15 ตุลาคม 2554 22:08 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๓๖**

คนกุลา


๐ ในโอกาสเริ่มต้น..............รัชกาล
โปรดก่อสร้างสถาน..............เทพเจ้า
“อีศานวรมัน”สาน..................สืบต่อ
“ศิขเรศวร”เกศเกล้า..............จุ่งให้เจริญแสน๚ะ๛

................

๐ ดิถีที่เริ่มต้น
เพื่อบานบนเทิดเทพไท
กลางเมืองเป็นหลักชัย
ธ โปรดให้สร้างอาราม

 ๐ บูชาเทพอิศวร
ตามกระบวนบุราณงาม
สืบต่อปฏิบัติตาม
ดังนิยามที่วางมา

๐ หวังท้าวมหาเทพ
เมื่อได้เสพย์สมอุรา
คงมีพระเมตตา
ปวงประชาของท้าวเธอ

๐ องค์อีศานวรมัน
แม้นมุ่งมั่นสม่ำเสมอ
บูชาและปรมเปรอ
เสด็จโดยพระองค์เอง

๐ บำเพ็ญฤทธิ์ตบะ
ใครพบปะมักกลัวเกรง
ริปูก็ยำเยง
เพราะเตชะศิวะทรง๚ะ๛

..........คน  กุลา    ๑๑  ตุลย์   ๕๔

(กว่าจะมาเป็นไทย  ภาค ๒)
				
13 ตุลาคม 2554 21:32 น.

**ปลอบขวัญ**

คนกุลา


๐ เฝ้าติดตามถามข่าวเรื่องราวร้าย
ทุกสิ่งหายหอบวับไปกับฝน
น้ำเจิ่งนองมองไปในมณฑล
บ่าเอ่อล้นไหลชำแรกซอกแซกซอน

๐ พังทุกอย่างล้างกวาดหาอาจยื้อ
หากใครดื้อถือดังเหมือนสั่งสอน
ธรรมชาติลาดบ่าชลสาคร
แต่เก่าก่อนร่อนชะไรไม่เคยมี

๐ ท่วมบ้านช่องเรือนชานทุกย่านสิ้น
เพพังภินท์ผลาญทบยากหลบหนี
กลบกลืนหายมลายลับกับวารี
หลากชีวีที่ดับไกลกับธาร

๐ มากน้ำใจไทยผองประคองช่วย
มาอำนวยด้วยจินต์ถึงถิ่นฐาน
อุทกภัยใหญ่นี้ที่พบพาน
ขอจงผ่านพ้นไปในเร็ววัน

๐ รวมสิ่งของต้องการส่งผ่านให้
จากแดนใดไกลตาฟากฟ้าฝัน
ในคืนหม่นบนนภาคราไร้จันทร์
ฝากแด่ขวัญยามทุกข์ปลอบปลุกใจ๚ะ๛

............คน  กุลา  ๑๓  ตุลย์   ๕๔
				
11 ตุลาคม 2554 21:15 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๓๕**

คนกุลา


๐ คราครองราชย์พสกล้วน........สดุดี
พระเดชพระคุณมี.....................ส่งให้
หมายเพียงประชาชี...................เป็นสุข
คงกฎเกณฑ์เคยใช้...................ดั่งด้าวแรกสมัย๚ะ๛

..........

๐ “อีศาน”ขึ้นครองราชย์
ทั้งชนชาติสดุดี
พระเดชพระคุณมี
ใช้สิ่งที่เคยร่ำเรียน

๐ หลายเผ่าพงศ์ประสม
ขุนบรมฯกุมบังเหียน
ข้าศึกมาเบียดเบียน
มิลดเพียรปราบริปู

๐ ทำนุและบำรุง
ให้เรืองรุ่งมิอดสู
เมืองใดใครมาดู
ก็เชิดชูในพระนาม

๐ กฎใดที่เป็นธรรม
พระฯน้อมนำพิธีตาม
ประชาทุกเขตุคาม
จึงเห็นงามกับพระองค์

๐ เจนละค่อยเกรียงไกร
ขยายใหญ่และมั่นคง
พระเกียรติยิ่งดำรง
สืบสานส่งจำเริญนาน๚ะ๛

..........คน  กุลา    ๑๑  ตุลย์   ๕๔

(กว่าจะมาเป็นไทย  ภาค ๒)


 				
10 ตุลาคม 2554 16:10 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๓๔**

คนกุลา


กาพย์ห่อโคลงเจนละ
๓๔)

๐ อีศานวรมันบุตรเจ้า.........................จอมไผท
มากฤทธีเกริกไกร.................................ยิ่งแล้ว
อีศานปุระไกล.....................................หมายมั่น
หวังเพื่อเป็นนครฯแก้ว..........................ฝั่งฟ้าสมุทรฝัน..ฯ

............

๐ บรรดาราชบุตร
เก่งที่สุดครองเมืองไกล
แห่งท้าวจอมไผท
กับนางนาคจากบาดาล

๐ เรืองเดชมากฤทธี
ประชาชีจึงกราบกราน
ขึ้นสืบสายวงศ์วาน
เพื่อต่อสานราชวงศ์

๐ หากพระฯท่านตั้งมั่น
เคยผูกพันจึงประสงค์
มุ่งหมายได้ดำรง
ท่ามเผ่าพงศ์ภูมิมารดร

๐ ทรงโปรดให้โก่นถาง
ป่าทามร้างสร้างนาคร
“อีศาน”ท่านวิงวอน
เพื่อรับพรจากนาคินทร์ 

๐ เหมือนราวเนรมิต
ทั่วทุกทิศงามดั่งจินต์
นาคน้ำดูดวารินทร์
จดเหือดแห้งก่อนแปงเมือง๚ะ๛

...........คน  กุลา    ๑๐  ตุลย์  ๕๔

(กว่าจะมาเป็นไทย  ภาค ๒)
 				
4 ตุลาคม 2554 23:18 น.

**จ้าว..เล**

คนกุลา


๐ ชุนตาข่ายขาดปล่องเป็นช่องโหว่

ปลาตัวโตติดข่ายคงว่ายหนี

ค่อยถักสานป่านไยมั่นใจดี

ก่อนค่อยคลี่ออกตากบนฟากปู


๐ อยู่บนฝั่งดังคนที่จนยาก

ถูกถางถากทับกดให้อดสู

ไม่ใช่เป็นเช่นหมอหรือพ่อครู

เขามักดูถูกยับว่าอับจน

 

๐ เพราะศึกษามาน้อยจึงด้อยค่า

เพียงวิชาชีวิตประสิทธิ์ผล

เป็นหนทางสร้างค่ามานะตน

ฝึกอยู่บนผืนน้ำเพียงลำพัง

 

๐ ไล่ลอนคลื่นตื้นลึกพอนึกรู้

ต้นลำพูต้นไหนใครปลูกฝัง

กี่”กระเตง”ตังเกได้เพพัง

กี่คราวครั้งคลื่นลมขย่มเรือ


๐ หลายร่องน้ำย้ำย่านวิ่งผ่านล่อง

ยามเที่ยวท่องทุกหว่างนำหางเสือ

น้ำทะเลข้นเข้มเฝื่อนเค็มเกลือ

วักขึ้นเพื่อลดร้อนผ่อนแดดลม

 

๐ เสียงเครื่องเรือเมื่อจากริมปากน้ำ

แผดเสียงย้ำหยอกเย้าราวขื่นขม

หากินเหนือลอนคลื่นตื่นตาตรม

พริบพร่างพรมพราวน้ำอยู่รำไร

 

๐ แดดที่จ้าคราออกมานอกท่า

และฟากฟ้าฟ่อนเมฆสดเสกใส

มาครึ้มคล้ำดำพลันลงทันใด

โปรยปรายไยยวงยาวหนาวระคน

 

๐ เหม่อเกาะเคียงเรียงรายจรดปลายฟ้า

ดูแปลกตาแตกต่างกลางม่านฝน

คือที่หมายปลายทางสร้างงานตน

สาละวนเวียนมาฝ่าคลื่นแรง

 

๐ คราเย็นย่ำค่ำลงมืดตรงหน้า

ตะวันลาฟ้าคลี่หลายสีแสง

น้ำเงินดำดาดแดดสีแสดแดง

ก่อนลำแสงสุดท้ายมลายไกล

 

๐ จับคันเครื่องวาดหางบอกทางช่อง

มุ่งเที่ยวท่องจุดหมายไว้ที่ไหน

กี่เกาะแก่งแหล่งย่านเคยผ่านไป

ด้วยหัวใจกร้านล้ำขับลำลอย

 

๐ จนย่ำรุ่งคุ้งน้ำในค่ำเผย

ล่วงดึกเลยกลับเรือเพื่อล่าถอย

ที่ฟากฝั่งหวังว่าเมียมาคอย

ปูปลาร้อยเรียงรัดคัดแยกกอง

 

๐ รอพ่อค้ามารับจับจัดหา

แลกเงินตรามาใช้จ่ายซื้อของ

มีสังสรรค์กันบ้างอย่างทำนอง

หมู่เพื่อนพ้องน้ำเค็มเข้มหัวใจ

 

๐ รอเวลากลับหลังยังเวิ้งน้ำ

ทุกคืนค่ำคร่ำคร่าฝ่าคลื่นไหว

กับลำพองสองแขนท่องแดนไกล

ท่ามดาวใสในฝันม่านจันทร์นวล

 

๐ ไปยังที่มีความหมายให้ชีวิต

ที่ลิขิตย้อนยอกบอกใจหวน

กลิ่นทะเลเร่ร่อนวนย้อนทวน

ลอยลากอวนอิ่มหวัง”วังจ้าวเล”

 

....................คน  กุลา  ๔  ตุลย์   ๕๔

 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา