25 สิงหาคม 2552 19:08 น.

**ถามฟ้า**

คนกุลา

attachment.php?attachmentid=70930&stc=1             
๏ นภามัวหม่นแล้ว        ฝนพราย 
รินหลั่งเหมือนเป็นสาย  ใส่สร้อย 
เพียงพรำร่ำระบาย        งามกว่า  ใดนา 
ดังม่านพรมเรียงร้อย      ห่มด้วยสังวาลย์ ฯ

๏ สายฝนรินสู่หล้า        คราใด  น้องเอย 
มวลส่ำสัตว์พงไพร        ชุ่มชื้น 
ไหลโลมท่าทางไกล       ธารทุ่ง   นองเฮย 
หวังสิ่งหลงลืมฟื้น          ชื่นน้ำคราวเห็นฯ

๏ เสียงครวญดังยั่วเย้า  ติงเตือน 
ลมพร่างครางลางเลือน    กว่าแสร้ง 
คอยโฉมแม่คืนเรือน      มาสู่  ใจนา 
ฤๅว่าคัคนางค์แกล้ง        พี่ให้ยอกหทัย ฯ

๏ หลังสายฝนหลั่งล้น     โลมดิน  ลงนา
งามผ่องปานยุพิน         แน่งน้อง 
ยามใครใคร่ยลยิน       สวยแม่  นางเอย 
วานพี่หวังยังข้อง           สู่ฟ้าถามสรวงฯ

๏ ทุกคราวฝนพร่ำฟ้า     คราใด นางเอย
วันใหม่งามสดใส          ยิ่งแล้ว
คราฝนหล่นในใจ         ทรวงพี่  ตรมนา  
หวังแต่เพียงนางแก้ว    ช่วยให้สุขเกษมฯ
                         .........

  

20090416_009.jpgattachment.php?attachmentid=55093&stc=1				
24 สิงหาคม 2552 20:07 น.

**ฝนครวญ**

คนกุลา

17117.gif       
 ๏ คืนคราฝนร่ำฟ้า           ปรอยปรอย 
ใจพี่ยังคงคอย                  นิ่มเจ้า 
หวังถวิลปิ่นผมปอย           ปักคู่  มวยนา 
คำเอ่ยมิเคยเย้า                 กริ่งน้องนางเคืองฯ

 ๏ ยามวสันต์รินสู่หล้า        โปรยปราย แม่เอย 
ปานว่าใจละลาย                นั่นแล้ว 
ดอกฝนหล่นเป็นสาย          สาดใส่  นองนา
หวังแต่เพียงนางแก้ว         อย่าร้างกายไกลฯ

๐ ฤๅรักจักห่างเศร้า            เนาว์จินต์
ใจพี่ยามฝนริน                  ห่วงน้อง
ภักดิ์โฉมแม่ยุพิน              หวังคู่  นวลนา
เต็มเปี่ยมจิตทุกห้อง           มอบให้เธอครองฯ

๏ ฝนเอยเหมือนดั่งคล้าย     ครางครวญ  
ฤๅส่งเสียงเชิญชวน            คู่เคล้า 
ฤดีสื่อใจนวล                    เคียงคู่  กันนา 
หวังพี่มีเพียงเจ้า                แน่งน้อยหวลถวิล ฯ 


                          .......................

 

17120.gif17125.gif17126.gif				
23 สิงหาคม 2552 17:49 น.

**สะพานรักข้ามโขง**

คนกุลา

00-thai-laos-bridge1.jpg.

ฟาก"แม่ของ"สองฝั่งหลั่งรินไหล
สื่อสายใยไหลเอื่อยเรื่อย"ลำโขง"
ดังเน้นคำย้ำใจให้เชื่อมโยง
รินคดโค้งโล่งมาฝ่าแก่งกราย

ดุจสายเลือดฤๅเหือดแห้งแต่งดินชุ่ม
เขียวชะอุ่มพุ่มพฤกษ์ลึกร่องสาย
ร้างระบมตรมใจไม่แพร่งพราย
ยามทุกข์คล้ายคราโศกวิโยคจินต์

ครั้ง"ริมของ"สองฝั่งยังเป็นญาติ
เชื่อมชนชาติวาดหวังสองฝั่งสินธุ์
เล่าเป็นเรื่องเมืองจำปาแห่งนาคินทร์
และเมืองอินทร์อ้างแปงแต่งตำนาน

นับหลายปีดีดักรักสลาย
เลยมลายคลายลับเหมือนพับฐาน
สองฝั่งโขงขึงปิดสนิทนาน
ลืมนิทานหวานปองสองฝั่งใจ

เมื่อสะพานสานใจพลันได้เปิด
ค่อยก่อเกิดเถิดหวังสักครั้งไหม
ให้สะพานรักสานสะพานใจ
เชื่อมคนไกลสองท่าข้ามหากัน

เปิดตำนานหวานหวังในครั้งใหม่
สะพานใจให้รักถักห้วงฝัน
สะพานรักถักหวามท่ามตาวัน
เหมือนรุ้งพลันพรายเลื่อมเชื่อมสองเรา

 
..............


