18 สิงหาคม 2554 16:29 น.
คนกุลา
ตำนานเจนละ
๑๙)
๐ หวังสถานเหลือซากไว้..............ตามเรียน
คือสิ่งสืบความเพียร.....................ก่อสร้าง
“บาราย”ดั่งราวเขียน..................ภาพแต่ง
เหลือร่องรอยพออ้าง...................เลิศล้ำยุคสมัย๚ะ๛
...................................................คน กุลา ๓ กค. ๕๔.
๐ สร้างวัดจากหินทราย
ปราสาทคล้ายให้จดจำ
ความเพียรที่ได้ทำ
บูชาเทพในแดนสรวง
๐ ก่อสร้างอาณาจักร
เพื่อเป็นหลักสดมภ์ปวง
ความฝันราวจันทร์จวง
จรัสแจ่มแต้มฟ้างาม
๐ ขุดบ่อน้ำบาราย
อ่านโองร่ายพิธีพราหมณ์
ความเชื่อนั้นสืบตาม
แนวนิยามจากแดนไกล
๐ พื้นเพบูชาอินทร์
อมรินทร์ ธ ทรงชัย
สถิตย์องค์อ่าอำไพ
ณ ไกรลาสขุนคีรี
๐ ความเชื่อที่ศรัทธา
หลักแกร่งกล้าตามพิธี
สร้างขนบประเพณี
อารยธรรมนำหมู่ชน๚ะ๛
..........................คน กุลา ๑๘ สิงห์ ๕๔.
(กว่าจะมาเป็นไทย ภาค ๒)
18 สิงหาคม 2554 00:09 น.
คนกุลา
ตำนานเจนละ
๑๘)
๐ ริมเขตุโขงก่อตั้ง.........................วัดภู
เศรษฐปุระงามหรู.........................เลิศล้ำ
ปราสาทช่างเชิดชู...........................งามเด่น
ขยายถิ่นตามลำน้ำ........................เศวตแก้ว”เสนะวงศ์”๚ะ๛
...................................................คน กุลา ๒ กรกฎ ๕๔.
๐ สุดท้ายแห่งการรบ
ได้สยบฟูนันลง
จิตรเสนจากเครือวงศ์
“เสนะ”ราชประกาศชัย
๐ สถาปนาเศรษฐปุระ
เมื่อชนะศึกเกรียงไกร
“พนม”ก็ล่มไป
เจนละใหม่เด่นศักดา
๐ สร้างเวียงวังปราสาท
ดารดาษด้วยวัดวา
ฉลองการปราบดาฯ
เคลื่อนลงมา”โขง”นที
๐ บูชาเทพอิศวร
ทุกทั่วถ้วนสถานมี
ให้คนทำความดี
และบูชาศิวะลึงค์
๐ โปรดสร้างโรงทวาย
เป็นที่หมายฐานปักตรึง
หินแท่งที่กลมกลึง
แก่ชนชาวของท้าวไท๚ะ๛
.....................คน กุลา ๑๗ สิงห์ ๕๔.
(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
17 สิงหาคม 2554 01:52 น.
คนกุลา
๐ รุ้งเรื่อเรืองร่ำระบาย เป็นสายรุ้ง
โค้งขอบคุ้งข้ามเขา สาดเงาโค้ง
โยงยองใยเยี่ยมยอด เชื่อมสอดโยง
แลลิบโล่งเลิศล้ำ ฉ่ำตาแล
๐ ฝอยฝนฟุ้งฟากฟ้า พร่าเป็นฝอย
แขไขค่อยคืบคลาน คลี่ม่านแข
แปรเปลี่ยนปานเป็นไป ใจปรวนแปร
ชวนเชือนแชช่างชอบ อยากตอบชวน
๐ กับกลกลอนก่อนเก่า เอาบวกกับ
สรวลสร้อยสรรพเสียงใส ไยกำสรวล
นวลน้องนางนุชแนบ แอบเนื้อนวล
ใจเจ็บจวนจำจน หมองหม่นใจ
๐ พร่างพรมพรูพรายพราว ราวลมพร่าง
ไหลเลือนรางลูกลอน ทวนย้อนไหล
ไกลใกล้กลายกลืนกลับ ลับเลือนไกล
นานเนิ่นในนับเนื่อง เรื่องยาวนาน
๐ รุ้งเรื่อเรืองร่ำระบาย เป็นสายรุ้ง
ผ่านพวยพุ่งเพียงพาด คราวาดผ่าน
การกะเกณฑ์กิจกรรม หมายทำการ
วามแววหวานหวามไหว ในรุ้งวาม
..........................คน กุลา ๑๗ สิงห์ ๕๔
16 สิงหาคม 2554 01:37 น.
คนกุลา
ตำนานเจนละ
๑๗)
๐ ฟูนันฟูเฟื่องนั้น..............สลายลง
“รุทะวรมัน”คง..................เสื่อมแล้ว
ราชันบ่ประสงค์..................กรำศึก
จึงหมดยุค”ออกแก้ว”.........ส่งให้เจนละครอง๚ะ๛
๐ ฟูนันเคยฟูเฟื่อง
นามกระเดื่องก้องฟ้าไกล
ถึงคราวลับครรไล
ดั่งไถงเมื่ออัศดง
๐ กษัตริย์นามรุทะราช
มิองอาจกล้าทะนง
จิตรเสนเกณฑ์เผ่าพงศ์
สามารถปราบราบคาบไป
๐ จึงมอบให้โอรส
ครอบครองจรดถิ่นใกล้ไกล
เขตุฝั่งสมุทรไทย
ตั้งเมือง ณ”สะมะพู”
๐ ท่านโปรดให้จารึก
ผลการศึกหวังเชิดชู
ยุคใดใครหมายดู
คงได้รู้ถึงพระนาม
๐ ว่ามีขัตติยะราช
ผู้เก่งกาจเกินนิยาม
ประชิดรุกติดตาม
ยึดเขตุคามแคว้น”พนม”๚ะ๛
.....................คน กุลา ๑๖ สิงห์ ๕๔.
(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
11 สิงหาคม 2554 10:56 น.
คนกุลา
ตำนานเจนละ
๑๖)
๐ คราลุสมัยพระเจ้า..............จิตรเสน
รวมไพร่พลกองเกณฑ์...........ฮึกห้าว
ขยายรัฐสู่บริเวณ....................รายรอบ
จรดฝั่งโขงแดนด้าว................ก่อสร้างนครหลวง๚ะ๛
...............................คน กุลา ๒๙ มิย ๕๔
๐ รัชสมัยจิตรเสน
พระองค์เจนจบการศึก
ไพร่พลก็เหิมฮึก
คะนองคึกพระเดชา
๐ สะสมระดมทัพ
ทั้งพร้อมสรรพทุกนครา
ลงโขงยึดจัมปา
ฝั่งธาราแดนฟูนัน
๐ เพื่อสร้างนครหลวง
ในหนห้วงฤทัยฝัน
ครอบครองเจ้าแจ่มจันทร์
ลักษมีนารีนวล
๐ กรีฑากระบวนทัพ
มิถึงกับให้เชิญชวน
แต่ต้องจัดกระบวน
หากยอมอยู่ในร่มธง
๐ ส่งทูตไปเจรจา
ให้รู้ว่าจะขึ้นตรง
หรือมุ่งหมายมั่นคง
จะสู้รบจบชีพวาย๚ะ๛
.....................คน กุลา ๗ สิงห์ ๕๔
( กว่าจะมาเป็นไทย ภาค ๒)