสวนาหาทางออก
แล้วช่วยบอกต่อให้หายสงสัย
ไม่ว่าทุกเสื้อสีที่เป็นไป
ที่แท้ในท้ายสุดต้องหยุดลง
๐ ทุกคนต้องกลับมาทำหน้าที่
เลี้ยงชีวีเคยหวังตั้งประสงค์
เมื่อสงครามการยุทธสิ้นสุดลง
จริงแท้คงทิ้งตำนานการทำลาย
๐ รบกันเถิดหากใครหมายอยากรบ
เพื่อทุกอย่างจะจบตามคาดหมาย
เมื่อวันไฟมอดแรงผ่อนแสงคลาย
ค่อยมาร่ายบทกวี...อย่างที่เป็น
.................
คนกุลา
ต้นคิมหันต์..อันร้อนแรง
2 มีนาคม 2553 21:50 น.
คนกุลา
๐ มาทบทวนกระบวนการในวันเก่า
เมื่อเราไม่มีเราเหงาบ้างไหม
เมื่อกายไร้คนเคียงเหงาเพียงใด
คอยบางใครข้ามฟ้ามาหากัน
๐ บนหนทางพร่างฝันวันฟ้าสวย
ลมระรวยโลมฟ้านภาฝัน
ปานเทพทิพย์ประทับพิมพ์ยิ้มพระจันทร์
แต่ปางบรรพ์พลันพามาพบพาน
๐ เหมือนสองฝั่งสองฝาที่ลาจาก
เหมือนสองฟากจากกันคราวันหวาน
เหมือนคำนึงถึงกันในวันวาน
เหมือนนิทานสานฝันอันเฝ้ารอ
๐ เมื่อมาพบประสบพักตร์ให้รักหวัง
ใจต่อตั้งเต็มใจกระไรหนอ
เหมือนหลอมใจในวันหวานเพียงพอ
มิมีท้อรออยู่หวังคู่ครอง
๐ มาแต่งเติมเสริมคำตำนานนี้
ดลฤดีแรงใจให้เราสอง
ถักกลอนกานท์หวานล้ำร้อยคำกรอง
เรียงครรลองเรื่องที่เรามีเรา
๐ สัญญาใจใครหนาจะกล้าเอ่ย
จะยอมเผยหากไม่มั่นใจเขา
จึงส่งฝันดั้นมาข้ามฟ้าเทา
ย้ำคำเก่าพร้อมจุมพิตก่อนนิทรา...
.................
คนกุลา
ต้นคิมหันต์
28 กุมภาพันธ์ 2553 19:43 น.
คนกุลา
๐ หนังสือพิมพ์เกลี้ยงแผงเหมือนแกล้งว่า
ทั้งพาราตามข่าวเฝ้าสอบถาม
การยึดทรัพย์ตามมีคดีความ
คิดนิยามคุยกันสนั่นไป
๐ เริ่มคดีซุกหุ้นหมุนสะพัด
ปวงสมบัติทั้งหลายให้สงสัย
บนหนทางสร้างสรรค์ประเทศไทย
สร้างสิ่งใหม่โด่งดังทั้งดินแดน
๐ เข้ามาสร้างทางฝันเพื่อวันใหม่
ตั้งพรรคอันเกรียงไกรยิ่งใหญ่แสน
ช่วยคนทุกข์ยากไร้หายขาดแคลน
จนทั่วแคว้นเกิดนิยมชมชอบจริง
๐ พักชำระหนี้สินทุกถิ่นที่
โอท็อปมีมากมายให้ทุกสิ่ง
ประชาชนหลากหลายหมายพึ่งพิง
คนทำยิ่งรับคำชมสมแก่การ
๐ บรรดาพรรคเล็ก-กลางต่างสยบ
ไปสมทบรวมพรรคเป็นหลักฐาน
นโยบายหลายหลากมากตำนาน
เพื่อมาสานสรรค์สร้างหลายอย่างจัง
๐ มาถูกหาว่าผิดเพราะคิดคด
เมื่อกำหนดงานใดคล้ายมุ่งหวัง
จนคนอีกซีกส่วนล้วนชิงชัง
ปลุกพลังขึ้นมาเข้าท้าทาย
๐ เมื่อวุ่นวายสับสนจนยากสาง
ก็เข้าทางทหารตามความคาดหมาย
ยึดอำนาจพร้อมเสมอเอ็กเซอร์ซายด์
ดับวุ่นวายชั่วคราวไม่ยาวนาน
๐ ตั้งหน่วยงานติดตามเอาความผิด
แก้วิกฤติยุบพรรคตามหลักฐาน
อายัดทรัพย์ฟ้องคดีที่พบพาน
ยิ่งเนิ่นนานสืบสาวเข้าประดัง
๐ ก่อนกลับมาเลือกตั้งเหมือนครั้งเก่า
แข่งขันเอาใครนิยมชื่นชมหวัง
ตั้งพรรคใหม่ตามถนัดจัดกำลัง
มิรอรั้งคือข่าวเรื่องราวมี
๐ ฝ่ายมวลชนแบ่งฝ่ายออกหลายหลาก
เป็นฝั่งฟากแต้มแต่งแบ่งหมู่สี
มองอีกพวกเพียงเช่นเป็นไพรี
มุ่งหวังที่สร้างพลังทางการเมือง
๐ เกิดเสื้อแดงแต่งสู้พร้อมกู้ชื่อ
อีกฝั่งถือต้านภัยใส่เสื้อเหลือง
สีน้ำเงินเสริมสังกัดแค้นขัดเคือง
ก่อเกิดเรื่องฝักฝ่ายหมายโรมรัน
๐ มีเหตุการณ์มากมายหลากหลายล้น
ปรากฎบนหนทางแตกต่างฝัน
จนมาถึงอีกบทที่โจทย์จัน
คดีอันโด่งดังตั้งเรื่องราว
๐ บทตัดสินคือจุดแทบสุดท้าย
เมื่ออีกฝ่ายแค้นลึกให้นึกหนาว
ถูกรังแกแพ้ภัยมืดมายืดยาว
คงถึงคราวไทยถูกขังในวังวน
๐ ออกทางไหนก็ยากหากต้องรับ
หรือจะกลับไปเริ่มใหม่ให้สับสน
ประวัติศาสตร์อาจไม่ตามใจคน
คงเคลื่อนบนหนทาง...อย่างต้องเป็น
.................
คนกุลา
ต้นคิมหันต์