คนกุลา
ในวสันต์
 

.........................

800px-Thai-Lao-Freundschaftsbruecke.jpgpicture%5C59255013312.jpgDSC01679-crop_RZ.jpg				
22 สิงหาคม 2552 12:01 น.

**อนุรักษ์..ใจ **

คนกุลา

img4351fl4.jpgIMG_9131.jpg

 ๐ แสงระยิบพริบปรอยพร้อยระยับ
งามราวรับกับสรวงในห้วงฝัน
กุมมือนางกลางใจคืนไร้จันทร์
อิงแอบกันพลันชื่นคืนลอยเรือ

 ๐ พราวหิ่งห้อยด้อยแสงมิแข่งสี
แสงไฟนีออนพรั่งอยู่ฝั่งเหนือ
พอตบแต่งแรงหนุนคอยจุนเจือ
อุ่นโอบเอื้อลำพูอยู่แสนนาน

 ๐ ในหว่างกลางทางน้ำงามและเงียบ
ก็อาจเปรียบเทียบใจที่ใสหวาน
กับเรื่องราวยาวไกลในตำนาน
เคยเล่าขานแควคุ้งสู่กรุงไกร

 ๐ ว่าลำพูชูรากริมฟากท่า
รอเวลาหิ่งห้อยคอยแสงใส
ด้วยความหวังตั้งมั่นมิพรั่นใด
เกินหัวใจดวงเศร้าเฝ้ารอนาง

 ๐ เราก็เหมือนลำพูยืนคู่ฝั่ง
เก็บความหลังฝังใจในรุ่งสาง
ยึดใยรักปักใจไม่เลือนลาง
เพียงรอนาง/หิ่งห้อยน้อยกลับคืน

 ๐ เมื่อคืนค่ำร่ำฟ้าคราเดือนมืด
ใจเย็นชืดเชยผ่องมิต้องฝืน
มาพราวพร่างต่างผสมให้กลมกลืน
ลำพูรื่นเริงเล่นดุจเช่นเคย

 ๐ คล้ายเราสองครองกันแต่วันไหน
หวังวันใจเคียงคำนำมาเผย
นับแสนนานปานเทียบสุดเปรียบเปรย
ยามชื่นเชยชมแสงวับแข่งกัน

 ๐ หวังหิ่งห้อยร้อยลำพูคู่ธรรมชาติ
เป็นภาพวาดฝั่งนทีที่สุขสันต์
ต้องอนุรักษ์พิทักษ์ธารทุกวารวัน
เพื่อสร้างฝันฝั่งชลให้ทนทาน

 ๐ อนุรักษ์ธรรมชาติก็อาจเปรียบ
หากมาเทียบห้วงใจสดใสหวาน
หวังปกปักรักษ์สิ่งใดในตำนาน
ดั่งนงคราญอนุรักษ์ใจให้พี่ครอง


...........


คนกุลา
ในวสันต์

""""""""""""""""""""""

hinghoy2vb7.jpghinghoi4da4.jpgattachment.php?attachmentid=8723&stc=1&d2008921162721.jpg461254120_8645139caf_o.jpg				
21 สิงหาคม 2552 12:07 น.

**หยุดหัวใจไว้เพียงเธอ**

คนกุลา

1181498077.jpg  .
 
 ๐ คนเดินทางย่างเท้าคราวว้าเหว่
เหมือนพเนจรมาจากฟ้าหนาว
มุ่งถากถางทางชีวิตขีดเรื่องราว
ตามหาดาวในฝันทุกวันมา

 ๐ ด้วยความเหงาเนาว์ใจในวันเก่า
คำว่าเราฤๅมีที่ห่วงหา
กดความเจ็บเก็บงำมินำพา
เพียรรักษาสิ่งหมายภายในใจ

 ๐ คุณธรรมย้ำไว้คล้ายบ่งบอก
เพียงเพื่อตอกย้ำเติมเสริมสดใส
มิอับอายใจตัวกลัวทำใม
หากสิ่งใดได้ทำกล้าจำนรรย์

 ๐ คนเดินทางบางครามิว้าเหว่
เมื่อพเนจรมาพบฟ้าฝัน
ดั่งพบดาวพราวใจให้ผูกพัน
ใจเคยครั่นคร้ามรักหมายพักพิง

 ๐ เหมือนพบน้ำบ่อน้อยลอยรินหยด
ย้อยราดรดเริงใจไปทุกสิ่ง
ทุกท่วงท่าทำนองปองแท้จริง
หวงรักยิ่งยาใจให้มั่นคง

 ๐ คงถึงคราวหยุดใจที่ไหวอ่อน
หยุดไฟฟอนรอนใจในสรวงสรง
หยุดตำนานสานสื่อว่าซื่อตรง
หยุดทนงปลงใจไว้เพียงเธอ

.


..........

ในวสันต์
คนกุลา

..............................
1181498150.jpg1124.jpg?n				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา